“เมทเธียร์” เจ้าของมอตโต้ “Rise Above Ordinary เราเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยี” เป็นบริษัทลูกในเครือสกายกรุ๊ป หนึ่งในบิ๊กเพลเยอร์ที่มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในวงการเทคโนโลยีเมืองไทย
ดังนั้น เมื่อแตกบริษัทลูกออกมาเจาะธุรกิจฟาซิลิตี้แมเนจเมนต์หรือ FM-Facility Management เมื่อ 7 ปีก่อน เมทเธียร์จึงไม่ใช่ nobody แต่ถือเป็น somebody ที่ชูจุดแข็งจากการเป็นเจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี นำเสนอเป็นจุดขายผู้ให้บริการสมาร์ทฟาซิลิตี้แมเนจเมนต์เบอร์ต้น ๆ ของวงการ
จากบทบาทการเป็นเวนเดอร์ซอฟต์แวร์แมเนจเมนต์ครบทุกฟังก์ชั่นของการบริหารจัดการอาคารทุกรูปแบบยาวนานเกิน 3 ทศวรรษ เมื่อต่อยอดออกมาทำธุรกิจ FM วิสัยทัศน์แบบ Think Big ภายในปี 2568 ต้องการเบียดเข้ามาอยู่ในทำเนียบท็อป 5 และภายใน 3 ปีหน้า เมทเธียร์ต้องการขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ให้จงได้
“ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ “ขยล ตันติชาติวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด เริ่มต้นด้วยการอัพเดตแผนธุรกิจ โดยปี 2567 ตั้งเป้ารายได้ 1,500 ล้านบาท ผลงานที่ทำได้จริงอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 25%
จังหวะตีเหล็กต้องตีตอนไฟกำลังร้อนฉ่า นำมาสู่การวาดแผนธุรกิจปี 2568 วางเป้ารายได้เติบโต 30% อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าเป็นการประกาศเป้าแบบคอนเซอร์เวทีฟ ต้องรอดูผลงานตอนสิ้นปีกันอีกที
ในด้านจำนวนบุคลากรทั้งคุณแม่บ้านและพนักงานรักษาความปลอดภัยหรือ รปภ. ก่อนหน้านี้ในปี 2566 เมทเธียร์เพิ่งมีการซื้อกิจการ “บริษัท รักษาความปลอดภัยและบริหารธุรการ จำกัด” หรือ SAMCO ณ ตอนนั้นมีบุคลากร 6,000 คน แผนปี 2567 วางเป้าเพิ่มเป็น 10,000 คน แต่รายได้ที่เติบโตเกินเป้าที่ 1,800 ล้านบาทดังกล่าว ทำให้มีการเพิ่มจำนวนบุคลากรเป็น 12,000 คน
แน่นอนว่าปี 2568 เป้ารายได้มองการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ดังนั้น บุคลากรของเมทเธียร์ก็ต้องทวีจำนวนเพิ่มอีก 30% เช่นกัน
ปัจจุบัน คอร์บิซสิเนสของเมทเธียร์ มี 3 ส่วนหลัก 1.Smart Building Platform ธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อการจัดการและดูแลอาคารสถานที่ 2.Smart Security as a Service ธุรกิจให้บริการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ไฮไลต์อยู่ที่ MIOC-Mettier Intelligent Operation Center หรือศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะเมทเธียร์
และ 3.Smart Facility Management ธุรกิจบริการระบบดูแลอาคารสถานที่ ที่จะให้บริการทั้งหุ่นยนต์ทำความสะอาด ไปจนถึงแม่บ้าน
“เมทเธียร์เรามุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงด้านการบริหารจัดการอาคารและความยั่งยืน ให้ความสำคัญในเรื่องสมาร์ทซีเคียวริตี้แพลตฟอร์ม และ Sustainable Energy Management”
