รวบ 2 โจ๋ประกอบระเบิดทิ้งข้างถนน ทำด.ช. 9 ขวบดับสลด อ้างเอาไว้ใช้สงกรานต์ แม่เด็กร่ำไห้ สะเทือนใจเจอตร.พูดเรื่องปกติวัยรุ่น เป็นสัจธรรมต้องเจอ ซ้ำเขียนสำนวนญาติไม่ติดใจเอาความ

จากกรณีเกิดเหตุสลด “น้องงนาย” เด็กชายวัย 9 ขวบ เดินเล่นบนถนนภายในหมู่บ้านเก็บวัตถุต้องสงสัยมาแกะและเกิดระเบิดขึ้นทำให้เด็กชายร่างเละเสียชีวิต และทางญาติได้บำเพ็ญกุศลฌาปนกิจไปแล้ว ตำรวจ สภ.วังทรายพูนทำคดี ไม่คืบหน้าแถมบอกแม่ของเด็ก 9 ขวบว่าเป็นสัจธรรม อีกทั้งไม่มีความคืบหน้าคดี ต่อมาทางญาติๆจึงได้โพสต์ทางโซเชียลขอความเป็นธรรมต่อสังคม เพราะผ่านมากว่าสิบวันนั้น

อ่านข่าว – เด็ก 9 ขวบ เดินเล่นตามถนน เจอวัตถุปริศนา หยิบมาดูถูกระเบิดเสียชีวิต เข้าตรวจพื้นที่เจอเพียบ!

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 เมษายน พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ได้รับคำสั่งจาก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัวและให้ความเป็นธรรมแก่ญาติผู้เสียหาย โดยนำกำลังชุดสืบสวน ชุด EOD และตำรวจ สภ.วังทรายพูน ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง และพบระเบิดเพิ่มอีก 1 ลูก เป็นระเบิดแสวงเครื่องประกอบเอง บริเวณพงหญ้า ถนนบ้านหนองโพธิ์ หมู่ 15 ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร บริเวณใกล้เคียงกับที่ เด็ก 9 ขวบ ที่เก็บได้และระเบิดได้ระเบิดใส่ร่างจนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD เก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธร จ.พิจิตร ออกมาทำการเก็บกู้ โดยกันประชาชนให้ออกจากที่พบระเบิดและปิดเส้นทางถนนสายดังกล่าวชั่วคราว

ล่าสุด ต่อเมื่อเวลา 11.00 น. ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.พิจิตร ร่วมกับตำรวจภาค 6 ตำรวจ สภ.วังทรายพูน ฝ่ายปกครอง อ.วังทรายพูน ได้สืบสวนหาข่าวเบาะแสกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้าน สามารถรวบตัววัยรุ่น (เป็นเยาวชน) ต้องสงสัยที่จะเป็นคนนำระเบิดไปทิ้งไว้จำนวน 2 ราย คือ นายปาม อายุ 17 ปี และ นายแมน อายุ 16 ปี นำมาสอบปากคำที่ สภ.วังทรายพูน

โดยมี นายกิตติพล เวชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พล.ต.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร และผกก.สภ.วังทรายพูน และนายอำเภอวังทรายพูนและ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)พิจิตรร่วมสอบปากคำ

โดยทั้ง2 ให้การรับสารภาพ ว่า ได้ประกอบวัตถุระเบิดกันเองเพื่อเตรียมเอาไว้ใช้ในช่วงสงกรานต์ โดยร่วมกับเพื่ออีก 4 คน  เป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านเดียวกัน และเหลืออีก 2 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีในขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า นายปามและนายแมน 2 เยาวชนหลังจากตำรวจจับได้ สำนึกผิดยกมือขอโทษ นางรัศมี แม่ของน้องนาย เด็ก 9 ขวบ ที่เสียชีวิต ซึ่งนางรัศมีร่ำไห้ตลอดเวลา และยกมือไหว้ขอโทษตลอดเวลา

พล.ต.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่าขณะนี้หลังจากที่ตนเอง ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่ เกิดเหตุ และได้ พบ ระเบิดแสวงเครื่องอีก 1 ลูกซึ่งตก อยู่ใกล้กับน้องคนที่เสียชีวิต อีก 1 ลูก จึงสั่งให้ ชุด ตำรวจชุด EOD มากอบกู้ระเบิดดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ยังสั่งให้ตำรวจ ปูพรมค้นหาวัตถุระเบิดเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านแต่ก็ไม่พบแล้ว ตอนนี้กำลังติดต่อไปที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด เพื่อที่จะได้มาเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ขณะนี้ตำรวจสามารถกลุ่มวัยรุ่นซึ่ง เป็นเยาวชนอายุ 16 ปี และ 17 ปี ได้ แล้ว 2 คน และจะขยายผลจับเพิ่มอีก 2 คน ก็เป็นเยาวชนเหมือนกัน

