สคทช. จับมือ GISTDA พัฒนาฐานข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมภายใต้ “ระบบติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน Sphere ใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายทางอากาศตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดิน คทช. และป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อม” เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2568 ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) เป็นประธานในการเปิดสัมมนา แนวทางการปฏิบัติสำหรับการกำกับดูแลพื้นที่ ภายใต้นโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) และการใช้งานระบบติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Sphere) เพื่อติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน และป้องกันปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม โดยมี ดร. ศิริลักษณ์ พฤกษ์ปิติกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ผู้แทนจากหน่วยงานราชการส่วนกลาง ที่เกี่ยวข้องในการดูแลพื้นที่ ผู้แทน คทช. จังหวัดทั่วประเทศ ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ สคทช. กว่า 300 คน เข้าร่วมงาน ณ ห้องแกรนด์บอลรูมเอ ชั้น 4 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ และผ่านระบบออนไลน์
ดร.รวีวรรณฯ ผอ.สคทช. กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่การดำเนินงานของ สคทช. ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (สทอภ. หรือ GISTDA) ในการพัฒนาระบบติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Sphere) และจัดทำฐานข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่จัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) และระยะกันชนโดยรอบ (buffer zone) 100 เมตร เพื่อใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูง มาเป็นเครื่องมือและฐานข้อมูลที่สำคัญในการสนับสนุนการดำเนินการตามภารกิจ อาทิ การติดตามตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินและการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่เพื่อกำหนดมาตรการและแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกระทำผิดเงื่อนไขข้อกำหนดการจัดที่ดิน คทช., การติดตามและบันทึกข้อมูล จุดความร้อน (Hot Spot) ที่เกิดจากการเผาซากวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่ คทช. เพื่อประเมินและกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืน สนับสนุนภารกิจเป้าหมายในการลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 ของประเทศ รวมถึงเป็นข้อมูลประกอบการรับรองสิทธิ์และการทำประโยชน์ในพื้นที่ของรัฐอย่างถูกต้องของเกษตรกรในพื้นที่ ภายใต้ระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า หรือ EUDR (EU Regulation on Deforestation-free products : EUDR)
“ฐานข้อมูล Sphere ใช้ติดตามงาน ใน 2 ส่วน คือติดตามเรื่องของการเผาซึ่งจะซ้อนข้อมูล
จุดความร้อน (hotspot) ร่วมกับของการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ คทช. จากนั้นส่งข้อมูลไปยังจังหวัดเพื่อให้สามารถตรวจสอบสาเหตุกิจกรรมการใช้ที่ดินในพื้นที่ที่เกิดจุดความร้อน (hotspot) และ PM2.5 รวมถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับมาตรการ EUDR ในระดับสากล และส่วนที่ 2 ใช้สำหรับติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน การระบุตำแหน่งรูปแปลงของเกษตรกร ลดข้อจำกัดเรื่องอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่ไม่เพียงพอ ถือเป็นการนำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้ ในการติดตามตรวจสอบ ที่สำคัญยังเป็นการช่วยป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งทุกท่านคงได้ทราบข่าวเรื่องมีนายทุนต่างชาติบุกรุกที่ดิน คทช. ทำสวนทุเรียนพื้นที่หลายร้อยไร่ทางภาคตะวันออก ในการดำเนินการตรวจสอบกรณีนี้ สคทช. ได้รับความร่วมมือจาก GISTDA นำภาพถ่ายดาวเทียมในช่วงเวลาต่าง ๆ มาวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งได้ภาพหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีร่องรอยการทำประโยชน์ก่อนพื้นที่นี้จะถูกนำเข้าเป็นพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดิน คทช. และต่อมามีการรวมแปลงย่อยเป็นแปลงเกษตรกรรมขนาดใหญ่ ในเรื่องนี้ท่านรองนายกรัฐมนตรี ท่านประเสริฐ จันทรรวงทอง ในฐานะประธาน คทช. ได้มอบนโยบายให้เพิ่มความเข้มงวดในการจัดที่ดิน และให้ สคทช. ร่วมกับหน่วยงานหาวิธีการในการตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดิน คทช. ทุกแปลง หากพบการกระทำผิด ให้มีการดำเนินการตามเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ และดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด”ผอ.สคทช. กล่าวย้ำ
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมสาธิตและทดลองใช้ (Workshop) ระบบติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ คทช. (Sphere) ให้แก่เจ้าหน้าที่จาก สคทช. หน่วยงานราชการส่วนกลาง และหน่วยงานระดับภูมิภาคที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลพื้นที่ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับหน่วยงานผู้เป็นเจ้าของที่ดินของรัฐที่นำพื้นที่เข้าสู่กระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน และเจ้าหน้าที่ในระดับพื้นที่ ให้สามารถนำระบบ Sphere ไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป
#สคทช #ระบบติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน #Sphere #คทช #บริหารจัดการที่ดิน #ประชาชนอยู่กินยั่งยืน