หลาก&หลายรถยนต์ - ลองขับมิตซูบิชิ‘เอ็กซ์ฟอร์ส’ ลุยถนนลูกรัง-ทางเปียกลื่นผ่านฉลุย
ข่าวสด April 15, 2025 04:00 PM

เรียกว่าเป็นรุ่นที่วาดหวังอยู่ไม่น้อยของค่ายทรีไดมอนต์ เพราะนอกจากหน้าตาของเจ้า มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส ที่กระโจนเข้ามาในตลาด B-SUV ไฮบริด อันร้อนแรง ที่ดูไฉไลอยู่ไม่น้อยแล้ว ยังใส่ฟีเจอร์ ฟังก์ชันมาให้ใช้งานอย่างครบครัน น่าจะโดนใจนักเลงรถเมืองไทยอยู่ไม่น้อย

ทีมงานมิตซูบิชิ นำโดย วิภวัส ศิริพลไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วย วิชญา นวลอุไร ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์

หลากหลาย

ตัดสินใจจัดทดสอบเบาๆ เพื่อให้ได้รับรู้สมรรถนะ และการเลือกฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะสม กันพอหอมปากหอมคอ ที่สนามแข่งรถปทุมธานี สปีดเวย์ จ.ปทุมธานี

แนะนำตัวรถ ดีไซน์ภายนอก ภายใต้แนวคิด SILKY & SOLID ดูล้ำสมัย และทรงพลัง ด้านหน้า ADVANCE DYNAMIC SHIELD ไฟหน้า และไฟท้าย ICONIC T-SHAPE DESIGN ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED ไฟท้าย LED สี Smoked จัดเรียงเป็นรูปตัวที แปลกตา และเป็นเอกลักษณ์

หลากหลาย

ขยับมาดูด้านข้าง เส้นสาย และการดีไซน์ ทำได้ค่อนข้างลงตัว แสดงออกถึงความปราดเปรียว และมั่นคง ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว ดีไซน์คำนึงถึงแอโรไดนามิก เสริมด้วยซุ้มล้อที่เลือกใช้วัสดุ และสีที่ตัดกับสีรถ

หลากหลาย

ภายในตกแต่งด้วยสีทูโทน หน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้ว รองรับแอปเปิ้ล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต้ รวมถึงมีที่ชาร์จไร้สาย จอข้อมูลขนาด 8 นิ้ว แบ่งเป็น 3 ส่วน แสดงข้อมูลหลากหลายรูปแบบ

รุ่นท็อปติดตั้งระบบเสียงจากยามาฮ่า ที่ไม่ใช่แค่นำมาใส่ไว้เฉยๆ แต่พัฒนาร่วมกันมาตั้งแต่เริ่มดีไซน์ตัวรถ ว่าควรจัดวางลำโพงไว้ตำแหน่งใด และสร้างมิติเสียงให้เหมาะกับขนาดห้องโดยสาร

ขุมกำลัง ติดตั้งระบบขับเคลื่อน e:MOTION แบบ Full-hybrid ผสานการทำงานจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MIVEC ความจุ 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 134 นิวตัน-เมตร

หลากหลาย

กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 116 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ 2-Speed Transaxle ที่จะเลือกการใช้งานสูง-ต่ำให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการขับขี่ และลักษณะของถนน

สถานีแรกทดสอบระบบ Diamond Sense เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ หรือ ADAS ที่จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวรถแบบ 360 องศา แม้จะถูกบดบังทัศนวิสัยด้วยผ้าดำ ทำให้ไม่สามารถใช้กระจกมองข้าง แต่ยังถอยจอดได้อย่างเนียนๆ

สถานีต่อไปให้ใช้โหมด นอร์มอล ขับขี่ปกติ ทางตรง ทางโค้ง สั้นๆ พอให้จับอาการรถได้ว่าปกติเป็นอย่างไร

หลากหลาย

ต่อกันที่โหมด Tarmac ใช้งานบนถนนลาดยาง หรือโหมดสปอร์ต จังหวะออกตัวอาจจะดูไม่หวือหวามากนัก แต่ช่วงล่างดูจะกระชับกว่าโหมดนอร์มอล เข้าโค้งแรงๆ มีแต่เสียงยางที่บดถนน ส่วนตัวรถยังไปในทิศทางที่ต้องการได้สบายมือ

สถานีต่อไปตรงนี้ถือว่าเป็นไฮไลต์ เลือกใช้โหมด Gravel ทีมงานให้วิ่งลงไปบนถนนลูกรัง พร้อมกับวนเป็นวงกลม 3 รอบ บอกเลยว่าไม่มีอาการหลุดให้ได้รู้สึก แม้จะใช้ความเร็วค่อนข้างสูงอยู่ก็ตาม

ด้วยระบบ AYC (Active Yaw Control) หรือระบบควบคุมการขับเคลื่อน และสมดุลขณะเข้าโค้ง อันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ช่วยให้การควบคุมขณะขับเข้าทางโค้ง หรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน ทำได้อย่างนุ่มนวล และง่ายดาย

ต่อกันที่การขับเป็นวงกลมอีกครั้ง แต่เป็นถนนเปียก เลือกโหมด Wet อาการลื่นไถล เหมือนท้ายบานมีให้รู้สึกเล็กๆ แต่ไม่ถึงกับเสียอาการ

หลากหลาย

ส่วนโหมดที่เหลือ โหมด Mud (ถนนโคลน), Charge (โหมดการชาร์จ) และ EV Priority (โหมดไฟฟ้า 100%) ยังไม่ได้ทดสอบ ไว้ครั้งหน้ามีโอกาสจัดให้เต็มๆ แน่นอน

สถานีสุดท้าย ทดลองระบบล็อกความเร็วแบบแปรผัน ACC ที่เมื่อสั่งระบบทำงาน และตัวรถจับเจอรถคันหน้า ล็อกความเร็วที่ต้องการ รถวิ่งตาม และชะลอความเร็วจนหยุดสนิท ตามรถคันหน้า

และหากจอดสนิทไม่เกิน 3 วินาที เมื่อรถคันหน้าเดินทางต่อ มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส คันนี้ก็ออกตัวตาม แต่ถ้าจอดสนิทเกิน 10 วินาที ต้องเหยียบคันเร่งเพื่อออกตัวเอง แต่ดีหน่อยที่มีระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าออกตัว LCDN ทำให้รู้ตัวได้ในทันที

นักเลงรถที่มองหารถอเนกประสงค์ที่ลุยได้เบาๆ กับถนนหลากหลายรูปแบบ มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ส มีให้เลือก 3 รุ่น เริ่มต้นที่ 899,000 บาท ไปจนถึง 1.089 ล้านบาท

แวะไปชมพร้อมทดสอบสมรรถนะ ว่ารุ่นไหนเหมาะกับการใช้งานของตัวเองมากที่สุด ได้ที่โชว์รูม มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.