ด้านนายบุญมี  อายุ 74 ปี คุณตา “น้องนาย” เล่าว่าตนเองได้ยินเสียงระเบิดจึงออกมาดูพบว่าเป็นหลานตนเองจึงเรียกรถพยาบาลมารับตัวไปรักษาแต่ก็เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ซึ่งระเบิดโดนคนแรกเลยโดนเต็มๆ ส่วนอีกคนมาด้วยไม่โดนเพราะเขาเบี่ยงตัวอยู่ เขาก็บอกน้องว่าอย่าจับขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเห็นแปลกๆ เขาก็จับขึ้นมาเกิดระเบิดทันทีก็เอาตัวไปโรงพยาบาล แต่คาดว่าน่าจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุแล้ว กระดูกซี่โครงหน้าจะหัก แล้วตำรวจก็มาตรวจเจออีก 1 ลูก และก็เก็บกู้ไปอีก 1 ลูก เราก็ไม่รู้เลยว่าใครมาทิ้งเพราะถนนเส้นนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด เราก็ไม่อยากโทษใครเพราะไม่มีหลักฐาน

นางรัศมี  อายุ 31ปี แม่ “น้องนาย” เด็กชายวัย 9 ขวบ เล่าให้ฟังว่าอยากรู้ว่าใครที่มาทิ้งไว้แบบนี้เด็ก มันตัวเล็กๆไม่รู้เรื่อง ขนาดผู้ใหญ่ยังไม่รู้เลยว่าเป็นระเบิด แล้วลูกตน เขาเป็นเด็กขี้สงสัย เจอฝาเจออะไรก็จะหยิบขึ้นมาดู แล้วเด็กยังไม่ได้มีโอกาสที่จะทิ้งระเบิดไปเลยมัน ก็ระเบิด ลูกตนเรียนที่โรงเรียนวัดหน้าบางประหัน อยู่อยุธยา มาที่พิจิตรวันเสาร์ วันอาทิตย์ เย็นตาก็จะพากลับ แต่ยังไม่ทันได้กลับก็มาเกิดเหตุ

นางรัศมี กล่าวต่อว่า ในสำนวนเขียน ว่า ญาติไม่ติดใจเอาความ เพราะตอนนั้นใจตนแตกสลายไปแล้ว และตนก็ไม่ได้จะไปเรียกร้องเอาเงินเอาอะไรอยู่แล้ว เพราะตนเสียลูกไปแล้ว แต่ตนอยากให้จับตัวคนร้ายให้ได้ พอวันนั้นไปแจ้งความผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 ที่เขาเป็นพี่ตน เขาบอกว่าอยากให้ดำเนินคดีให้หน่อย ลงไปตรวจพื้นที่ให้หน่อย วันที่เกิดเหตุเขาก็ไม่ไป ไปจนวันเผาแล้ว แล้วตำรวจก็พูดว่า เป็นเรื่องปกติที่วัยรุ่นจะทำระเบิดปิงปองใครก็ทำขึ้นมาได้ มันเป็นสัจธรรมที่ต้องเจอ เกิดแก่เจ็บตาย เสียใจที่ตำรวจพูดแบบนี้ แต่มันทำอะไรไม่ได้ หมดกำลังใจไปตั้งแต่เสียลูกแล้วยังมาเจอคำพูดแบบนี้อีก เขาไม่คิดที่จะไปสืบไปอะไรเลยหรอ

นางรัศมี กล่าวต่อว่า จนนายอำเภอวังทรายพูน กับปลัดรู้เรื่อง ท่านเลยไม่ยอมให้เขียนสำนวนแบบนี้ และให้ไปสืบเรื่องต่อไป วันนี้พอใจกับการ ที่ตำรวจ โดยเฉพาะผู้การจังหวัดพิจิตรมาติดตามคดี ทำให้สามารถจับตัว คนนำระเบิดมาทิ้งได้ แล้วซึ่งขอบคุณสื่อที่ช่วยในเรื่องนี้