หลานเทวดาคลั่งยา โวยวายอ้างผีเข้า 2 คุณยายเตะยายแขนหัก อีกคนตาปูดบวมคาที่นอนอาการปางตาย สองคุณยายร้องขอชีวิตเกือบไม่รอด แจ้งตร.บอกไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ปกครองลุยตะครุบเอาไว้ได้ สองคุณยายและชาวบ้านดีใจ ยายถึงกับร่ำไห้หลานทำร้ายหลายครั้งกลัวหลานจนต้องแกล้งบอกชาวบ้านว่าล้ม หลานสำนึกผิดก้มกราบขอโทษก่อนเจ้าหน้าที่พาไปบำบัดรักษา
วันที่ 29 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่สภ.เมืองอุดรธานี นางรัศมี อายุ 73 ปี และนางจันทร์ศรี อายุ 81 ปี สองพี่น้องชาวต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี หอบสังขารที่คุณยายคนหนึ่งแขนหัก อีกคนตาปูดบวมเดินขึ้นโรงพักเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับหลานชายที่คลั่งยาบ้าเตะเอาปางตาย หลังถูกนายนิรันดร์ช หรือไอซ์ อายุ 29 ปี หลานชาย ทำร้ายร่างกายสองคุณยายจนแขนหัก ตาปูดบวม อยากให้ตำรวจช่วยไปจับตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังรับแจ้งตำรวจบอกกลับมาว่าไม่ใช้เหตุซึ่งหน้าตำรวจไม่สามารถไปจับกุมได้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำตามระเบียนขั้นตอนโดยออกใบชันสูตรส่งตัวคุณยายไปตรวจบาดแผล ก่อนจะเชิญผู้ก่อเหตุมาสอบสวนต่อไป ซึ่งคุณยายทั้ง 2 ได้เดินคอตกลลงมาจากสถานีตำรวจเพื่อไปตรวจร่างกายต่อไป
ด้าน นายวงเดือน อายุ 68 ปีน้องชายของคุณยายรัศมี และนางจันทร์ศรี บอกว่า นายไอซ์เป็นหลานชาย อยู่กับยายสองคนที่บ้านที่เก่าน้อย ต.หนองบัว ส่วนตนเองอยู่ในเมือง ได้ยินข่าวนายไอซ์ทำร้ายยายประจำ เพราะขอเงินยายไปซื้อยาไม่ได้ หากไม่ได้เงินก็จะทำร้ายร่างกาย ห่วงความปลอดภัยพี่สาวทั้งสองคน ปล่อยต่อไปคงตายแน่ พอมาเกิดเรื่องเตะจนพี่สาวคนหนึ่งแขนหักและอีกคนตาปูดบวม จึงพามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายไอซ์
ต่อมานายภานุมาศ จิตวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้ประสานฝ่ายปกครอง อ.เมือง จ.อุดรธานี นำโดยนายเศรษฐ สุขใจ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายมั่นคง อ.เมืองอุดรธานี ศุภศักดิ์ สุขรมย์ ปลัดอำเภองานป้องกัน อ.เมืองอุดรธานี พร้อมกำลัง อาสาสมัครฯ ร่วมกันลงพื้นที่ไปตรวจสอบทันที เมื่อเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งใน ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี และพบตัวนายนิรันดร์ชา หรือไอซ์ อยู่ในบ้านกับคุณยาย ซึ่งก่อนเข้าไปเจ้าหน้าที่ อส.ได้ขออนุญาติคุณยายก่อน
สอบถามนายนิรันดร์ชา บอกว่า เมื่อคืนโดนผีเข้าบังคับตัวเองไม่ได้ หลังถูกผีเข้าสิงร่าง ผมก็ขยับเดินไปเองแล้วก็พุ่งไปหายาย เมื่อผีออกก็รู้สึกสงสารยาย เรื่องคืนนั้นจดจำไม่ได้เลยว่าทำอะไรลงไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ อส.ก็ได้ทำการค้นตัวเบื้องต้นไม่พบอาวุธหรือสิ่งผิดกฎหมาย แต่จากการตรวจสอบที่ห้องนอน พบบุหรี่ไฟฟ้าจึงพาตัวนายไอซ์ส่งตัวรักษาตรวจอาการที่โรงพยาบาลก่อน ซึ่งก่อนพาไปโรงพยาบาลฯ นายไอซ์ฯ ได้ขอกราบขอโทษคุณยายทั้งสองคน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลฯเบื้องต้นพบประวัติว่ามีอาการป่วยจิตเวชเคยรับการรักษา แต่เมื่อตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด
