สคทช. และ สวทช. ร่วมลงนาม MOU พัฒนาเทคโนโลยีสนับสนุนการรับรองพื้นที่ตามระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า รองรับกฎ EUDR ของสหภาพยุโรป
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และ ศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “ด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเครื่องมือสำหรับตรวจสอบ และรับรองพื้นที่ตามระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า หรือ EUDR (EU Regulation on Deforestation-free Products)” ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ อาคารวิจัยโยธี กรุงเทพฯ
ดร.รวีวรรณฯ ผอ.สคทช. กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากบริบทของโลกที่ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดยเฉพาะในสหภาพยุโรป ซึ่งได้มีการประกาศใช้ระเบียบ EUDR เพื่อควบคุมไม่ให้สินค้าที่ส่งเข้าสู่ตลาดยุโรปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า ดังนั้น ความร่วมมือจากทั้ง 2 หน่วยงาน จึงมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนด้านการวิจัย สร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมการแบ่งปันข้อมูล แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ ระหว่างหน่วยงานและบุคลากรทั้งสองฝ่าย ร่วมกันพัฒนาเครื่องมือสำหรับตรวจสอบและรับรองพื้นที่เพาะปลูกที่เป็นแหล่งผลิต ตามระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า หรือ EUDR เพื่อตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของผลผลิตและมีข้อมูลที่จะพิสูจน์ได้ว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ไม่ก่อให้เกิดการทำลายป่า และเป็นเครื่องมือสำหรับรองรับกระบวนการตรวจสอบเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อรองรับการค้าระหว่างประเทศภายใต้ข้อกำหนดใหม่ของสหภาพยุโรป ซึ่งเน้นการป้องกันการทำลายทรัพยากรป่าไม้ในห่วงโซ่อุปทาน ตามกฎระเบียบระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม
ผอ.สคทช. กล่าวต่อว่า ประเทศไทยในฐานะผู้ส่งออกสินค้าไปสหภาพยุโรป จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมและพัฒนาเครื่องมือที่สามารถตอบสนองต่อข้อกำหนดเหล่านี้ได้อย่างเป็นระบบและน่าเชื่อถือ ภายใต้ความร่วมมือนี้ ทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมกันพัฒนาเครื่องมือ แพลตฟอร์ม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และพัฒนาบุคลากร ให้สามารถนำเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นไปใช้ได้จริง ทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ โดยคาดหวังให้เกิดการนำร่องในบางพื้นที่ และสามารถขยายผลต่อไปในอนาคต
“ระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า หรือ EUDR จะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนธันวาคม 2568 ประเทศไทยโดย สคทช. และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จึงต้องเร่งดำเนินการ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรไทย เปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกสินค้าทั้ง 7 ประเภท ได้แก่ โค โกโก้ กาแฟ น้ำมันปาล์ม ยางพารา ถั่วเหลือง และไม้ สามารถทำการค้าได้อย่างยั่งยืน และเป็นเครื่องมือยกระดับความน่าเชื่อถือของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลกอีกทางหนึ่ง” ผอ.สคทช. กล่าวย้ำ