“อัครา”ของบกลาง ลุย “ โครงการVMSคนละครึ่ง ” ช่วยชาวประมง แก้ปัญหาไอยูยู เจ้าของเรือ แจ้งรับสิทธิ์ด่วน 21 เม.ย. – 23 พ.ค. 68

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่กำกับดูแลกรมประมง มีนโยบายดำเนิน โครงการVMS คนละครึ่ง เพื่อช่วยเหลือเจ้าของเรือประมง ผ่าน “โครงการประมงรวมใจ จ่ายระบบติดตามเรือประมงไทย (VMS) คนละครึ่ง” ซึ่งได้รับมติเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ โดยใช้งบกลาง

สำหรับ “โครงการประมงรวมใจ จ่ายระบบติดตามเรือประมงไทย (VMS) คนละครึ่ง” เป็นการจ่ายเงินอุดหนุนค่าบริการระบบติดตามเรือประมง เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของชาวประมงจากมาตรการที่ออกโดยรัฐ โดยสนับสนุนเงิน 50% ของค่าบริการระบบติดตามเรือประมงรายเดือน สนับสนุนไม่เกิน 9 เดือน และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้เข้าร่วมโครงการโดยตรง

มีระยะเวลงยาดำเนินโครงการฯ ตั้งแต่ ม.ค. – ก.ย. 2568 และเจ้าของเรือที่ต้องการรับสิทธิสามารถขอขึ้นทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. – 23 พ.ค. 2568 ผ่านทาง Application Fisheries Next โดยดาวน์โหลด Application และสมัครเข้าใช้งาน เลือกเมนู แซทบอร์ด พิมพ์ข้อความเพื่อประสงค์เข้าร่วมโครงการ เช่น “ยืนยันเข้าร่วมโครงการประมงรวมใจ จ่าย VMS คนละครึ่ง”

หรือขึ้นทะเบียนด้วยตนเองได้ที่ กองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง กรมประมง หรือ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก หรือ สำนักงานประมงจังหวัดในท้องที่ที่มีอาณาเขตติดทะเล โดยผู้ขอรับสิทธิต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ที่ยังไม่สิ้นอายุหรือถูกเพิกถอน หรือเป็นผู้ได้รับการจดทะเบียนเป็นเรือขนถ่ายสัตว์น้ำที่ยังไม่ถูกเพิกถอน และขอขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการตามระเบียบที่กรมประมงกำหนด

ทั้งนี้ กรมประมงจะประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการฯ ณ ศูนย์ PIPO และสำนักงานประมงจังหวัดในวันที่ 26 พ.ค.2568 หากไม่มีรายชื่อ หรือจำนวนสิทธิไม่ถูกต้อง สามารถยื่นอุทธรณ์สิทธิได้ ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. – 2 มิ.ย. 2568 (7 วัน) ณ กองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง กรมประมง หมายเลขโทรศัพท์ 0 2561 3132

นายบัญชา กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมากรมประมงนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาพัฒนาและปรับใช้กับการทำประมงของเกษตรกร ชาวประมงไทย เพื่อเสริมศักยภาพชาวประมงและสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศไทย ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โดยเฉพาะระบบติดตามเรือ (Vessel Monitoring System; VMS) ซึ่งเป็นระบบที่ทั่วโลกและองค์การบริหารจัดการประมงระดับภูมิภาค (RFMOs) ให้การยอมรับว่ามีประสิทธิภาพในการติดตามเรือ หรือการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ในทะเล

และมีการบังคับใช้อย่างแพร่หลายเพื่อป้องกันยับยั้งและขจัดการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ IUU Fishing โดยระบบสามารถแสดงข้อมูลเส้นทางการเดินเรือ (VMS tracking) สามารถนำไปวิเคราะห์ประกอบกับข้อมูลอื่น ๆ เช่น สัตว์น้ำที่จับได้ในสมุดบันทึกการทำการประมง (Fishing Log Book) ชนิดและปริมาณสัตว์น้ำขึ้นท่าได้

อย่างไรก็ตาม การกำหนดให้เจ้าของเรือประมงต้องติดตั้งระบบติดตามเรือประมง และดูแลรักษาระบบดังกล่าว ให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ทำให้เจ้าของเรือประมงต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว และเสียค่าบริการรายเดือน

โดยเมื่อพิจารณาเฉพาะเรือประมงพาณิชย์ จำนวน 4,787 ลำ และเรือขนถ่ายสัตว์น้ำในน่านน้ำไทย จำนวน 31 ลำ พบว่าติดตั้งอุปกรณ์ VMS รุ่นที่ 1 จำนวน 4,318 ลำ และติดตั้งอุปกรณ์ VMS รุ่นที่ 2 จำนวน 500 ลำ ค่าบริการรายเดือนอยู่ในช่วง 1,283.3 – 2,889.0 บาท/ลำ/เดือน

นอกจากนี้ ชาวประมงยังมีภาระต้นทุนในการทำการประมงที่สำคัญ ได้แก่ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าจ้างผู้ควบคุมเรือ คนประจำเรือ ค่าเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำการประมงและการเก็บรักษาสัตว์น้ำ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก

ประกอบกับในปัจจุบัน ชาวประมงได้ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพทั้งต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น การขาดแคลนแรงงาน ปัญหาราคาสินค้าสัตว์น้ำลดลง ทำให้ชาวประมงได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพเป็นอย่างมาก