ส่วนนางรัศมี ยายที่แขนหัก เล่าว่า นายไอซ์ หลานชายเป็นลูกของลูกสาวยาย แต่พ่อแม่เขาตายไปหมดแล้ว ยายก็เลยได้เลี้ยงมา แต่เมื่อคืนประมาณ 23.00 น.นายไอซ์หลานชาย เกิดอาการคลุ้มคลั่งคงจะจากการเสพยา ได้ยินแต่ว่าผีเข้ายายแล้ว จากนั้นก็เห็นวิ่งเข้ามาพวกยายที่กำลังกางมุ้งนอนอยู่ ตอนแรกลุกขึ้นมาเตะเข้าใบหน้านางจันทร์ศรี ฯ พี่สาวก่อน เมื่อพี่สาวถูกเตะพี่สาวก็มาขอความช่วยเหลือกับตนเองที่นอนใกล้กัน แต่หลานได้วิ่งเตะเข้าที่แขนขวาตนเองอีกหลายครั้ง ทั้งๆ ที่แขนยายหัก
สำหรับแขนที่หักนั้นหลานชายนั้นเมายาเตะทำร้ายตนแขนหักเมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ตอนแรกก็ไม่กล้าบอกใครเนื่องตนค้าขาย กลัวชาวบ้านแถวนี้จะไม่มาซื้อของ ชาวบ้านถามก็บอกเพื่อนบ้านไปว่าหกล้มแขนจึงหัก ทั้งนี้ตนถูกหลานคนนี้ทำร้ายมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ตนก็ทนเนื่องจากรักหลานคนนี้มาก ที่ผ่านมาก็ไม่ได้บอกใครหรือไปแจ้งความ เมื่อคืนวานหนักสุดทนพฤติกรรมหลานคนนี้ไม่ไหวจึงตัดสินใจพากันขึ้นโรงพักแจ้งความ
นายไอซ์หลานคนนี้พ่อแม่เขาเสียชีวิตตั้งแต่ 2 ขวบ ยายก็รับเลี้ยงต่อจนเขาโต หลานคนนี้เป็นลูกของลูกสาวคนสุดท้อง พ่อแม่เขาเสียชีวิตตั้งแต่อายุ 2 ขวบ หลานคนนี้รักมาก ตนพร่ำสอนให้เขาเป็นคนดีแต่เขาก็เดินทางที่ผิดหันไปเสพยาเสพติดและเคยติดคุกมาแล้วหลายครั้งล่าสุดถูกจับดำเนินคดี มียาบ้าครอบครอง 80 กว่าเม็ดติดคุกเดือนเดียวก็ออกมา
ขณะที่ นางจันทร์ศรี เล่าว่า ตอนเกิดเหตุนั้นตนกับหลานก็นอนใกล้ๆกัน กำลังจะหลับหลานวิ่งหน้าตื่นลุกขึ้นมาเตะที่หน้าท้อง ตกใจร้องบอกหลานว่าทำยายทำไมหลานก็บอกว่าผีมรึงมาเข้ายายกูทำไม จับผ้าห่มได้ลุกเดินไปหาน้องสาวอีกคนที่นอนอยู่อีกมุ้ง นั่งพูดคุยกันสักพักหลานเดินตามมาเปิดมุ้ง เอากำปั้นต่อยตา ตนได้แต่ยกมือไหว้ร้องขอชีวิตว่าอยากทำๆ แต่ก็ต่อยมาที่หน้าอีก น้องสาวคือนางรัศมีก็เอาเท้าถีบหลานจนกระเด็นจากมุ้ง แล้วหลานก็เดินออกไป
ด้านน้านายไอซ์ เล่าว่า ไอซ์เคยติดคุกล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 67 ถูกตำรวจจับในข้อกล่าวหามียาบ้าไว้ในครอบครอง 80 กว่าเม็ด ติดคุกที่เรือนจำอุดรธานีเดือนกว่าๆ ก็กลับมาอยู่บ้านอาศัยอยู่กับป้าเขาเหมือนเดิม ตอนเขากลับมาไอซ์ก็บอกว่าศาลยกฟ้อง ไอซ์ชอบทำร้ายร่างกายป้าเขาบ่อยครั้ง แจ้งตำรวจออกมาจับตัว พาไปได้วันสองวันก็ปล่อยตัวกลับมาเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามเมื่อชาวบ้านรู้ว่าว่านายไอซ์ถูกจับ ชาวบ้านก็พากันเฮลั่นโห่ร้องด้วยความดีใจ สองคุณยายคงปลอดภัยในระยะหนึ่ง โดยชาวบ้านรายหนึ่ง บอกว่า ส่วนตัวแล้วตนไม่รู้จักกับนายไอซ์ เพราะว่าไม่ค่อยได้อยู่บ้านและไม่ได้สนใจ แต่เท่าที่รู้และได้ยินในไอซ์จะชอบเปิดเพลงเสียงดัง แล้วก็เต้นแร็พอะไรของเขาตามประสา และเขาเคยขู่ไว้ว่าจะเผาบ้านหลังนี้ สงสารแต่คุณยายทั้งสองที่ถูกหลานเทวดาทำร้ายประจำ