ทีมสุดซอย ตรวจรง.เชาว์ สตีลฯ ปราจีนบุรี ใช้เตาหลอมแบบ IF เจอเหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน 7,433 ตัน แอบหลอมเหล็กระหว่างโอนย้ายใบอนุญาตฯ โทษหลายกระทง
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ยังดำเนินมาตรการตรวจสอบสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสายไฟ ยางรถยนต์ เหล็ก และเหล็กเส้น ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ ล่าสุดได้มอบหมายให้ชุดตรวจการสุดซอยของกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี (สอจ.ปราจีนบุรี) เข้าตรวจสอบ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด ที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กจากเตาหลอมชนิด IF เพื่อตรวจติดตามเหล็กให้เป็นไปตามมาตรฐาน
“ได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบและยึดอายัดเหล็กที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ได้ทั้งหมด 7,433 ตัน มูลค่ากว่า 148.67 ล้านบาท พร้อมดำเนินคดีฐานทำผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีโทษความผิดฐานทำผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากยังโอนเปลี่ยนใบอนุญาตไม่แล้วเสร็จ ตามข้อมูลเชิงลึกที่ตรวจสอบมาด้วย” นายเอกนัฏ ระบุ
น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า ในการเข้าตรวจสอบ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างเหล็กเส้นกลม 3 ขนาด คือ 6 มม. (มิลลิเมตร) 8 มม. และ 9 มม. เหล็กข้ออ้อย 3 ขนาด คือ 8 มม. 10 มม. และ 12 มม. ผลการตรวจทดสอบพบว่า เหล็กเส้นกลมขนาด 6 มม และ 8 มม ตกค่าโบรอน ซึ่งเป็นค่าที่ใช้วัดมาตรฐานเหล็ก ขณะที่เหล็กข้ออ้อยทั้ง 3 ขนาด ตกทั้งค่าโบรอน และ Yield ค่าแรงดึง จึงได้ยึดอายัดเหล็กที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานทั้งหมดไว้ พร้อมดำเนินคดีโทษทำผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โทษฐานติดเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) บนผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษจำหน่ายผลิตภัณฑ์โดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจสอบพบว่า บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด อยู่ระหว่างการโอนย้ายใบอนุญาต มอก. ไปยังบริษัท เชาว์ สตีล แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งตามกฎหมาย ต้องทำการโอนย้ายใบอนุญาตให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจึงสามารถทำผลิตภัณฑ์ได้ แต่ทางบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด กลับอาศัยช่วงเปลี่ยนผ่านทำการผลิตเหล็กทั้งที่ได้แจ้งยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) และใบอนุญาต มอก. เพื่อโอนให้กับ บริษัท เชาว์ สตีล แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ กรอ.และ สมอ. จึงถูกดำเนินคดีฐานทำผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาต โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และสั่งให้หยุดการผลิตเหล็กเส้นทั้งหมด ซึ่งตามข้อมูลเบื้องต้นยังอาจเข้าข่ายคดีพิเศษ จึงจะเสนอให้ ดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษด้วย