สกัดจับยาบ้า 1 วัน กว่า 1.2 ล้านเม็ด จับ 4 ผู้ต้องหา เห็นด่านกลับรถหนี ไล่ล่าระทึก ก่อนเข้าพื้นที่ชั้นใน มทภ.2 จนท.ทำงานเข้มข้นตามแผนยุทธการสุรนารีดอกบัวบานสัมพันธ์
เมื่อวันที่ 24 เม.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ทำงานอย่างหนักในการปราบปรามยาเสพติด และกดดันกลุ่มผู้ที่จะลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ชั้นในอย่างต่อเนื่อง
ตามแผนยุทธการสุรนารีดอกบัวบานสัมพันธ์ และแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นแผนเร่งด่วนของรัฐบาล โดยผลการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในเวลา 1 วัน สามารถจับกุม ผู้ลำเลียงยาเสพติดได้ 4 คน ของกลางยาเสพติด(ยาบ้า) รวมกว่า 1.2 ล้านเม็ด
โดยรายที่ 1 เวลา 23.30 น.วันที่ 22 เม.ย.68 กกล.สุรศักดิ์มนตรี ส่วนสกัดกั้น ภาค ตอ./น. ตอนบน นบ.ยส.24 บก.ควบคุมที่ 2 (ร.13) โดย ร้อย.ฉก.ตชด.245 ให้บูรณาการร่วมกับ ฉก.ตชด.24 (หน่วยงานหลัก) เฝ้าตรวจบริเวณพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย
โดยได้รับรายงานจากแหล่งข่าว ว่าจะมีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.หนองคาย เพื่อลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยตรงตามที่ได้รับแจ้ง บริเวณหน้าวัดโพธิ์ชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น เมื่อคนขับรถยนต์คันดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้ขับหลบหนี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตาม และสกัดกั้นฯ ไว้ได้บริเวณถนนมิตรภาพ ขาเข้าแยกหนองคาย – หนองสองห้อง อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย
สามารถจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ประกอบด้วย 1.นายยมนา อายุ 37 ปี ชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และ 2.นายภิญโญวิทย์ อายุ 26 ปี ชาวอ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 2 กระสอบ ประมาณ 632,360 เม็ด รถยนต์ นิสสัน อาเมล่า สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 678 หนองคาย โดยชุดจับกุมได้นำของกลางส่ง สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายที่ 2 เวลา 06.30 น. วันที่ 22 เม.ย.68 ทางกองทัพภาคที่ 2 /นบ.ยส.24 อำนวยการให้ ส่วนปราบปราม เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นิคมคำสร้อย จังหวัดมหาสารคาม ขณะปฏิบัติหน้าที่ตั้ง จุดตรวจ/จุดสกัด บริเวณจุดตรวจหน้าวิทยาลัยการอาชีพนิคมคำสร้อย ต.โชคชัย อ.นิคมคำสร้อย จ.มหาสารคาม
ได้มีรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ญฐ 5275 กทม. วิ่งมาจากเส้นทางอ.คำสร้อย – เลิงนกทา จ.ยโสธร กลับรถกะทันหันก่อนถึงจุดตรวจประมาณ 100 เมตร แล้วเร่งความเร็วหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจ เห็นมีพิรุธน่าสงสัย จึงขับรถไล่ติดตาม
ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ทราบชื่อต่อมา 1.นายคเนตร อายุ 34 ปี ชาว อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี และ 2.นายวัทธกร อายุ 28 ปี ชาวอ.เมือง จ. อุบลราชธานี พร้อมของกลางยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน ประมาณ 390,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ( ไอซ์) 0.6 กิโลกรัม
จากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจาก ชาวลาว (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) ว่าจ้างให้ขับรถยนต์จากห้างบิ๊กซี จ.มหาสารคาม เพื่อนำไปส่งที่ห้างโลตัส จ.ยโสธร ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ดังกล่าว ทางชุดจับกุมจึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.นิคมคำสร้อย เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และทำการขยายผลเพื่อหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
รายที่ 3 เวลา 12.30 น. วันที่ 22 เม.ย.68 กองทัพภาคที่ 2 /ส่วนสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) อำนวยการให้ กกล.สุรนารี/ส่วนสกัดกั้นฯ ตอนล่าง/ บก.ควบคุมที่ 4/ ทก.กกล.สุรนารี, กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 1 (มว.ลว.ไกล ที่ 1) ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ อ.เขมราฐ
จึงจัดกำลังติดตาม บูรณาการร่วมกับ นฝด.22, ชุด สท.ที่ 7, ชุดข่าวยาเสพติด จ.อุบลราชธานี กอง 12 ศรภ.บก.ทท. และ สภ.เขมราฐ ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณไร่มันสำปะหลัง บ.อูบมุง ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราขธานี ตรวจพบกระสอบต้องสงสัยสีเขียว จำนวน 1 กระสอบ
ภายในบรรจุยาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด ซ่อนอยู่แต่พงหญ้าโดยไม่มีผู้ต้องหาทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำของกลางดังกล่าว มาไว้ที่ กกล.สุรนารี และจะส่งมอบให้ สภ.เขมราฐ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ท.บุญสิน กล่าวด้วยว่า กองทัพภาคที่ 2 โดย นบ.ยส.24 เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกนาย ให้ปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างเข้มข้น เปิดยุทธการเชิงรุก ใช้การข่าวที่แม่นยำ รวมถึงการเฝ้าระวัง ป้องกัน ปราบปราม เพื่อให้ยาเสพติดเหล่านี้ลดน้อยลงที่สุดหรือปราบปรามให้หมดไป
“ผมต้องขอบคุณทุกหน่วยงานทั้งฝ่ายตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ภาคประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ที่ให้ร่วมมือกันเป็นอย่างดี ทั้งการแจ้งข่าว ให้กำลังพล ทำให้การปฏิบัติงานของเราในแต่ละครั้งสำเร็จไปได้ด้วยดี และขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ช่วยเป็นหูเป็นตา ให้กับทางเจ้าหน้าที่ การปรับความยาวยาเสพติดให้หมดสิ้นไปก็ต้องได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนด้วย การปราบปรามถึงจะมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล” พล.ท.บุญสิน กล่าว