หัวหิน” จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติวัยเกษียณนิยมเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและพำนักระยะยาว
ล่าสุด บริษัท บูลล์โลตัส หัวหิน (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของโครงการ “เบลวิด้า เอสเตท หัวหิน” จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกับ นายจิโอวานนี แวน ดัม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจดิจิทัล บริษัท ซิสก้า ดีไซน์ จำกัด, นายไฮโก้ เอ็มมานูแอล ผู้ร่วมก่อตั้ง Be Well Medical Center คลินิกดูแลสุขภาพเบื้องต้นแบบตะวันตก และนายโจนาธาน แฟร์ฟิลด์ บรรณาธิการบริหาร “หัวหิน ทูเดย์” ได้ร่วมกันนำเสนอผลสำรวจความคิดเห็นของชาวต่างชาติที่เกษียณและกึ่งเกษียณอายุในหัวหินกว่า 500 คน
โดย นายจิโอวานนี แวน ดัม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจดิจิทัล บริษัท ซิสก้า ดีไซน์ จำกัด กล่าวว่า การศึกษาสำรวจความคิดเห็นของชาวต่างชาติที่เกษียณและกึ่งเกษียณอายุในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากคณาจารย์จากภาควิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ (ABAC) และถือเป็นหนึ่งในการสำรวจที่ครอบคลุมที่สุดเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่ใช้ชีวิตวัยเกษียณในประเทศไทย โดยผลสำรวจสะท้อนให้เห็นข้อมูลชัดเจนว่า หัวหินยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวต่างชาติวัยเกษียณ
สำหรับการสำรวจการเก็บข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป และพำนักในหัวหินอย่างน้อย 6 เดือนต่อปี กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ชาวต่างชาติจาก 76 ประเทศ โดยส่วนใหญ่มาจากยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือ อายุเฉลี่ยของผู้ตอบแบบสอบถามอาศัยอยู่ในประเทศไทย ประมาณ 12.5 ปี และเกือบ 1 ใน 3 ใช้ชีวิตและอาศัยอยู่ในหัวหินมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปี
เหตุผลหลักที่ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกหัวหินเป็นที่อยู่อาศัย ได้แก่ บรรยากาศที่เงียบสงบ ความใกล้ชิดกับชายหาด ค่าครองชีพที่เหมาะสม สภาพอากาศที่ดี และความสะดวกในการเดินทางไปกรุงเทพฯ หลายคนรู้จักหัวหินจากคำแนะนำของเพื่อน หรือเคยเดินทางมาเยือนก่อนตัดสินใจย้ายมาอยู่ถาวร
ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า “หัวหินไม่ใช่เมืองใหญ่ แต่มีทุกอย่างที่ต้องการ และหากจำเป็นต้องไปกรุงเทพฯ ก็เดินทางได้สะดวก”
ด้าน นายไฮโก้ เอ็มมานูแอล ผู้ร่วมก่อตั้ง Be Well Medical Center เปิดเผยว่า แม้ว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่จะพึงพอใจกับการใช้ชีวิตในหัวหิน แต่ยังมีปัจจัยที่ทำให้บางคนพิจารณาย้ายออก โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลและประกันสุขภาพที่สูง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ชาวต่างชาติในกลุ่มอายุ 55-60 ปี ต้องทบทวนการพำนักระยะยาว
นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามยังสะท้อนถึงปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขและพัฒนา ได้แก่ 1.ความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะอุบัติเหตุทางจราจรที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง 2.คุณภาพอากาศและมลพิษตามฤดูกาล ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในบางช่วงของปี 3.ระบบภาษีสำหรับผู้เกษียณอายุที่ยังมีความไม่แน่นอน 4.ความยุ่งยากของขั้นตอนการขอวีซ่าและการพำนักระยะยาว 5.ปัญหาความสะอาดในเขตเมือง และ 6.ปัญหาสุนัขจรจัด ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเมือง
นายโจนาธาน แฟร์ฟิลด์ บรรณาธิการบริหาร “หัวหิน ทูเดย์” กล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการสำรวจความคิดเห็นของชาวต่างชาติที่เกษียณอายุในหัวหินอย่างละเอียดและครอบคลุมทุกแง่มุม
“เป็นเรื่องที่ดีที่เราได้รับฟังความคิดเห็นโดยตรงจากผู้ที่เลือกหัวหินเป็นบ้านของพวกเขา การเข้าใจประสบการณ์และมุมมองของคนต่างชาติที่เข้ามาอยู่อาศัยในหัวหินจะช่วยให้ภาคส่วนต่าง ๆ สามารถพัฒนาเมืองให้ดีขึ้น และน่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน”
จากผลสำรวจนี้ชัดเจนว่า หัวหินยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมในกลุ่มชาวต่างชาติที่ต้องการใช้ชีวิตวัยเกษียณ
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาและปรับปรุงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และระบบสาธารณสุข จะช่วยให้เมืองนี้ยังคงเป็นจุดหมายที่น่าอยู่และยั่งยืนในอนาคต
อนึ่ง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งสถิติจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปี 2567 มีนักท่องเที่ยวรวมประมาณ 11,381,148 คน เทียบปี 2566 มีนักท่องเที่ยวรวมประมาณ 11,216,756 คน หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 1.47% แบ่งเป็นคนไทย 10,660,268 คน ชาวต่างชาติ 556,488 คน รวมรายได้จากการท่องเที่ยว 51,702.91 ล้านบาท เทียบปี 2566 มีรายได้จากการท่องเที่ยว 45,698.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.14% แบ่งเป็นรายได้จากคนไทย 43,433.94 ล้านบาท รายได้จากคนต่างชาติ 8,268.97 ล้านบาท