นายกเบี้ยว รับจบแทน ลูกพีช วอน ให้โอกาสเด็กวัยรุ่นที่ผิดพลาด ลูกนิสัยขี้ขลาดไม่เคยมีเรื่อง
ข่าวสด April 18, 2025 09:00 PM

นายกเบี้ยว รับจบแทน ลูกพีช ขอโทษสังคม วอน ให้โอกาสเด็กวัยรุ่นที่ผิดพลาด – ยันไม่มีโรคประจำตัว สูบแค่บุหรี่ไฟฟ้า

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 เม.ย. นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ นายกเบี้ยว ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือ พีช ลูกชายที่ขับรถเบียดคู่กรณีบนทางด่วนมอเตอร์เวย์ เป็นเหตุให้คู่กรณีได้รับบาดเจ็บสาหัส

นายกฤษฎา กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้มีการประสานว่าจะให้ตนเองพาลูกชายไปรับทราบข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่ได้หนี แต่วันนี้ตนเองและลูกชายเสร็จธุระไม่ทัน จึงจะแจ้งขอเลื่อนไปก่อน ซึ่งตนเองยังคงสับสน เนื่องจากคดีมีอยู่ 2 ที่ อีกที่คือสภ.ลำลูกกา อย่างไรก็ตามตนเองและลูกชาย พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องสภาพจิตใจหลังจากที่ตนเองได้พบกับลูกเมื่อวานนี้ ลูกชายยังคงตื่นตระหนกตกใจ เนื่องจากยังอายุน้อยและอยู่ในช่วงของวัยรุ่น จึงมองว่าตัวเองไม่ผิด และโต้เถียง ตนเองจึงอธิบายให้ให้ลูกชายเข้าใจว่าเราเป็นคนผิด

โดยคดีแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคุณลุงอาจจะเข้าข่ายมีความผิด และถึงแม้ในส่วนที่สองที่มีภาพปรากฏว่าลูกชายตนเองขับปาดจนเกิดเหตุทำให้รถกระบะเสียหลัก ลูกชายตนเองจะบอกว่าไม่มีเจตนา แต่สังคมที่ดูคลิปได้ตัดสินไปแล้วว่าลูกชายทำเกินเหตุ ฉะนั้นตนเองและลูกชายจึงยอมรับผิดทุกกรณี และขอโทษสังคม ทั้งนี้ให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน และเมตตา หากตัดสินว่าลูกชายผิดก็น้อมรับ

ส่วนเรื่องที่ลูกชายไม่ไปเยี่ยมคุณลุงและคุณป้านั้น หลังจากที่ตนเองพบลูกจึงมีการติดต่อไปทางลูกชายของคุณลุงและคุณป้า แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงยังไม่กล้าให้ลูกชายของตนเองนั้นไปพบคู่กรณี เนื่องจากกลัวถูกโวยวายทำให้อับอาย แต่เมื่อวานและวันนี้ตนเองได้เดินทางไปเยี่ยมคู่กรณีแล้ว และได้ขอโทษ พร้อมนำกระเช้าไปให้ และแจ้งกับทางคู่กรณีว่าจะพาลูกชายเข้ามากราบขอโทษ ซึ่งทางคู่กรณีก็ยินดีให้มา โดยลูกชายพร้อมยินดีจะชดใช้ค่ารักษา และค่าซ่อมรถอย่างเต็มที่

นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ตัดสินใจพาลูกชายมาชี้แจงผ่านรายการในวันนี้เนื่องจากไม่อยากปล่อยเวลาให้นานกว่านี้ หากสังคมจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อยู่ดุลยพินิจของแต่ละคน ยืนยันที่ออกมาชี้แจงในวันนี้ไม่ได้เป็นการฟอกขาว และไม่ได้จะนำมาต่อสู้คดี รวมถึงไม่มีผู้ใหญ่เข้ามาช่วยเหลือ

ทั้งภาพที่ลูกชายร่วมอดีตนายกทักษิณ และนายกแพทองธารร่วมเฟรม ขณะนั้นนายกแพทองธารยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง เป็นเพียงหัวหน้าพรรคที่มาร่วมงานเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่ได้สนิทกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน เพราะท่านเป็นตำรวจน้ำดี

หลังจากดูคลิปการขับรถของลูกชาย ก็มองว่าขับรถหวาดเสียว จึงได้ตักเตือนลูกชายให้ได้สติ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าลูกชายไม่ได้เจตนาที่จะชน จากคำกล่าวอ้างว่าขับรถมือเดียวและเสียหลัก อย่างไรก็ตามต่อให้มีหลักฐานว่าลูกชายไม่ผิด ตนเองก็ยังยอมรับผิด

ส่วนเรื่องใบขับขี่นั้นตนเองก็เพิ่งทราบในวันนี้ว่าใบขับขี่ลูกชายหมดอายุตั้งแต่ปี 64 และเรื่องป้ายแดงที่ยังไม่ได้เข้าระบบนั้น ลูกชายได้กล่าวอ้างว่ามีการออกรถมาได้ไม่ถึงปี และจองป้ายทะเบียนเลข 27 ซึ่งเป็นเลขวันเกิดเอาไว้ นอกจากนี้ในส่วนของกล้องหน้ารถนั้น ตนเองไม่เคยไปนั่งรถจึงไม่รู้ว่ามีหรือไม่

มองว่าเรื่องนี้มีผลกระทบด้านการเมืองหรือไม่ นายกฤษฎา ระบุว่า เชื่อว่าอยู่ที่ประชาชนจะมอง ให้วันที่ 11 นี้ เป็นวันตัดสิน และสำหรับนิสัยของลูกชายนั้นเป็นคนขี้ขลาดตาขาว ไม่เคยมีเรื่องชกต่อยมาก่อน แต่ด้วยระยะหลังที่ห่างกัน จึงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

นายกฤษฎา กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองไม่ทราบว่าที่ลูกชายกล่าวอ้างว่าเป็นลูกหลานตำรวจนั้นจะมีเจตนาอย่างไร ทั้งนี้ตนเองขอโทษสังคมว่าไม่ได้ดูแลลูก อยู่ห่างกับลูกและมัวแต่ยุ่งกับงาน จึงทิ้งลูกไว้ถึงเป็นอย่างนี้ หลังจากนี้จะดูแลให้มากขึ้น และขอโอกาสให้ลูกชายได้มีที่ยืนในสังคม เนื่องจากลูกชายยังเป็นวัยรุ่น ซึ่งคนเรามันก็มีผิดพลาดกันได้ ในตอนนี้ ก็อยากจะขอโอกาสให้ลูกชายได้กลับตัว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ลูกชายมีโรคประจำตัวอะไรหรือไม่ นายกฤษฎา กล่าวว่า “ ไม่มี มีดูดบุหรี่ไฟฟ้า ” นักข่าวจึงถามต่อว่า “ ตอนนี้ก็ยังดูดอยู่หรอ?” นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า “ดูด เมื่อกี้ก็ขอดูดบุหรี่อยู่ แล้วผมก็ไม่รู้จะไปหาจากที่ไหน”

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.