อึ้ง! 3 เด็กชายตั้งแก๊ง ลักจยย.พ่วงข้างร้านค้า เอาไปดูดน้ำมันออก หวังแยกชิ้นส่วนขาย

จากกรณีผู้ใช้เพซบุ๊กในชื่อ Puy Janjira Boonso ได้โพสต์รูปภาพรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง พร้อมกับระบุข้อความว่า #ประกาศตามหารถหาย มอเตอร์ไซค์พ่วงข้างสีน้ำเงิน ได้จอดไว้ข้างร้านยืนยงพาณิชย์ (คุณเอ๋แม่ละมุล ตลาดโนนสูง) ถูกขโมยไปช่วงเวลา 04.00-06.00 เช้าวันนี้ (18 เม.ย 68) ผู้ใดพบเห็น โปรดแจ้งเบาะแสได้ที่ร้านยืนยงพาณิชย์ ขอบคุณค่ะ หลังจากโพสต์ได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ย่อยโนนสูง เวลา 10.00 น. ในวันเดียวกัน

ต่อมาเวลา 11.00 น. วันที่ 18 เมษายน 2568 ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ระบุเวลา 03.45 น. พบคนร้ายเป็นเด็กชาย จำนวน 3 คน โดย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่ขโมย และอีกคนขี่รถจักรยานยนต์ตามหลัง พอเห็นตำหนิรูปพรรณ และพฤติกรรมของคนร้าย รู้ทันทีว่าเป็นเยาวชนชายบ้านโคกนาคลอง ที่เคยก่อเหตุในลักษณะแบบนี้มาแล้ว เมื่อช่วงกลางปี 2567

จึงนำกำลังติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักทั้ง 3 คน ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็นเยาวชนชาวบ้านโคกนาคลอง ม.8 ต.หนองขอนกว้าง อ.เมืองอุดรธานี ประกอบด้วย ด.ช.เอ นามสมมุติ อายุ 12 ปี (หัวหน้าแก๊ง) ด.ช.บี อายุ 13 ปี และ ด.ช.ซี อายุ 14 ปี นำตัวมาชี้จุดเกิดเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณริมถนนข้างร้านยืนยงพาณิชย์ เลขที่ 490 ม.11 บ.ป่าหวาย ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี แล้วนำตัวไปตรวจยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ขโมยไปจอดทิ้งไว้ริมถนนกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้านหนองหมื่นท้าว ม.8 ต.โนนสูง อ.มืองอุดรธานี ที่อยู่ในสภาพ หลังคาผ้าใบกันแดด และเบาะรถจักรยานยนต์ถูกรื้อถอดออก ล้อรถทั้ง 3 ล้อ ถูกปล่อยลมออกทั้งหมด และในถังน้ำมันถูกดูดออกไปจนเกลี้ยงถัง

หลังจากนั้นได้นำตำรวจไปตรวจยึดหลังคาผ้าใบกันแดดของรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง และเบาะรถจักรยานยนต์ ที่ถูกถอดทิ้งไว้ในป่าละเมาะพื้นที่เอกชน บริเวณทางเข้านิคมอุตสาหกรรม บ.โคกนาคลอง ต.หนองขอนกว้าง อ.เมืองอุดรธานี ก่อนนำตัวทั้งหมด พร้อมของกลางส่ง ร.ต.อ.เจนวัชน์ วิทยรติโชติตระกูล รอง สว.สอบสวน สภ.ย่อยโนนสูง ดำเนินคดี ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ ในเวลากลางคืน”

