การเมืองไทยในยุคของรัฐบาลเพื่อไทย ต้องถือว่า “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” เป็นอีกเสียงที่ช่วย “เคลียร์” สถานการณ์การเมืองให้ชัดเจนมากขึ้น
อย่างเรื่องปรับ ครม. ไปถามใคร ๆ ก็มักจะไม่ได้เนื้อได้หนัง แต่ถ้าไปถาม “อดีตนายกฯทักษิณ” จะมีประเด็นที่น่าสนใจทันที
อย่างกรณีเจ้าหน้าที่ไทยดำเนินคดีกับ “พอล แชมเบอร์ส” นักวิชาการสหรัฐ อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ซึ่งในทางทหารเป็นพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 3
เหตุเกิดขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งเก็บภาษีตอบโต้ประเทศทั่วโลก มหามิตรอย่างไทยโดนภาษีฐาน 10% บวกกับ 36% ที่เรียกเก็บเพิ่ม
ทำเอารัฐบาลไทยต้องเรียกประชุมหารือด่วน พลิกหาทุกช่องทางที่จะนำไปสู่การหารือกับฝ่ายสหรัฐ
เมื่อคดีของ “อาจารย์พอล” โผล่ขึ้นมา และมีข่าวด้วยว่าจะไม่ได้ประกันตัว
ส่งผลกระทบถึงการเตรียมเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐ
“แทมมี บรูซ” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ว่า สหรัฐตกใจต่อการจับกุมพอล แชมเบอร์ส พลเมืองอเมริกันในประเทศไทย
สหรัฐกำลังติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และกำลังติดต่อกับทางการไทยเกี่ยวกับกรณีนี้
สุดท้ายมีการประกันตัว “อาจารย์พอล” ออก
กรณี “อาจารย์พอล” แวดวงรัฐบาลเพื่อไทยเองหนักใจไม่น้อย ว่าแม้ประกันตัวออกมาแล้วจะยังมีผลกระทบอื่นตามมาอีกหรือไม่
กระทั่งวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อนครปฐมโอชา จ.เชียงใหม่ “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” ให้สัมภาษณ์ถึงการเจรจาปัญหากำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกา
โดยเล่าว่า ในรัฐบาลมีการพูดคุยกัน ซักซ้อมในเรื่องข้อห่วงใยของอเมริกา และของเราเองที่ไม่ได้ดูตัวเลขมานาน ก็กลายเป็นว่ามุ่งตัวเลข แต่ไม่ได้มุ่งคุณภาพของการนำเข้าและส่งออก
ซึ่งตรงนี้ต้องมาปรับครั้งใหญ่ ก็ถือเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ดีที่เราได้รับเที่ยวนี้ ทำให้เราต้องมานั่งปรับว่า บางประเทศเราขาดดุลเยอะเกินไป จะสามารถแก้ไขอย่างไร หรือประเทศที่เกินดุลมากเกินไป จะปรับอย่างไรให้มันแฟร์ ก็น่าจะดีขึ้น
นักข่าวถามว่า เหตุที่สหรัฐเลื่อนนัดไทยเข้าเจรจาเพราะเหตุใด นายทักษิณกล่าวว่าวันนี้สหรัฐต้องดีลกับหลายประเทศ และเขาก็มียุทธศาสตร์ว่าเอเชียเขาจะเอาอย่างไร
โดยเฉพาะเขาห่วงใยเรื่องความใกล้ชิดกับจีน ก็จะมีผูกพันนอกจากเรื่องภาษี ก็จะมีเรื่องที่ไม่ใช่ภาษีปนอยู่ด้วยในการเจรจา เพราะฉะนั้นเราต้องไม่ผลีผลาม ใจเย็น ๆ ดูข้อมูลให้เหมาะ
เมื่อถามว่านายกฯแพทองธารเคยระบุว่านายทักษิณอาจเข้ามาช่วยเจรจา นายทักษิณกล่าวว่าเราก็พูดคุยกัน แต่บังเอิญว่าเดี๋ยวนี้เขาขอใช้ข้อมูลจากหลายหน่วยงานเข้ามาผสม ทั้งเรื่องของความมั่นคง เรื่องที่เรามีปัญหาการฟ้องร้องคนอเมริกัน
ประโยคนี้เองที่ตีความว่า หมายถึงนายพอล แชมเบอร์ส นักวิชาการอเมริกัน
นายทักษิณกล่าวต่อไปว่า ซึ่งถูกนำเอามารวมกันหมด ฉะนั้น เราก็ต้องมีสติในการเจรจาให้ดี
เมื่อถามว่ายังถึงขั้นที่นายทักษิณจะขออนุญาตศาลออกไปพูดคุยกับทางประธานาธิบดีทรัมป์ใช่หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่าก็คงต้องดูเหตุการณ์ก่อน
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีจะต้องไปเจรจาด้วยตัวเองหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่าส่วนใหญ่แล้วนายกรัฐมนตรี ไม่มีใครไป เพราะไม่ได้เป็นการเจรจากับตัวประธานาธิบดี เป็นการเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐ หรือ USTR (United States Trade Representative) บ้าง หรือกระทรวงพาณิชย์เขาบ้าง ฉะนั้น เราจะใช้ระดับรัฐมนตรีไปเจรจา
ตอนท้ายอดีตนายกฯทักษิณตอบคำถามเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่น เมื่อนักข่าวถามว่าพรรคจะเริ่มลงพื้นที่สนามเล็กใช่หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่าวันนี้เราอยากเห็นประเทศไทยกลับมาเป็นที่ภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน ว่าทุกอย่างทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านความปลอดภัย ด้านการบริการ อยากเห็นทุกอย่างกลับคืนมา
อย่างที่อเมริกาบอก ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หรือ (Make America Great Again เราก็จะทำให้ไทยกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง Make Thailand Great Again
ประเทศไทยจะกลับมายิ่งใหญ่ตามความฝันของอดีตนายกฯทักษิณหรือไม่ ก็ถือว่าเรื่องของประเทศชาติที่ต้องตั้งเป้าหมายให้ดีที่สุดไว้เสมอ
ไม่ใช่แฮปปี้กับการรั้งท้าย ปล่อยให้เขาวิ่งแซงไปเรื่อย ๆ
มุมมองของอดีตนายกฯทักษิณเข้าใจได้ เพราะสมัยรัฐบาลไทยรักไทย จากปี 2544-2549 เป็นยุคที่ประเทศไทยพุ่งแรงจริง ๆ
มีการปฏิรูประบบราชการ ปรับเปลี่ยนงานกระทรวงต่าง ๆ และผลักดันนโยบายใหญ่ ๆ หลายเรื่อง
เป็นต้นทุนเดิมที่ทำให้พรรคเพื่อไทยยังมีชื่อติดในความจำของประชาชนจนบัดนี้
ภาพเดิมเมื่อหลายปีก่อนจะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งหรือไม่
คงต้องออกแรงกันอีกมาก