โดยแผนระยะ 3 ปีหน้า (2569-2571) เมทเธียร์ต้องการขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของวงการ FM เมื่อถึงตอนนั้นคาดว่ารายได้ต้องขยับขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท ซึ่งต้องบอกว่า เป้าหมายไม่ไกลเกินเอื้อม ถ้าหากสามารถรักษาระดับการเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 25-30% ขึ้นไป
คำถามสำคัญ ซักเซสสตอรี่ “Pre-crime” คืออะไร
“ผมตื่นเต้นมากกับพรี-ไครม์ ก่อนหน้านี้เราเห็นในหนังเรื่อง Minority Report ที่มี ทอม ครูซ เป็นดารานำ เนื้อเรื่องจะมีเทพ 3 องค์นอนอยู่ในน้ำที่ฝันล่วงหน้าได้ แต่ของเราทำได้จริงด้วย AI เทคโนโลยีซีซีทีวี ซึ่งสามารถเช็กล่วงหน้าได้เหมือนกันว่ากำลังจะมีอาชญากรรมจะเกิดขึ้นในพื้นที่”
ทั้งนี้ รูปธรรมที่จับต้องได้ของ Pre-crime ทางเมทเธียร์มีการติดตั้งเทคโนโลยีซีซีทีวี (กล้องวงจรปิด) อยู่ใต้ป้ายบิลบอร์ดของกลุ่มบริษัท Plan B Multimedia ซึ่งมีเพนพอยต์อยู่ที่ป้ายบิลบอร์ดหรือป้ายคัตเอาต์ขนาดใหญ่ ติดตั้งกลางแจ้ง กระจายทำเลครอบคลุมทุกมุมเมือง ไม่มี รปภ.เฝ้า ขณะที่ยุควิกฤตเศรษฐกิจทำให้มีขโมยขโจรชุกชุม เคสที่เกิดขึ้นคือป้ายบิลบอร์ดดิจิทัลมีปัญหาสายไฟฟ้าถูกขโมยเพื่อลอกทองแดงข้างในไปขาย
“สิ่งที่เกิดขึ้นคือสายไฟทองแดงหายทุกเดือน และหายทุกป้าย แพลนบีก็มาปรึกษาเราว่าทำอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะป้ายที่มีไฟแอลอีดี เราทดลองเป็นปี ลองผิดลองถูกด้วยการทำเอไออัลกอริทึ่มของเราเอง จนเราเชปเป็นบอดี้ เป็นเฟซ และเราลิงก์เฟซเข้ามาในแบล็กลิสต์ เอาแค่ป้ายใจกลางเมืองย่านถนนพระราม 4 ปรากฏว่าตึกรกร้างแห่งหนึ่ง มีป้ายบิลบอร์ดอยู่ข้างบนตึก มีโจรกรรมเกิดขึ้นตั้งแต่ทางขึ้นตึกแล้ว พอเราเห็นว่ากล้องจับภาพได้ ส่งสัญญาณเตือน (alert) มาที่ MIOC ที่ทำงาน 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว”
ขั้นตอนหลังได้รับสัญญาณ alert มีการประสานงานกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดซึ่งข้อมูลเป็นไปตามลูกค้าไว้วางใจให้บริหารจัดการ ข้อดีคือเมทเธียร์เป็นบริษัทเดียวที่มีทั้งเทคโนโลยี และแมนเพาเวอร์ ทำงานคู่กัน โดยเมทเธียร์มั่นใจว่าบริษัทเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในไทยที่เป็นเจ้าของระบบที่เทคโนโลยี AI กับฮิวแมนทำงานควบคู่กันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“เรามี รปภ.ของเราเอง มีสายตรวจของเราเอง เมื่อมีสัญญาณ alert เข้ามาว่าเหตุเกิดที่บ้านย่านพระราม 4 สายตรวจใกล้ที่สุดเข้าไปได้เร็วที่สุดภายใน 8 นาที ในอนาคตจะทำให้เร็วกว่านี้ ซึ่งพนักงาน รปภ. แม่บ้าน สายตรวจเรามีศูนย์ฝึกอบรมที่พวกเขาทุกคนจะต้องผ่านคอร์สเวลเทรน เราสามารถจับคนร้ายได้ในที่เกิดเหตุ เราจับเขาไม่ได้หรอกแต่เราเอาชนะขโมยได้ ซึ่งขั้นตอนแรกที่เราแจ้งสายตรวจเข้าจุดเกิดเหตุ ขั้นตอนที่สองคือประสานงานไปที่ตำรวจใกล้ที่สุด ซึ่งเข้าไปได้รวดเร็วไล่เลี่ยกัน ทำให้จับขโมยได้รวดเร็ว”