น.ส.จันทร์จิรา จิตรยืนยง หรือเจ๊ปุ้ย อายุ 40 ปี ผู้เสียหายเจ้าของร้านค้า เล่าว่า รถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่ถูกขโมยไป พนักงานจอดอยู่ข้างร้านเป็นประจำมานานหลายปี เป็นรถใช้ขี่ส่งสินค้าให้กับลูกค้าที่มาซื้อของภายในร้าน แล้ววันนี้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างหายไป ตนจึงได้โพสต์ลงเพจ เพื่อตามหาเบาะแส แล้วไปแจ้งความที่โรงพัก สภ.ย่อยโนนสูง ไม่นานทางตำรวจชุดสืบสวน โทรมาแจ้งว่าจับคนขโมยรถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้แล้วทั้ง 3 คน เพราะ คนร้ายมีพฤติกรรมแบบเดิมๆ และเป็นเยาวชนทั้งหมด อายุเพียง 12-13 ปี เท่านั้นเอง และที่หน้าตกใจหัวหน้าแก๊งยังอายุน้อยที่สุดคือ 12 ปี

”ตนก็ฝากถึงผู้ปกครอง ให้ดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าให้เขามีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย อย่ายากได้ของที่ไม่ใช่ของตนเอง ช่วยกันดูแล ใส่ใจกับบุตรหลานของตัวเองด้วย รวมทั้งประชาชนทั่วไปก็ให้ดูแลทรัพย์สินของตนเองและทางตำรวจที่สามารถติดตามตัวได้อย่างรวดเร็ว และยืนยันจะดำเนินคดีกับเยาวชนกลุ่มนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี ส่วนรถคันนี้ตนมีความผูกพันมาก เพราะใช้รถคันนี้ช่วยงานมานาน10 กว่าปี ถึงไม่ใช่รถใหม่แต่ก็ใช้ส่งของให้กับลูกค้าในตลาดโนนสูงได้ดี ใช้งานก็ยังดีอยู่ เพราะถ้าขับออกไปส่งของก็ต้องได้เงินกลับมา ถือว่ารถคันนี้นำเงินเข้าร้านค้าของตน”

ด้าน ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายมาแจ้งความว่ารถจักรยานยนต์พ่วงข้างหาย และผู้เสียหายได้โพสต์ลงเพซบุ๊ค เพื่อหาเบาะแส ทางชุดสืบสวนจึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พอเห็นคลิปก็ทราบว่าเป็นกลุ่มเยาวชนกลุ่มเดิม ที่เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วในช่วงกลางปีที่ผ่านมา คือนายเอ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปต่อหน้าต่อตาผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายก็วิ่งไล่ตามแต่ไม่ทัน จนทางเราแกะรอยจับกุมตัวได้ จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์” และเพิ่งออกมาจากสถานพินิจได้เพียง 2 เดือน ก็มาก่อเหตุอีก ซึ่ง ด.ช.เอ อายุน้อยสุด แต่เป็นหัวหน้าแก๊ง จะร่วมก่อเหตุกับนายบี แต่ครั้งที่ผ่านมาผู้เสียหายไม่เอาความ เพราะเห็นว่าเป็นเยาวชน

โดยการก่อเหตุครั้งนี้ ทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่า ได้นำรถจักรยานยนต์ของญาติมาขี่ แล้วน้ำมันใกล้จะหมด จึงต้องการจะเอาน้ำมันมาเติมขี่เล่นต่อ แต่กลัวคนเห็น จึงได้ขโมยรถไปทั้งคัน โดยไปจอดที่บริเวณริมหนองน้ำใกล้กับเทศบาลเมืองโนนสูง-น้ำคำ เพื่อดูดเอาน้ำมันไปใส่รถจักรยานยนต์ แล้วขี่หลบหนีไป ส่วนเจ้าเอหัวหน้าแก๊ง กลับมีความคิดว่าจะนำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปแยกชิ้นส่วนของอะไหล่ขาย จึงได้นำไปจอดหลังร้านอาหารทะเล บริเวณทางเข้านิคมอุสาหกรรมอุดรธานี

”ทำการถอดเบาะรถ และหลังคารถทิ้งไว้ข้างทาง แล้วขี่รถมาจอดไว้ริมถนนทุ่งนาบ้านหนองหมื่นท้าว ปล่อยลมยางรถออกทั้งหมด แล้วจะกลับมาเอารถไปชำแหละ ส่วนผู้เสียหายก็ยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ฝากผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าให้มาก่อเหตุแบบนี้ เพราะผู้ปกครองก็จะมีความผิดไปด้วย”