นักท่องเที่ยวชาวไทยแห่กราบไหว้ขอพรหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด วัดพะโคะ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ในช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
วันนี้ 15 เมษายน 2568 นักท่องเที่ยวชาวไทยได้เดินทางนำครอบครัวมาที่วัดพะโคะ อ.สทิงพระ จ.สงขลา เพื่อมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ในช่วงท่องเที่ยววันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 ทำให้บรรยากาศภายในวัดเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเข้าไปกราบไหว้และปิดทองหลวงพ่อทวดเหลืองอร่ามไปหมดทั้งองค์รวมทั้งร่วมกันบริจาคปัจจัยเพื่อให้ทางวัดนำไปพัฒนาวัดสืบทอดพระพุทธศาสนา
หลังจากกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อทวดเสร็จแล้ว ก็จะขึ้นบันไดไปกราบไหว้พระสุวรรณมาลิกเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุและชมทิวทัศน์โดยรอบของวัดพะโคะมุมสูง ที่สามารถมองเห็นทะเลทั้งทะเลสาบสงขลาและทะเลอ่าวไทย
สำหรับประวัติวัดพะโคะ (วัดพระราชประดิษฐาน) เดิมวัดนี้ปรากฏว่าพระชินเสนเป็นผู้สร้างราว พ.ศ.500 ชื่อว่าวัดพระราช ประดิษฐาน ฝังวิสุงคามสีมา พ.ศ.840 พระยาธรรมรังคัลเจ้าเมืองพัทลุง (สทิงพระรานสี) เป็นศาสนูปถัมภ์สร้างถาวรวัตถุหลายอย่างเพราะเห็นความสำคัญ ของวัดเขาพระพุทธบาทหรือวัดพระราชประดิษฐาน ครั้นต่อมา ระหว่าง พ.ศ.2091 - 2111 พระยาดำธำรงกษัตริย์(บางแห่งกล่าวว่าพระยาธรรมรังคัล) ได้นิมนต์พระมหาอโนมทัสสี พระณไสยมุยและ พระธรรมกาวา ให้ไปเอา กระบวนพระมหาธาตุ เมืองลังกา และมาสร้างเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ สูงหนึ่งเส้น ห้าวา ทำพระวิหารธรรมศาลา ทำอุโบสถ สร้างกำแพงสูงหกศอกระหว่างเขต สังฆาวาสที่พักสงฆ์อาศัยหรือส่วนลดต่ำทางทิศตะวันออกเป็นพุทธาวาส สถานที่ ปลูกสร้างปูชนียวัตถุโบราณสถาน
เช่น พระวิหาร พระพุทธไสยาสน์ชื่อว่า พระพุทธโคตมะ ชื่อวัดพระราชประดิษฐานเดิมไม่นิยมใช้เรียกกันครั้นต่อมา วัดพระโคตมะ เรียกเพี้ยนเป็นวัดพะโคะ ในกาลครั้งนั้นกษัตริย์หัวเมืองพัทลุง (สทิงพระ) และคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ทำฎีกาเข้าไปยังกรุงศรีอยุธยาขอทำกัลปนา ต่อพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานที่กัลปนาแก่วัดอารามต่างๆ ในเขตหัวเมืองนครศรีธรรมราช และเมืองพัทลุง(ดังปรากฏว่าด้วยการพระ ราชทานที่กัลปานาสำเนาจากหนังสือเทศาภิบาลเล่ม ๑ ที่นำมาลงพิมพ์บางตอน พอเป็นสังเขปซึ่งเกี่ยวกับพะโคะเท่านั้น)