เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ห้องอดุล วิเชียรเจริญ ( ศศ. 201 ) สาขาเอเชียคะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ จัดเสวนา “โจรสยาม VS เคลมโบเดีย: ปัญหาทะเลาะกันที่ไม่มีวันรู้จบ” โดยเป็นส่วนหนึ่งของการบรรยายวิชา อศ. 454 สัมมนาหัวข้อเฉพาะด้านสังคมและวัฒนธรรม สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ รศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต, ผศ.ดร.ธิบดี บัวคำศรี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ดร.ยิ่งยศ บุญจันทร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ดำเนินรายการโดย นายสฏฐภูมิ บุญมา
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. มีผู้ทยอยเดินทางเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนล่วงหน้าร่วมกว่า 100 ราย จนเต็มพื้นที่ โดยบางส่วนค้องรอยืนฟัง
กระทั่งเวลาประมาณ 13.00 น. นายสุจิตต์ วงษ์เทศ นักหนังสือพิมพ์ในเครือมติชน ผู้ก่อตั้งนิตยสารศิลปวัฒนธรรม กล่าวปาฐกถา หัวข้อ ‘ไทย-เขมร ทับซ้อน ความเป็นมา “คนละคนเดียวกัน” โดยมีการแจกคิวอาร์โค้ดให้ผู้ร่วมรับฟังดาวน์โหลดเอกสารความยาว 41 หน้า ประกอบด้วยเนื้อหา ข้อมูล หลักฐานทางประวัติศาสตร์ และภาพประกอบจำนวนมาก
นายสุจิตต์ กล่าวว่า ตนเป็นเสรีชน ไม่ใช่นักวิชาการ อย่ายัดเยียดให้ เห็นมีคนถามมาเยอะว่า ตนเรียนจบอะไรมา ขอตอบว่า จบจากคณะโบราณคดี ม.ศิลปากร เทื้อ พ.ศ.2513 แต่จบแบบตกๆ หล่นๆ หลักสูตร 4 ปี ตนเรียน 7 ปีเพื่อความแน่น หลังเรียนจบ ทำงาน นสพ.สยามรัฐ เป็นนัก นสพ. เรื่อยมา
นายสุจิตต์ กล่าวด้วยว่า ตนอยู่กับ ‘เจ้า’ มาตลอด เพราะเป็นลูกศิษย์ ศ.มจ.สุภัทรดิศ ดิศกุล คณบดีคณะโบราณคดี ในขณะนั้น, มจ. จันทร์จิรายุ รัชนี รวมถึง มจ. ชาตรีเฉลิม ยุคล
“ผมอยู่กับเจ้ามาตลอด แต่เป็นไพร่ ไพร่ในที่นี้ คือประชาชน เป็นเจ๊กปนลาว” นายสุจิตต์ กล่าว
นายสุจิตต์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ ตนนำข้อมูลข่าวสารมาบอกตามหน้าที่สื่อ โดยสรุปรวบรวมมาให้จากนักปราชญ์ นักวิชาการ ไม่ได้คิดขึ้นมาเอง