กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 7 วันล่วงหน้า 6-12 เม.ย. พายุฤดูร้อน ถล่ม 2 ช่วง ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
วันที่ 6 เม.ย.2568 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 6–12 เมษายน พ.ศ. 2568
บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางแห่งในภาคเหนือ และภาคกลาง ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ประกอบกับในช่วงวันที่ 11–12 เม.ย. จะมีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้
ในขณะที่ลมตะวันออกกำลังอ่อนพัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1–2 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ในช่วงวันที่ 6–8 และ 11-12 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง
ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
ช่วงวันที่ 6-8 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ช่วงวันที่ 9–12 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 21–28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33–41 องศาเซลเซียส
ช่วงวันที่ 6–7 และ 11–12 เม.ย. มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30–40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
ช่วงวันที่ 8–10 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ช่วงวันที่ 6–8 เม.ย. ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนช่วงวันที่ 9–12 เม.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 20–27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส
ช่วงวันที่ 6-8 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ช่วงวันที่ 9–12 เม.ย. อากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม
อุณหภูมิต่ำสุด 23–27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34–41 องศาเซลเซียส
ช่วงวันที่ 6-8 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ช่วงวันที่ 9–12 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10–30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 24–28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31–38 องศาเซลเซียส
ช่วงวันที่ 6-8 เม.ย. อากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
ช่วงวันที่ 9–12 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่
โดยช่วงวันที่ 6-9 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ช่วงวันที่ 10–12 เม.ย. ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21–27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30–36 องศาเซลเซียส
ช่วงวันที่ 6-8 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่
ช่วงวันที่ 9–12 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่
ช่วงวันที่ 6-9 เม.ย. ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนช่วงวันที่ 10–12 เม.ย. ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส
ช่วงวันที่ 6-8 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ช่วงวันที่ 9–12 เม.ย. อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
อุณหภูมิต่ำสุด 25–29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32–39 องศาเซลเซียส
กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ 7 วันล่วงหน้า 6-12 เม.ย. พายุฤดูร้อน ถล่ม 2 ช่วง