สืบเนื่องกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์งานเสวนา ‘‘โจรสยาม VS เคลมโบเดีย: ปัญหาทะเลาะกันที่ไม่มีวันรู้จบ” ซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 68 เวลา 13.00 – 16.00 น. ณ ห้องอดุล วิเชียรเจริญ (ศศ. 201) คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ปาฐกถานำโดย นายสุจิตต์ วงษ์เทศ
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นายสุจิตต์ เปิดเผยว่า ตนจัดเตรียมต้นฉบับสำหรับปาฐกถาในงานนี้ รวม 41 หน้า ประกอบด้วยหัวข้อต่างๆ ที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ภาษาศาสตร์ โบราณคดี และมานุษยวิทยาประกอบทั้งหมด ไม่มีคำว่ามโน ไม่เหนือจินตนาการ ขอให้ผู้ที่เห็นต่างหรือลังเล มารับฟังได้ตามสะดวก ส่วนตัวไม่มีความกังวลใดๆ
นายสุจิตต์ กล่าวว่า ในชีวิต ถูกด่ามาเป็นมาสิบๆ ปี หากหวั่นไหวคงหยุดตัวเองไปแล้ว แต่เมื่อเป็นเรื่องของหลักฐาน และการตีความภายใต้หลักฐาน จึงคิดว่าเป็นเรื่องที่สามารถพูดคุยกันได้ และพร้อมผลิตซ้ำตามบทบาทหน้าที่ของสื่อมวลชน
“ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-เขมร เป็นประวัติศาสตร์ ‘ตามอำเภอใจ’ โดยไม่แยแสหลักฐานทางวิชาการประวัติศาสตร์โบราณคดี หนักข้อยิ่งกว่านั้นคือสร้างหลักฐานขึ้นเอง ตามจินตนาการที่อยากให้เป็นได้แก่ ประถมกรรมพระยาละแวก ขอมแปรพักตร์ เป็นต้น ทั้งที่ข้อมูลตามหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดีไทย-เขมร มีไม่น้อย ทั้งภาษาไทย, เขมร, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และเปิดเผยทั้งในไทย-ในเขมร-ในโลก ซึ่งจะนำบางส่วนมาแบ่งปันสู่กันฟังในงานเสวนา ใครคิดต่างก็ได้ ไม่อั้น แต่ต้องมีสติ ไม่สุดโต่ง” นายสุจิตต์กล่าว
ทั้งนี้ เสวนาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการบรรยายวิชา อศ. 454 สัมมนาหัวข้อเฉพาะด้านสังคมและวัฒนธรรม สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ รศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต, ผศ.ดร.ธิบดี บัวคำศรี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ดร.ยิ่งยศ บุญจันทร์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ดำเนินรายการโดย นายสฏฐภูมิ บุญมา
สำหรับกระแสวิพากษ์ดังกล่าว มีการตั้งคำถามผ่านโลกออนไลน์ว่า ชื่อหัวข้อเป็นการเหยียดหยามหรือไม่ โจรสยามหมายความว่าอย่างไร และการจัดงานในครั้งนี้ อธิการบดีรับทราบหรือไม่ เป็นต้น