เพื่อไทย ชี้ทีมบินไปเจรจา ‘ภาษีทรัมป์’ ไม่มีหมอบ ลั่นไทยไม่ใช่ไก่กาอาราเล่ ไม่จำเป็นต้องเสนอโปรโมชันลดแลกแจกแถม เรามีของดีของเราพอ
9 เม.ย. 68 – ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม วาระการพิจารณาญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาผลกระทบและมาตรการรับมือจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ทั้งหมด 10 ญัตติ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายปิดเป็นคนสุดท้ายว่า การขึ้นภาษีดังกล่าวนั้น ถ้าเปรียบเหมือนแผ่นดินไหวก็หลายริกเตอร์ ลุกลามไปทั่วโลก ลามไปจนถึงประเทศต้นทาง นักลงทุนที่ลงทุนในหุ้น 7 นางฟ้า เปลี่ยนตัวเองจากนักลงทุนระยะสั้นเป็นนักลงทุนระยะยาวไปโดยปริยาย ขณะที่หุ้นยอดนิยมของประเทศจีนก็ปรับตัวร่วงยกแผง
ดังนั้น ไม่ใช่เกมการขึ้นภาษี แต่เป็นการชิงอำนาจการค้าโลก ซึ่งตนต้องชื่นชมและให้กำลังใจรัฐบาลที่เห็นแล้วว่าทรัมป์มาทรงนี้ ท่าจะงานงอก จะมีเรื่องแน่ ๆ จึงไปตั้งคณะทำงานหลายชุด และเริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 68
หากดูแนวโน้มทิศทางการทำงาน รัฐบาลทำ 5 แนวทาง
1. จะไม่ตอบโต้รุนแรง ตาต่อตา ฟันต่อฟัน แรงมาแรงกลับ รัฐบาลนี้ไม่เลือกแนวทางนี้ เปลี่ยนชื่อสินค้าจากอเมริกาโน่เป็นแคนาเดียโน่ก็ไม่ทำ
2. ต้องชื่นชมรัฐบาลที่พยายามหารูปแบบในการพูดคุย แต่จะไม่ถึงขั้นหมอบราบคาบแก้ว หรือสยบยอม รัฐบาลนี้ไม่จำเป็นต้องวิ่งไปเจรจาและเสนอโปรโมชั่นแบบลดแลกแจกแถม กลัวไม่ได้เป็นที่หนึ่งในใจสหรัฐอเมริกา ประเทศไทยไม่ใช่ไก่กาอาราเล่ เราก็มีของดีของเราพอที่จะมีรูปแบบการพูดคุยที่หวังผลได้
3. การเจรจา มีหลายรูปแบบมีแบบ เดี่ยวผสม เดี่ยวมือหนึ่ง หรือเจรจาแบบแพคอาเซียน เพื่อสร้างอำนาจการต่อรอง ก็ต้องคุยในทุกมิติ
4. การลดการพึ่งพิงตลาดเดียว ทำอย่างไรจะเพิ่มตลาดอื่นแบบคู่ขนาน เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ ยุโรป
5. โมเดลวิน-วิน (Win-Win) ต้องชนะไปด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ในวิกฤตมีโอกาส ไม่แน่ชาวโลกอาจจะเลิกทานข้าวผัดอเมริกัน และหันมาทานข้าวผัดอเมริกาฬสินธุ์ของเราก็ได้ คนแพ้กลัวการเปลี่ยนแปลง คนชนะเติบโตได้จากความเปลี่ยนแปลง คนแพ้รอจังหวะ คนชนะสร้างจังหวะขึ้นมาด้วยตัวเอง คนแพ้หาทางลัด คนชนะหากทางที่ใช่ ขอให้กำลังใจทีมไทยแลนด์ ให้กำลังใจรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ให้กำลังใจประเทศไทย และเชื่อว่าเราทำได้