เช็กเลย! เปิดเงื่อนไข รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เริ่มใช้ ก.ย.นี้ ให้ลงทะเบียนผ่านแอพพ์ทางรัฐ

เมื่อวันที่ 8 เมษายน กรมการขนส่งทางราง (ขร.) จัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับภาคประชาชนและสื่อมวลชน โดยนำคณะเดินทางศึกษาดูงาน ณ นครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจถึงประโยชน์ของการขนส่งทางรถไฟในการเชื่อมโยงตามแนวเส้นทางรถไฟสายสิงคโปร์-คุนหมิง

การเดินทางครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาระบบขนส่งทางรางที่มีประสิทธิภาพ และการเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างประเทศ โดยนครฉงชิ่งถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญของเส้นทางเชื่อมโยงทางการค้าและการขนส่งของจีนในโครงการ Belt and Road Initiative (BRI)

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ให้สัมภาษณ์ถึงการมาปรับใช้ในประเทศไทยว่า ระบบโลจิสติกส์ของพวกเขาเป็นระบบมาก มีทั้งรถไฟ มีการส่งทางน้ำ และสร้างท่าอากาศยานหลายแห่ง ที่เราไปดูกันก็มีขนส่งคอนเทนเนอร์ ที่นี่เป็นแหล่งขนส่งคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดที่ออกไปที่ยุโรปปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้วเขาแจ้งเราว่าออกไปหลายแสนตู้คอนเทนเนอร์

“เมื่อสักครู่เราไปดูรถไฟฟ้าทะลุตึก ผมนั่งรถไฟฟ้ามา ก็มีรถไฟใต้สายสีแดง แล้วก็นั่งรถมาประมาณ 7 สเตชั่น ทั้งหมด 8 สเตชั่น 2 หยวน 10 บาท นโยบาย 20 บาทตลอดสาย เราคิดว่าทำได้จริงหรือ ถูกเกินไปไหม แต่ที่นี่ 10 บาท เพราะระบบเขาดีมาก ๆ เนื่องจากว่าประชากรเขาเยอะ ราคาดีก็เป็นปัจจัยหนึ่งทำให้คนมาใช้เยอะ ที่นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีในการอธิบายคำว่า ขนส่งมวลชน”

นายพิเชฐกล่าวว่า ที่นี่ทำ 2 หยวน (10 บาท) เราก็ทำได้ เพราะฉะนั้นต้องให้คนมาใช้รถไฟฟ้ากันเยอะ ๆ ที่โลจิสติกส์ปาร์ก เราก็ตั้งใจว่าประเทศเราก็เป็นศูนย์กลางของอาเซียนเหมือนกัน โดยมีเป้าหมาย ได้แก่

1.รถไฟฟ้าราคาถูก

2.ศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค

3.ระบบการขนส่งค่าไฟฟ้ามาก่อนที่เชื่อมโยงกันดีมาก ราคาถูก และมีการใช้ตั๋วที่ง่ายมาก ๆ

ให้ลงทะเบียนผ่านแอพพ์

รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะให้ลงทะเบียนในแอพพ์ทางรัฐ สําหรับคนที่ได้ดิจิทัลวอลเลตลงทะเบียนกันแล้ว ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะประกาศให้ประชาชนทราบ ซึ่งในปีนี้ยังใช้บัตรเหมือนเดิม แต่ปีหน้าจะสามารถใช้จากแอปทางรัฐได้ในรถไฟฟ้าทุกเส้น

ค่ารถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท กับทั้ง 8 สาย ในปีแรกผู้โดยสารอาจไม่ได้รับความสะดวกมากนัก เพราะยังต้องใช้บัตรสองใบเดินทาง โดยบัตร EMV ใช้ได้กับ 6 สาย สีแดง ARL สีน้ำเงิน สีม่วง สีชมพู และสีเหลือง

ส่วนบัตร Rabbit ใช้ได้กับ 4 สาย สีเขียว สีทอง สีชมพู และสีเหลือง แม้ต้องใช้บัตรทั้ง 2 ใบเดินทางข้ามสาย ผู้โดยสารจะจ่ายสูงสุดไม่เกิน 20 บาท

การที่ให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านแอพพ์ ทำให้ทราบได้ว่าประชาชนเดินทางข้ามสายใดบ้าง เพื่อให้ชดเชยรายได้ที่ถูกต้องกับผู้ประกอบการต่อไป

เริ่มต้นใช้เดือน ก.ย.

เบื้องต้นนโยบายดังกล่าวจะใช้กับรถไฟฟ้าทุกสาย ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2568 ตามนโยบายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน

“บัตรทุกอย่างที่ลงทะเบียนไว้แล้ว การที่รัฐได้ช่วยเหลือตั๋วธนบัตร เราจำเป็นต้องรู้ว่าคนคนนี้มีตัวตนมั้ย ซึ่งเวลาเราซื้อบัตรแรบบิทก็ต้องใช้บัตรประชาชนไปแลก ก็จะรู้เลยว่าเป็นใคร EMV ก็เช่นเดียวกัน บัตร ATM ก็รู้ว่าเราคือใคร บัตรเครดิตต่าง ๆ ก็เช่นกัน ภาครัฐต้องการทราบเฉย ๆ ว่าเราคือใคร เดินทางไปไหน โดยในปีนี้ 20 บาทตลอดสาย เราจะลงทะเบียนผ่านแอพพ์ทางรัฐ แต่ในปีนี้ยังต้องใช้บัตร 3 ใบ บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตร Rabbit แต่ปีหน้าเราคิดว่าทำได้ ใช้จากโทรศัพท์มือถือแอพพ์ทางรัฐ ใช้คิวอาร์โค้ดได้เลยประมาณปลายปี” อธิบดีกรมการขนส่งทางรางกล่าว

​