ไทยอันดับ 2 รองญี่ปุ่น ‘ท่องเที่ยวด้านอาหาร’ 3 เชฟดังแชร์วัตถุดิบพื้นบ้าน ติดดาวมิชลิน
GH News May 02, 2025 10:10 PM

ไทยอันดับ 2 รองญี่ปุ่น ‘ท่องเที่ยวด้านอาหาร’ 3 เชฟดังแชร์มุมมองยกระดับวัตถุดิบพื้นบ้าน สู่อาหาร ‘ติดดาวมิชลิน’ ปักหมุดไทยหมุดหมายนทท.

“อาหารไทย” เป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ที่แข็งแกร่งของไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเวทีเสวนาหัวข้อ “เส้นทางสู่ความเป็นเลิศของอาหารไทยผ่านคู่มือ มิชลิน ไกด์” ณ ห้องบอลรูม โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ถนนราชดําริ เขตปทุมวัน ตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านอาหารของประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่องหลังการเข้ามาของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ในประเทศไทยครบ 8 ปี

โดยได้ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ร่วมเวทีเสวนา พร้อมด้วย เชฟไอซ์-ศุภักษร จงศิริ จากร้านศรณ์ รางวัลสามดาวมิชลิน, เชฟอู๋-สิทธิกร จันทป จากร้านอัคคี รางวัลหนึ่งดาวมิชลิน และ MICHELIN Guide Young Chef Award ปี 2568 และ เชฟหนุ่ม-วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์ จากร้านซาหมวยแอนด์ซันส์ รางวัลบิบ กูร์มองด์ จังหวัดอุดรธานี

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า “ความร่วมมือกับมิชลินตลอด 8 ปีที่ผ่านมาได้ช่วยยกระดับวงการอาหารไทยและการท่องเที่ยวเชิงอาหารอย่างเป็นรูปธรรม จากการเริ่มต้นแนะนำร้านอาหารในกรุงเทพมหานครเมื่อปี 2561 ซึ่งมีร้านอาหารในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ เพียง 98 ร้าน ปัจจุบันคู่มือเล่มล่าสุด
ปี 2568 มีจำนวนถึง 462 ร้าน ครอบคลุม 11 พื้นที่ทั่วทุกภูมิภาค และที่สำคัญในปี 2568 นี้ ร้านศรณ์ โดยเชฟไอซ์ ศุภักษร จงศิริ ได้รับสามดาวมิชลินเป็นร้านแรกในประเทศไทย และเป็นร้านอาหารไทยร้านแรกของโลก นับเป็นความภาคภูมิใจครั้งสำคัญของวงการอาหารไทย”

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์_ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

การเข้ามาของคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2561ได้ส่งผลให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ของประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากผลการประเมินภาพลักษณ์การท่องเที่ยวด้านอาหารประจำปี 2567 โดยบริษัท เคเนติกส์ คอนซัลติ้ง จำกัด พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติมองประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่มีภาพลักษณ์เป็น “แหล่งท่องเที่ยวเชิงอาหารที่โดดเด่น” ในระดับ 53% เพิ่มขึ้นจาก 44% ในปี 2566 ครองอันดับ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่น

ภายในงานเสวนา เชฟจากร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำโดยคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ที่เข้าร่วมยังได้กล่าวถึงแนวทางของแต่ละร้านที่ล้วนยกระดับการใช้วัตถุดิบพื้นบ้านนำไปสู่อาหารติดดาวมิชลินระดับโลก

โดย เชฟไอซ์ จากร้านศรณ์ ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยภาคใต้ กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการค้นพบวัตถุดิบท้องถิ่นภาคใต้ที่เริ่มสูญหายด้วยการเดินทางไปเลือกวัตถุดิบในพื้นที่ด้วยตัวเอง และนำมาประยุกต์ใช้กับภูมิปัญญาท้องถิ่นผสมผสานกับเทคนิคปรุงอาหารที่ทันสมัย กลายเป็นเมนูสุดพิเศษเสิร์ฟในแบบอาหารใต้ไฟน์ไดนิ่ง ที่สามารถยกระดับอาหารไทยไปสู่ระดับโลก

ศุภักษร จงศิริ_เจ้าของร้านศรณ์

ขณะที่ เชฟอู๋ จากร้านอัคคี มีความสนใจในการเฟ้นหาวัตถุดิบจากแหล่งของเกษตรกรโดยตรงในแต่ละท้องถิ่นที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย จนกว่าจะรวบรวมวัตถุดิบได้ครบก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพอสมควร นำมาปรุงและปลุกชีวิตสูตรอาหารโบราณหยิบมาเล่าให้คนทั่วโลกได้เห็นวัฒนธรรมอาหารไทยในรูปแบบสำรับอาหารให้น่าสนใจ

สิทธิกร จันทป_เจ้าของร้านอัคคี

เชฟหนุ่ม จากร้านซาหมวยแอนด์ซันส์ นำเสนอมุมมองอาหารอีสานที่มีมากกว่าส้มตำไก่ย่างตามที่คนส่วนใหญ่รู้จัก โดยจะนำวัตถุดิบจากตลาดพื้นบ้านตามฤดูกาล ฟาร์มออร์แกนิค มานำเสนอด้วยเทคนิคการปรุงที่ชูคุณสมบัติทางอาหารและยาของเครื่องปรุงแต่ละชนิด ด้วยรูปแบบอาหารอีสานสมัยใหม่ที่อร่อย สวยงาม และมีคุณค่าทางโภชนาการ

วีระวัฒน์ ตริยเสนวรรธน์_เจ้าของร้านซาหมวย แอนด์ ซัน

สำหรับภาพลักษณ์ด้านอาหารของไทยในระดับนานาชาติ พบว่าประเทศไทยได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาทิ นิตยสารชื่อดัง Time Out ได้จัดอันดับให้กรุงเทพฯเป็นเมืองอาหารที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลกประจำปี 2568 รองจากเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนาของสหรัฐอเมริกา โดย Time Out เผยว่ากรุงเทพฯมีอาหารคุณภาพหลากหลายรูปแบบทั้งอาหารไฟน์ไดนิ่งที่สร้างประสบการณ์อันน่าจดจำ และอาหารสตรีทฟู้ดราคาไม่ถึง 100 บาทที่ให้ประสบการณ์ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังขึ้นชื่อเรื่องมรดกวัฒนธรรมด้านอาหารที่หลากหลายและโดดเด่นในหลายจังหวัดนอกเหนือจากกรุงเทพฯ โดยเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network : UCCN) ยังได้ขึ้นทะเบียนให้จังหวัดภูเก็ต (ปี 2558) และจังหวัดเพชรบุรี (ปี 2564) เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร (City of Gastronomy)

โดยยกย่องวัตถุดิบท้องถิ่นอันล้ำค่าและสูตรอาหารแบบดั้งเดิมของชุมชน ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตสามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจท้องถิ่นจากอาหารได้กว่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
ตอกย้ำการท่องเที่ยวเชิงอาหารที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.