โดย Pre-crime (จับขโมยได้ก่อนจะเกิดเหตุ) เคสนี้ เกิดช่วงกลางวันแสก ๆ ทำเลใจกลางเมือง ทั้งหมดทั้งมวลเมทเธียร์ “เอาอยู่” ภายในเวลาเพียง 10 กว่านาที จากนั้นรายงานไปยังผู้ว่าจ้างคือกลุ่มแพลน-บี หลังจากรับทราบก็ได้มีเสียงชื่นชม และไฟเขียวให้มีการติดตั้งซีซีทีวีเพิ่มเติมตามคำแนะนำของเมทเธียร์ในจุดที่วิเคราะห์แล้วว่าเป็นจุดเสี่ยง
อีกสักคำถาม เคส Pre-crime เหมาะกับใครมากกว่ากัน ระหว่างเจ้าของอาคารที่เป็นภาครัฐกับเอกชน
“เป็นคำถามที่ดี Pre-crime เป็น Preventive Solution จริง ๆ ขึ้นกับมูลค่าและความเสียหาย อาคารหน่วยงานรัฐควรจะมีระบบนี้เพื่อเป็นต้นแบบ แต่ว่ามองในมุมมูลค่าความเสียหายของตึกเอกชนอาจจะมีมากกว่าภาครัฐ เพราะฉะนั้น ข้อคำนึงจึงอยู่ที่การมีระบบ Pre-crime น่าจะขึ้นอยู่กับมูลค่าความเสียหาย”
ยกตัวอย่างจากเคสจริง Pre-crime ที่จับขโมยได้ก่อนจะเกิดเหตุ คำนวณ 1 ป้ายบิลบอร์ดถ้าหากต้องซ่อมแซมติดตั้งสายไฟฟ้าใหม่เฉลี่ยมีค่าใช้จ่ายจุดละ 2-3 แสนบาท ยังไม่นับค่าเสียโอกาสจากแอร์ไทม์หรือความพร้อมในการให้เช่าป้ายโฆษณาบิลบอร์ดอีกต่างหาก
คำนวณแบบบัญญัติไตรยางค์ Pre-crime เป็นตัวช่วยบริษัทแพลน-บีประหยัดค่าใช้จ่ายและค่าเสียโอกาสจุดละ 2-3 แสนบาท ถ้ามีป้ายบิลบอร์ด 100 จุด การจับขโมยก่อนลงมือทำอาชญากรรมเท่ากับช่วยประหยัดค่าเสียหายหลัก 20-30 ล้านบาท
“ขยล” ฝากข้อคำนึงเชิงลึกมากไปกว่านั้น Pre-crime ยังเป็นตัวช่วยจีดีพีประเทศในทางอ้อม ถ้าหากไม่มีการสูญเสียจากการถูกโจรกรรมทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นป้ายบิลบอร์ด หรืออุปกรณ์สำคัญในโรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล สถานศึกษา อาคารหน่วยงานรัฐ ศูนย์การค้า-ธุรกิจรีเทล เฮลท์แคร์ โครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม ออฟฟิศบิลดิ้ง และแมสทรานสิตอย่างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์
หลักคิดคือ การ save crime เท่ากับ save GDP ประเทศไปด้วยในตัว เพราะมูลค่าความเสียหายของทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมแต่ละปี บั่นทอนจีดีพีโดยเราไม่รู้ตัว
“ผมเพิ่งไปดูงานนิทรรศการการบินที่เมืองมิลาน มีโอกาสเดินสำรวจบ้านเมือง สิ่งสะดุดตาเรื่องหนึ่งคือตามบ้านจะมีป้ายเหล็กติดหน้าบ้าน เขียนข้อความระบุ บ้านหลังนี้ซีเคียวริตี้ by บริษัท A B C D… ทำให้ขโมยไม่กล้าเข้า แค่ป้ายเพียงป้ายเดียวขู่ขโมยให้กลัวได้ เมทเธียร์เรามีเป้าหมายว่าจะต้องไปให้ถึงจุดนั้น ซึ่งด้วยเทคโนโลยีซีซีทีวีและ AI ที่เรามีประสบการณ์และความชำนาญ ผมเชื่อว่าเมทเธียร์สามารถออฟเฟอร์บริการแบบเดียวกันได้ภายในเดือนหน้า ไม่ต้องรอถึงปีหน้า” คำกล่าวของซีอีโอ “ขยล ตันติชาติวัฒน์”
