กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศวันนี้ -15 เมษายน พ.ศ. 2568 (พยากรณ์อากาศล่วงหน้า)ในช่วงวันที่ 10 – 11 เม.ย. ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 12 – 15 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
สำหรับภาคใต้ ในช่วงวันที่ 10 – 13 เม.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 15 เมย. ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้นและมีคลื่นลมแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง วันที่ 12 - 15 เม.ย. 68
- ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง หรืออยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง
- ส่วนเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
- สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ตลอดช่วง
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 9 – 15 เมษายน พ.ศ. 2568
ภาคเหนือ
วันที่ 10 – 11 เม.ย.68
- อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 - 15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 41 องศาเซลเซียส
วันที่ 12 – 15 เม.ย.68
- มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 39 องศาเซลเซียส

ภาคเหนือ อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ มีพายุฝนฟ้าคะนอง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 10 – 11 และ 15 เม.ย. 68
- อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 - 40 องศาเซลเซียส
วันที่ 12 – 14 เม.ย.68
- มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 - 37 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ภาคกลาง
วันที่ 10 – 11 เม.ย. 68
- อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 41 องศาเซลเซียส
วันที่ 12 – 15 เม.ย.68
- มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 38 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ภาคตะวันออก
วันที่ 10 – 11 เม.ย. 68
- อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 30 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
วันที่ 12 – 15 เม.ย. 68
- มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 39 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศร้อน กับมีพายุฝนฟ้าคะนอง
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
วันที่ 10 – 13 เม.ย. 68
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
วันที่ 14 – 15 เม.ย.
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 - 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 36 องศาเซลเซียส
- ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่น 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
วันที่ 10 – 13 เม.ย. 68
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ในช่วงวันที่ 10 – 12 เม.ย. ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 - 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
วันที่ 14 – 15 เม.ย. 68
- มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 - 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 - 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21 - 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 - 36 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
กรุงเทพและปริมณฑล
วันที่ 10 – 11 เม.ย. 68
- อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 - 20 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10 - 20 กม./ชม.
วันที่ 12 – 15 เม.ย. 68
- มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 39 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง