หลั่งไหลถวายสักการะ พระศพโป๊ปฟรานซิส วันแรกเกือบ 5 หมื่นคน วาติกันเตรียมปิดโลงบรรจุพระศพค่ำ 25 เม.ย.
เมื่อวันที่ 24 เมษายน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้คนจำนวนมากจากทั่วสารทิศหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ต่อแถวรอเพื่อให้ได้เข้าไปถวายสักการะพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส หรือโป๊ปฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกผู้ล่วงลับ ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในนครรัฐวาติกัน เป็นครั้งสุดท้าย แม้จะต้องใช้เวลารอเป็นเวลานานหลายชั่วโมงก็ตาม โดยมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ได้กลับมาเปิดให้ประชาชนได้เข้าถวายสักการะเป็นวันที่ 2 เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 24 เมษายน ก่อนหน้าที่การเปิดให้สาธารณชนได้ถวายสักการะพระศพที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน จะสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการในเวลา 19.00 น. ของวันศุกร์ที่ 25 เมษายนตามเวลาท้องถิ่น
สำนักวาติกันเปิดเผยจำนวนประชาชนที่ได้เข้าถวายสักการะพระศพโป๊ปฟรานซิส ซึ่งทรงประทับอยู่ในโลงไม้เปิดตั้งอยู่บนหน้าแท่นหันหน้าไปทางผู้ไว้อาลัย โดยมีทหารองค์รักษ์สวิส 4 นาย ยืนเฝ้าอย่างสงบนิ่ง ว่าในช่วงวันแรกนั้นมีจำนวนเกือบ 50,000 คน โดยจากเดิมที่กำหนดจะปิดให้เข้าถวายสักการะในเวลาเที่ยงคืน แต่ผู้คนยังคงต่อแถวอย่างอดทนแม้คิวจะยาวมากจนเกิดคาด ทำให้ทางวาติกันต้องเปิดมหาวิหารให้ผู้คนได้เข้าสักการะต่อไป ก่อนจะมีการปิดการเข้าสักการะลงเพียงแค่ 1 ชั่วโมงในเวลา 06.00-07.00 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน เพื่อให้มีการทำความสะอาดพื้นที่ จากนั้นได้ทำการเปิดให้ประชาชนได้เข้าถวายสักการะอีกครั้ง
เอมิลิอาโน เฟร์นันเดซ ชาวคาทอลิกจากเม็กซิโก ซึ่งต่อแถวรอเข้าถวายสักการะในเวลาราวเที่ยงคืนเปิดเผยว่าตนรอมาแล้วกว่า 2 ชั่วโมงแต่ยังคงเข้าไปไม่ถึงมหาวิหาร ขณะที่รอยเตอร์รายงานอ้างผู้รับผิดชอบในการจัดการฝูงชนประเมินว่าจากที่อาจใช้เวลารอเข้าสักการะ 3-4 ชั่วโมงก็อาจต้องรอมากกว่านั้น
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ภายหลังจากการเปิดให้สาธารณชนเข้าถวายสักการะพระศพพระสันตะปาปาฟรานซิสสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการในเวลา 19.00 น.ของวันศุกร์ที่ 25 เมษายน จากนั้นในเวลา 20.00 น.ของวันเดียวกันจะมีการประกอบพิธีปิดโลงบรรจุพระศพ ในส่วนการประกอบพิธีพระศพที่จะเริ่มขึ้นในเวลา 10.00 น.ของวันเสาร์ที่ 26 เมษายน ซึ่งจะมีผู้นำโลกจากหลายชาติ รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่คาดว่าจะมาร่วมงานพิธีพระศพจำนวนมาก