ฮ่องกงระงับบริการส่งพัสดุไปสหรัฐ ตอบโต้มาตรการภาษีมีผลตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนนี้ ส่วนการส่งไปรษณีย์อากาศจะเริ่มระงับวันที่ 27 เมษายน อย่างไรก็ตาม ไปรณีย์ที่เป็นเอกสารจะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากมาตรการดังกล่าว
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ฮ่องกงจะหยุดบริการไปรษณีย์สินค้าสหรัฐอย่างเป็นทางการ เพื่อตอบโต้มาตรการภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐ ในสงครามการค้าที่อาจกวาดล้างศูนย์กลางการเงินแห่งเอเชีย
รัฐบาลฮ่องกงออกแถลงการ์ว่า สำนักงานไปรษณีย์ฮ่องกงจะระงับพัสดุที่จ่าหน้าไปรษณียส่งไปยังสหรัฐตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2025 เป็นต้นไป ส่วนการส่งไปรษณีย์อากาศจะเริ่มระงับวันที่ 27 เมษายน อย่างไรก็ตาม ไปรณีย์ที่เป็นเอกสารจะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากมาตรการดังกล่าว
แถลงการณ์ของรัฐบาลฮ่องกงยังระบุอีกด้วยว่า สหรัฐมีพฤติกรรมไม่สมเหตุสมผล ทำตัวอันธพาลและบังคับใช้ภาษีแบบไม่เห็นใจผู้อื่น ดังนั้น สำนักงานไปรณีย์ฮ่องกงจะไม่รับสิ่งที่เรียกว่าภาษีในนามของสหรัฐเด็ดขาด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังทรัมป์ยกระดับมาตรการภาษีกับจีนอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบมายังฮ่องกงด้วย ทางด้าน จอห์น ลี (John Lee) ผู้นำฮ่องกงวิจารณ์มาตรการดังกล่าวว่าเป็นการปราบปรามอย่างป่าเถื่อน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐประกาศว่าจะยกเลิก “มาตรการการยกเว้นภาษีขั้นต่ำ” (De Minimis Exemption) กับจีน ซึ่งรวมถึงฮ่องกงด้วย ภายในวันที่ 2 พฤษภาคม ซึ่งจะปิดช่องว่างที่อนุญาตให้สินค้านำเข้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 26,600 บาท) เข้ามายังสหรัฐโดยไม่เสียภาษี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีนอย่าง เทมู (Temu) และชีอิน (Shein)
ฮ่องกงกำลังตกอยู่ในอันตรายจากมาตรการภาษีของทรัมป์ แม้ที่ผ่านมาจะทำหน้าที่เป็นเมืองท่าเสรีที่ไม่มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าใด ๆ โดยสินค้าที่ผลิตในฮ่องกงถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มด้วยเช่นกัน แม้จะเคยรอดพ้นมาก่อนในยุคทรัมป์ 1.0
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนผู้ดูแลกิจการในฮ่องกงฟาดทรัมป์กลับด้วยเช่นกัน เซีย เป่าหลง (Xia Baolong) หัวหน้าสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊า กล่าวว่า สหรัฐไม่ได้ต้องการเก็บภาษีจีน แต่สหรัฐต้องการทำลายความเป็นอยู่ที่ดีของชาวจีน ซึ่งใครก็ตามที่พยายามจะดึงชาวจีนให้กลับไปสู่ความยากจนและความอ่อนแอ คนผู้นั้นถือเป็นศัตรูกับชาวจีน
ทรัมป์มุ่งเก็บภาษีกับจีนเพิ่ม แม้จะส่งสัญญาณว่าพร้อมเจรจาลดอัตราภาษีส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนยืนยันว่าจะไม่เดินทางไปเจรจา หากไม่ได้รับการให้เกียรติจากทางสหรัฐ