ส.ว.สงขลา ซัดบิ๊กอ้วน ขีดเส้นตายแก้ไฟใต้ใน 7 วัน ยันไม่ง่ายขนาดนั้น แนะต้องมียุทธศาสตร์ใหม่ ใช้ชุดความจริงหนึ่งเดียวแก้ให้ตรงจุด
จากกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ได้ออกมา ขีดเส้นตาย ให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใน 7 วัน หลัง กองกำลังติดอาวุธ ของ ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น โจมตีรถยนต์ของ ร.ต.ท. วัฒนา ชูมาปาน ตำรวจ สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ที่นำ พระสงฆ์ และ สามเณร 6 รูป เพื่อไปบิณฑบาต เป็นเหตุให้ สามเณรพงษกร ชูมาปาน ลูกชาย มรณภาพ และ สามเณร พระภายในรถยนต์คันได้รับบาดเจ็บ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เมษายน นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา จ.สงขลา กล่าวว่า เหตุความรุนแรง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา เป็นเวลา 21 ปี จึงเป็นไปไม่ได้ ที่จะให้สถานการณ์ความรุนแรง และความไม่สงบคลี่คลายใน 7 วัน เพราะถ้าสถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ แก้ง่ายอย่างนั้น เรื่องความรุนแรงของจังหวัดชายแดนภาคใต้คงยุติไปก่อนที่นายภูมิธรรม จะมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีกลาโหม”
นายไชยยงค์กล่าวว่า การขีดเส้นเพื่อกดดัน ให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งรัด ในการยุติปัญหาความรุนแรงใน 7 วัน แม้แต่ในเคสของการยิง สามเณร ก็ ทำได้ไม่ง่าย เพราะเจ้าหน้าที่ต้อง รวมรวมพยานหลักฐาน พยานบุคคล ต้องมีการนำ วัตถุพพยานในหา ดีเอ็นเอ ไป เชื่อมโยงกับเหตุการณ์อื่นๆ ที่เกิดขึ้น
นายไชยยงค์กล่าวว่า ขณะนี้มีการพิสูจน์ได้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 10 แล้วว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนเอ็ม 16 ของ ตำรวจ สภ.นาประดู จ.ปัตตานี ที่ถูก คนร้าย ยิงเสียชีวิต และ ยึดปืนไป ในขณะที่ ปฏิบัติหน้าที่ เส้นทางรถไฟ ที่ อ.นาประดู เมื่อปี 66 และ มีการ ควบคุมคัวผู้ต้องสงสัยไป ทำการซักถาม การไป ขีดเส้น ให้กับเจ้าหน้าที่ อาจจะเป็นการ กดดัน ให้เกิดการเร่งร้อนในการ สอบสวน สอบสวน จับกุม และอาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้น ทำให้ สถานการณ์ รุนแรง ตามมา
นายไชยยงค์กล่าวว่าสิ่งที่ นายภูมิธรรม เร่ง ดำเนินการ คือ การแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หน่วยงานของ ทหาร ตำรวจ ปกครอง และ หน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ยังมีการ บูรณาการ อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการ บูรณาการ แบบ หลวมๆ หลอกๆ ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างเอาตัวรอก ในการรักษาหน่วยของตนเอง ที่สำคัญ ทุกหน่วยงานมี ชุดความจริง ของ สถานการณ์ และ ความเข้าใจ ใน สถานการณ์ คนละชุด
นายไชยยงค์กล่าวว่าสิ่งที่นายภูมิธรรม ต่องเร่งดำเนินการคือ ต้องเอา “ชุดความจริง” ทุกชุด ของทุกหน่วยงาน มากางบนโต๊ะ และทำให้มี ชุดความจริง เพียงชุดเดียว เพื่อใช้เป็น”ภัมภีร์” ในการ”ดับไฟใต้” การได้ชุดความจริงเพียงชุดเดียว คือการแก้ปัญหาที่ ตรงประเด็น ที่สุด
“ สิ่งที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ของ จังหวัดชายแดนภาคใต้เรียกร้อง คือ เครื่องมือ ในการ แก้ปัญหา ที่เกิดขึ้น นั้นคือการออกกฎหมาย การก่อการร้าย เพื่อให้ ตำรวจ ทหาร สามารถมี เครื่องมือที่มี ประสิทธิภาพ ในการ ดำเนินการกลุ่ม กลุ่มก่อการร้าย ที่ ณ วันนี้ ไม่ใช้ สถานการณ์ การก่อความไม่สงบ แต่เป็น สถานการณ์ การก่อการร้าย ที่ต้องมี เครื่องมือใหม่ คือ กฎหมายการก่อการร้าย”
นายไชยยงค์กล่าวว่าเข้าทาง ของ ขบวนการบีอาร์เอ็น ในการ เรียกร้อง ร้องเรียน ต่อ องค์กรสิทธิมนุษย์ชน และเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ เจ้าหน้าที่ ไม่กล้าในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะกลัวถูกร้องเรียน และไม่มีใครช่วยเมื่อเกิดเหตุร้องเรียน
นายไชยยงค์กล่าวว่า รัฐบาล โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกลาโหม ทำหน้าที่รับผิดชอบเรื่องความไม่สงบของจังหวัดชายแดนภาคใต้เกือบ 2 ปี แต่ไม่กล้าตัดสินใจปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไร ทั้งในเรื่องของ กฎหมาย ในเรื่อง ยุทธศาสตร์ ในเรื่อง ยุทธวิธี ปล่อยให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ สภาความมั่นคงแห่งชาติ รำวง กันไปเรื่อยๆ เป็นการเดินบน เส้นทางเก่า ที่เดินมาแล้ว 21 ปี เพื่อไปสู่ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
“เป็นการเดินผิดทาง เพราะ บีอาร์เอ็น เขาใช้ เส้นทางสายใหม่ ในการ ต่อสู้ กับ อำนาจรัฐ แล้วอย่างนี้ การแก้ปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะพบกับ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้อย่างไร ในเมื่อ เส้นทางที่ ฝ่ายรัฐบาล เดินอยู่เป็นทางตัน และแม้แต่เรื่องการขับเคลื่อน การเจรจาสันติภาพ กับ บีอาร์เอ็น นายภูมิธรรม ก็ กล้าๆ กลัวๆ ไม่มีความ คืบหน้า มีแต่ ประชุม รับฟังข้อมูล จากฝ่ายนั้น ฝ่ายนี้ แต่ไม่กล้าตัดสินใจ การแก้ปัญหา ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใน อุ้งมือ ของนายภูมิธรรม จึงไม่ได้ผล และทำให้ สถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น”นายไชยยงค์กล่าว