Save the Children จัดงาน 'PEACEtival 2025' เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้เยาวชนสร้างศิลปะ
Tidara D-life April 30, 2025 01:20 PM

เซฟ เดอะ ชิลเดรน จับมือ 4 องค์กร ประกาศผลสำเร็จงาน “PEACEtival 2025” ในพื้นที่ชายแดนใต้ ส่งเสริมการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็กและเยาวชนได้แสดงออกผ่านศิลปะและกิจกรรมทางวัฒนธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนกว่า 500 คนทั้ง เด็ก เยาวชน ศิลปิน และผู้สนับสนุนสันติภาพ เดินทางเข้าร่วมงาน “PEACEtival 2025” (พีซติวัล 2025) จัดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา โดยมีผู้ที่เข้าร่วมงานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน ศิลปิน และผู้สนับสนุนสันติภาพ งาน PEACEtival  จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองบทบาทสำคัญของเยาวชนในการสร้างสันติภาพด้วยความคิดสร้างสรรค์ และการพูดคุยหารือเพื่อหาทางออกที่สันติสุข งานนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของโครงการ SENANG (ซือนัง  ภาษามลายู แปลว่าความผาสุก ย่อมาจาก Supporting an Enabling Atmosphere for Children and Youth Network for Peacebuilding Goals) ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการโดย เซฟ เดอะ ชิลเดรน (Save the Children Thailand) ที่ทำงานร่วมกับ 4 องค์กรพันธมิตร ได้แก่ ศูนย์ความร่วมมือทรัพยากรสันติภาพ The Looker มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และสถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหภาพยุโรปเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านยูโร เพื่อส่งเสริมการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็กและเยาวชนได้แสดงออกผ่านศิลปะและกิจกรรมทางวัฒนธรรม ในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในประเทศไทยและในประเทศฟิลิปปินส์

งาน PEACEtival 2025 จัดขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของการดำเนินโครงการร่วมกับเด็กและเยาวชน รวมถึงคนในชุมชนในพื้นที่ในประเทศไทย ซึ่งตลอดทั้งวันผู้เข้าร่วมได้รับชมการแสดงผลงานที่เด็กและเยาวชนผู้ร่วมโครงการ SENANG ได้ร่วมพัฒนากับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การผลิตภาพยนตร์ การออกแบบแฟชั่น การแสดงบทกวี การแสดงดนตรีสด ผลงานเหล่านี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่และเปิดโอกาสให้ผู้คนจากชุมชนต่าง ๆ ได้พูดคุยและเข้าใจกันมากขึ้น กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการแสดงดนตรีสดเพลง “SENANG” โดยเยาวชนบรรเลงระหว่างที่มีการเดินแฟชั่นโชว์ที่นำเสนอผลงานการออกแบบและผลิตโดยเยาวชนในพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์และวัฒนธรรมของตนที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งและกระบวนการปรองดอง

นายกีโยม ราชู ผู้อำนวยการบริหาร เซฟ เดอะ ชิลเดรน กล่าวว่า “งานในวันนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวิธีคิดเรื่องการสร้างสันติภาพ ในเวลาเพียงสองปี โครงการ SENANG ทำให้เด็กและเยาวชนที่เผชิญกับความขัดแย้งมีโอกาสส่งเสียงและแสดงความคิดเห็น ซึ่งวันนี้เราได้เห็นพวกเขาในบทบาทผู้นำบทสนทนาผู้ขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ และช่วยเหลือชุมชนให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสันติ ดังนั้น เรื่องของเด็กและเยาวชนไม่ใช่เรื่องเล็กหรือเรื่องรอง แต่เป็นหัวใจสำคัญ เป็นประเด็นสำคัญของการขับเคลื่อนสันติภาพของงานนี้”

ด้านนายแอนเดรียส โรเอตต์เกอร์ หัวหน้าฝ่ายหน่วยงานโครงการด้านนโยบายต่างประเทศของคณะกรรมธิการยุโรป  ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งให้ทุนสนับสนุนโครงการนี้ตั้งแต่เริ่มต้น ได้กล่าวในพิธีเปิดงานว่า “โครงการ SENANG เป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนของการร่วมมือกันของทุกฝ่าย ด้วยความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร โครงการ SENANG ได้สนับสนุนการสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยให้เยาวชนได้มีส่วนร่วม ได้แสดงออก และริเริ่มการสร้างสันติภาพในชุมชนของตน”

ตลอดทั้งวัน เยาวชนแกนนำได้จัดเสวนาเกี่ยวกับบทบาทของศิลปะในการสร้างความสมานฉันท์และการแลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรม รวมถึงการนำเสนอข้อคิดและประสบการณ์จากเครือข่ายวิชาการและภาคประชาสังคม ที่สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อเยาวชนเป็นผู้นำกิจกรรม สังคมก็เริ่มมองประเด็นสันติภาพและความขัดแย้งในมุมใหม่ ๆ ซึ่งงานในวันนี้ปิดท้ายด้วยการอ่านบทกวี การแสดงดนตรีโดยเยาวชน และการฉายภาพยนตร์สั้นที่ผลิตโดยเครือข่ายเยาวชนในพื้นที่

“ถ้าไม่มีโครงการ SENANG ผมคงมาอยู่ในจุดนี้ไม่ได้ โครงการนี้มอบทั้งความรู้ การสนับสนุน และความมั่นใจให้ผมสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำและมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพให้กับชุมชนของผม” ฟาอิก นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ซึ่งเป็นผู้นำเยาวชนที่มีบทบาทในโครงการ SENANG กล่าว

โครงการ SENANG ซึ่งดำเนินงานในสามจังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทย (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) และเขตปกครองตนเองบังซาโมโร ประเทศฟิลิปปินส์ โครงการได้สร้างพื้นที่ใหม่ ๆ ให้เด็กและเยาวชนได้มีบทบาทในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงผ่านศิลปะและวัฒนธรรม ในพื้นที่ที่เผชิญกับความไม่สงบ ตลอดสองปีที่ผ่านมา โครงการนี้ได้สนับสนุนเครือข่ายเยาวชนกว่า 100 กลุ่ม ได้เปิดพื้นที่ปลอดภัยที่เยาวชนเป็นผู้นำอย่างแท้จริง และได้รวมพลังผู้นำชุมชน ครู และศิลปินท้องถิ่นมาร่วมกันวาดภาพสันติภาพขึ้นใหม่จากรากฐานของแต่ละชุมชน

และโครงการ SENANG ไม่เพียงเปลี่ยนบทสนทนาเกี่ยวกับเยาวชนและสันติภาพเท่านั้น แต่ยังสามารถเปลี่ยนชีวิตของผู้คนอีกด้วย ตั้งแต่การสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ไปจนถึงการเปิดช่องทางให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมกับผู้กำหนดนโยบายโดยตรง โครงการนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการมีส่วนร่วมของเยาวชนไม่ใช่แค่สิ่งที่ “ทำได้” แต่คือสิ่งที่ “จำเป็น” PEACEtival 2025 จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเปิดโอกาสให้เกิดการมีส่วนร่วม และเมื่อเด็กและเยาวชนได้รับความไว้วางใจให้มีบทบาทสำคัญในการออกแบบสันติภาพในชุมชนของตนเองได้

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.