เท้ง เชื่อ พท.-ภท.จับมือตลอดรอดฝั่งแน่ หนุนทำประชามติ กม.สถานบันเทิงครบวงจร
ข่าวสด April 18, 2025 04:20 AM

เท้ง เชื่อ เพื่อไทย-ภูมิใจไทย จับมือตลอดรอดฝั่งแน่ เว้น ‘นายกฯอิ๊งค์’ ตัดสินใจยุบสภา ชี้กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่จำเป็นต้องเสร็จในรัฐบาลนี้ หากทำความเข้าใจกับประชาชน ผ่านประชามติ ทุกคนยอมรับ ก็เดินหน้าได้

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 เม.ย.2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่านค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงวุฒิสภาตั้งคณะทำงานศึกษาเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยใช้เวลา 180 วัน ในส่วนของสส.คิดว่าควรต้องรอผลการศึกษาของวุฒิสภาก่อนหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าเรื่องระยะเวลาคงไม่มีตัวเลขเฉพาะเจาะจง

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ทำให้สังคมตกผลึกในเรื่องนี้กับการลงรายละเอียดและศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รวมถึงความชัดเจนในมาตรการการฟอกเงินและการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น และถ้าเรื่องเหล่านี้มีความชัดเจนและสังคมให้การยอมรับมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต่อต้านในเรื่องนี้ เนื่องจากมีการทำความเข้าใจอย่างเพียงพอแล้ว

ตนคิดว่าจังหวะนั้นเป็นจังหวะที่รัฐบาลจะมีความชอบธรรมในการเดินหน้าเรื่องนี้ต่อ แต่สิ่งที่ขาดความชอบธรรมในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่อาจจะเร่งรีบดำเนินการเรื่องนี้มากเกินไป

เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นต้องรอการศึกษาจากวุฒิสภาหรือไม่ ในเมื่อสภาฯ ศึกษามาแล้ว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญสภาผู้แทนราษฎร ยังลงรายละเอียดไม่มากเพียงพอ และใช้ระยะเวลาศึกษาน้อยเกินไป ดังนั้น การศึกษาของวุฒิสภาก็เป็นส่วนหนึ่งที่มาช่วยประกอบมากกว่า ซึ่งตนคิดว่าสิ่งสำคัญในเรื่องนี้นอกจากวุฒิสภาแล้วคือการทำความเข้าใจในสังคม

เมื่อถามว่าคิดว่าผลการศึกษาแค่ไหนที่เห็นว่าจะเป็นเกณฑ์ นำเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ มาพิจารณาต่อได้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าคำถามหลายคำถาม เป็นสิ่งที่ประชาชนตั้งคำถามอยู่ ถ้ารัฐบาลสามารถตอบความชัดเจนในเรื่องเหล่านั้นได้ทั้งหมด ก็น่าจะดำเนินการเรื่องนี้ได้ต่อ รวมถึงข้อเสนอของภาคประชาชนที่เสนอเข้ามาคือเรื่องการทำประชามติ

ตนคิดว่าไม่ใช่กฎหมายทุกเรื่องจะต้องทำประชามติก่อนเสนอเข้าสภาฯ แต่อย่างน้อยการทำประชามติจะเป็นเวทีในการเปิดพื้นที่รณรงค์ ทำความเข้าใจ ก่อนนำไปสู่คำถามในการทำประชามติ ซึ่งจังหวะที่เหมาะที่สุดเพื่อประหยัดงบประมาณ เช่น อาจทำประชามติพร้อมการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็เป็นไปได้ เพราะเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วน

“ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่กฎหมายฉบับนี้จะต้องผ่านในรัฐบาลชุดนี้ หรือรัฐบาลชุดหน้า ถ้าเราไม่ได้มองในเรื่องผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจรัฐเป็นหลัก ถ้าเรามองเรื่องของการแก้ไขปัญหาในสังคมเป็นหลัก การเปิดพื้นที่อย่างกว้างขวาง ทำความเข้าใจเต็มที่ ก่อนที่จะออกเสียงประชามติซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งและมีความเป็นไปได้ที่ผมคิดว่าจะเป็นทางออกของสังคมที่ทำให้ทุกคนยอมรับ” นายณัฐพงษ์ กล่าว

ต่อข้อถามว่ามองท่าทีอย่างไรระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคภูมิใจไทย เกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ออกมาพูดแล้วว่าอาจเป็นความคิดเห็นของนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย

แต่เรื่องนี้ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องไตร่ตรองดูให้ดีก่อนที่จะเร่งผลักดันอะไร เพราะเห็นได้ชัดว่าพรรคร่วมรัฐบาล อาจจะไม่เห็นด้วยกับความรีบเร่งผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว เรื่องนี้จึงกลับมาที่จุดยืนเดิมคือการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมให้เป็นที่ยอมรับมากที่สุดก่อน

เมื่อถามย้ำว่าหากเป็นเช่นนี้มองว่าพรรคภูมิใจไทยกับเพื่อไทย ยังไปด้วยกันตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เพราะสภาฯ ยังเหลือเวลาอีก 2 ปี ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ถ้าดูจากสมการทางการเมืองปัจจุบัน จำนวนสส.ของแต่ละพรรคก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอย่างไรพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทย ยังจำเป็นต้องไปต่อด้วยกัน เว้นแต่อาจจะมีการตัดสินใจจากพรรคเพื่อไทย คือนายกฯ ในการยุบสภาฯ ซึ่งตนอาจจะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะอำนาจอยู่ที่ตัวนายกฯเพียงผู้เดียว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.