กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมจัดอบรม 3 หลักสูตร ทำบัญชี ยกระดับบัญชี คนรุ่นใหม่ ภายใต้โครงการบ้านมั่นคง เสริมอาชีพ คนมีรายได้น้อย
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลตระหนักถึงบทบาทของสหกรณ์ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มชุมชนที่มีรายได้น้อย กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงได้บูรณาการความร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของสหกรณ์ ภายใต้โครงการบ้านมั่นคง
โดยมุ่งหวังให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพของสหกรณ์ให้สามารถบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สามารถเป็นองค์การหลักในการบริหารจัดการด้านที่อยู่อาศัยและสนับสนุนให้ชุมชนมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะเป็นหน่วยงานหลักในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการจัดทำบัญชี เพื่อให้สหกรณ์สามารถดำเนินงานทางการเงินและบัญชีได้อย่างถูกต้องตามหลักการและระเบียบที่กำหนด โดย กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ดำเนินการจัดอบรมหลักสูตรการจัดทำบัญชีขึ้น จำนวน 3 หลักสูตร คือ
หลักสูตรที่ 1 การจัดทำเอกสารและระบบบัญชีของสหกรณ์
หลักสูตรที่ 2 การจัดทำบัญชีของสหกรณ์
หลักสูตรที่ 3 การจัดทำงบการเงินของสหกรณ์
เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้ ความเข้าใจในหลักการจัดทำบัญชีที่ถูกต้อง ตั้งแต่การจัดเอกสารหลักฐานประกอบการบันทึกบัญชี การบันทึกบัญชีในสมุดบัญชีขั้นต้น สมุดบัญชีขั้นปลาย การจัดทำงบทดลอง รายละเอียดบัญชีย่อย การปรับปรุงบัญชี และการปิดบัญชีประจำปีของสหกรณ์ ซึ่งจะเป็นรากฐานเสริมสร้างความเข้มแข็งของสหกรณ์และนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน
การอบรมดังกล่าว มีเป้าหมายคือ การสร้าง “คนรุ่นใหม่” ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนสหกรณ์ให้เข้มแข็ง โดยมีความร่วมมือจาก 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ หน่วยงานหลักในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการจัดทำบัญชีทั้ง 3 หลักสูตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ สนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างการบริหารของสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามหลักการสหกรณ์สากล และ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)
เชื่อมโยง ประสานงานระหว่างชุมชนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนเครือข่ายและทรัพยากรสำหรับการพัฒนาสหกรณ์ ซึ่งจากการดำเนินจัดอบรมตามโครงการในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถขยายผลสู่ 150 สหกรณ์ภายใต้โครงการบ้านมั่นคงทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับ 150 สหกรณ์ภายใต้โครงการบ้านมั่นคง
โดยการพัฒนาระบบการเงินการบัญชี ให้มีการบริหารจัดการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ป้องกันป้องปรามการทุจริต พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกสหกรณ์ในชุมชน ด้วยระบบสวัสดิการและทุนเพื่อความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป