Cloud11 ทุ่มเต็มสูบ 4.3 หมื่นล้านบาท ขยายเพิ่มคอนเทนท์สตูดิโอ ห้องสตรีมมิ่งขนาดใหญ่ พร้อมเทคโนโลยีครบ ป้อนอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์จากทั่วโลก คุยกทม. เตรียมดัน สุขุมวิทใต้ สู่ ฮับครีเอเตอร์

วันที่ 24 เม.ย. 2568 นายองศา จรรยาประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการ Cloud 11 (คลาวด์ อีเลฟเว่น) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอ็มคิวดีซี) เปิดเผยว่าโครงการคลาวด์ 11 ล่าสุดได้ก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 80% และจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปลายปีนี้ ทั้งในส่วนของพื้นที่ศูนย์การค้าขนาด 5 ชั้น คอนเซ็ปต์ใหม่ ที่สนับสนุนธุรกิจร้านค้าของครีเอเตอร์ แหล่งรวมสินค้าและไอเดียสร้างสรรค์จากทุกมุมโลก

พื้นที่สำนักงานเกรด A+ รวม 4 อาคาร พื้นที่รวม 70,000 ตร.ม. ที่พัฒนาภายใต้แนวคิดCreator Village ซึ่งจะเป็นอาคารสำนักงานที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง รองรับทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมผู้ที่ผลิตเนื้อหาดิจิทัล ค่ายหนัง ค่ายเพลง เอเจนซี่ บริษัทการตลาดและกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค

ตลอดจนสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ 16,000 ตร.ม. ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ บริเวณชั้น 5 ซึ่งล้อมรอบด้วยอาคารสำนักงาน 4 อาคาร

พร้อมลานกีฬา มีทั้งสนามบาส สนามตะกร้อ สนามวอลเลย์บอล ตลอดจนลู่วิ่งระยะทาง 1 ก.ม. โดยเปิดให้ทั้งคนในชุมชนและผู้เช่าอาคารมาใช้ได้ฟรี

ที่สำคัญล่าสุด บริษัทได้ขยายมูลค่าโครงการเป็น 43,000 ล้านบาท โดยเพิ่มการลงทุนอีก 3,000 ล้านบาท ทั้งในส่วนของการสร้างครีเอเตอร์ สตูดิโอ เกือบ 30 ห้อง พื้นที่รวม 2,000 ตร.ม. ที่มาพร้อมอุปกรณ์เทคโนโลยี รวมถึงโปดักชั่นสตูดิโอ หรือห้องถ่ายขนาดใหญ่พื้นที่ประมาณ 1,000 ตร.ม. สามารถนำรถยนต์มาถ่ายทำได้

โดยทั้งหมดเพื่อรองรับการให้บริการกลุ่มผู้เช่าที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เนื้อหาดิจิทัล ความบันเทิง การตลาดเป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันนิยม ทำ live streaming หรือ การถ่ายทอดสดการเล่นเกมในโลกออนไลน์

นอกจากนี้ยังได้จัดสรรงบ 1,000 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้กับย่าน เพื่อผลักดันการพัฒนาย่านสุขุมวิทใต้ให้เป็น โดยได้วางแผนพัฒนาในหลายโครงการ อาทิ การพัฒนาพื้นที่
ริมคลอง ปรับปรุงสวนสาธารณะ พัฒนาทางเท้าทั้งบนถนนสุขุมวิทและในซอยย่อย ตลอดจนการร่วมจัดเทศกาลงานสร้างสรรค์ อย่าง Bangkok Design Week อย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ทาง Cloud 11 ได้หารือความร่วมมือกับ ทางสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA – Thailand Creative Culture Agency) สำหรับขับเคลื่อน การพัฒนาย่านสุขุมวิทใต้ ให้เป็นพื้นที่เขตสร้างสรรค์และนวัตกรรม และซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยด้วย

ในโครงการยังมี theCOMMONS Cloud 11 (เดอะคอมมอนส์ คลาวด์ อีเลฟเว่น) บนพื้นที่ 5,420 ตร.ม บริเวณชั้น 4 ของโครงการ รวมถึงโซนอคาเดมี่ สถาบันการศึกษาบ่มเพาะบุคลากรด้านการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ,ฮอลล์จัดงาน อีเวนต์ งานแสดงต่างๆ รวมถึงมีโรงละคร และทุกส่วนจะเชื่อมโยงกันด้วยสวนลอยฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ

ตลอดจนยังมีโรงแรมโยเทลขนาด 250 ห้อง สมาร์ทโฮเทลแห่งแรกของไทย ซึ่งจะเปิดบริการในเดือนก.พ. 2569 ,โรงแรมสร้างสรรค์ แบงค็อก โดย แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ขนาด 252 ห้อง กำหนดเปิดบริการในปี2570

ทางด้านนายพอล สิริสันต์ กรรมการผู้จัดการโครงการ Cloud 11 กล่าวว่า Cloud 11 มีเป้าหมายในการสร้าง Creative Ecosystem หรือระบบนิเวศสร้างสรรค์ที่ครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุดให้กับประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการพบปะกันของครีเอเตอร์หรือคนในวงการสร้างสรรค์ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดไอเดีย สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ร่วมกัน (Collaboration) ทำให้คอนเทนต์ไทยมีศักยภาพและยกระดับไปสู่ระดับโลกได้

โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวก ที่สามารถตอบความต้องการครีเอเตอร์และคนในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ได้ตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อสร้างให้ Cloud 11 เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมครบวงจรที่ครีเอเตอร์สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มศักยภาพ

พร้อมกล่าวว่าปัจจุบันมีค่ายเพลงหลายค่ายที่อยู่ระหว่างการเจราจา แต่ที่เซ็นสัญญาแล้วมี 2 ค่ายต่างประเทศ คือ 1500 Sound Academy จากอเมริกา ซึ่งเป็นทั้งบริษัทที่ดูแลจัดการศิลปินและปั้นศิลปินดนตรี และอีกบริษัท คือ ซีเจ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ผู้ผลิตและจำหน่ายภาพยนต์จากประเทศเกาหลี ซึ่งมีผลงานเช่นซีรี่ส์ โฮมทาวน์ ชะ ชะ ช่า และ ควีนส์ อันเบลลา เป็นต้น รวมถึงยังมีค่ายเล็กๆ ที่เตรียมทยอยตัดสินใจ

“ผมเคยอยู่ในวงการเพลง บริษัทคอนเทนท์ไม่ได้แข่งกันโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้นยังเน้นการสร้างสรรค์งานร่วมกัน โดยเฉพาะค่ายเพลงกับค่ายหนัง และที่เราพยายามจะสร้างให้เกิดขึ้นที่ Cloud 11 คือ การสร้างให้เกิดการทำงานร่วมกัน จากการข้ามอุตสาหกรรรม” นายพอล กล่าว

ทั้งนี้ นายองศา กล่าวตอนท้ายว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่ผู้ผลิตสื่อบันเทิงจากเกาหลีให้ความสนใจที่จะเข้ามาอยู่แล้ว เพราะมีฐานคนดูสื่อเกาหลีในไทยจำนวนมาก เราอยากจะประสานผู้เล่นจากหลากหลายวงการ หลากหลายประเทศเพื่อที่ศิลปินไทยจะมีโอกาสเติบโตในเวทีโลกได้เพิ่มมากขึ้น

พร้อมมองว่า จากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนในขณะนี้ แต่เชื่อว่าประเทศไทยกลับกลายเป็นจุดเด่น โดยเฉพาะจากความขัดแย้งของสหรัฐ-จีน ทำให้ไทยได้อานิสงส์ โดยมีหลายเอเจนซี่จากต่างประเทศมองว่านอกจากประเทศไทยจะเป็นเป็นที่หลบภัย (เซฟเฮเว่น) ที่ดีแล้ว ยังมีบุคคลากรเก่งๆ และวัฒนธรรมที่น่าสนใจอีกด้วย

ทั้งนี้โครงการ Cloud 11 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 27 ไร่ ติดถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS สถานีอุดมสุข และปุณณวิถี