นิติพล ผิวเหมาะ แนะนำรัฐบาล เร่งสืบหาต้นทาง “แอนแทรกซ์” มาจากเนื้อหมูข้ามแดนหรือไม่ หวั่นหมือนเคสอหิวาต์ระบาดแอฟริกา

วันนี้ (4 พ.ค.) นายนิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการตรวจพบโรคแอนแทรกซ์ ในจังหวัดมุกดาหาร ที่คร่าผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ผู้ป่วยยืนยัน 3 ราย เข้าข่ายอีก 3 ราย และมีกลุ่มเสี่ยงรวม 638 ราย ว่า เป็นสถานการณ์ที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ เพราะถ้ามีการระบาดเป็นวงกว้าง จะส่งผลกระทบในหลายด้าน เช่น ความปลอดภัยต่อสุขภาพประชาชน ความเสี่ยงต่อสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์เท้ากีบที่อาจตายหรือเป็นพาหะ หากควบคุมการระบาดไม่ได้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้านด้วย

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการควบคุมโรคภายใต้การดูแลของสาธารณสุขในมุกดาหาร และกรมควบคุมโรค ไม่ค่อยน่ากังวลเพราะมีดำเนินการอย่างรวดเร็ว มีการตรวจคัดกรองและให้ยาป้องกันกลุ่มเฝ้าระวัง รวมถึงประกาศให้อำเภอดอนตาล เป็นพื้นที่ควบคุมโรค พร้อมประสานจังหวัดใกล้เคียงให้เฝ้าระวังโรคเพิ่มเติม คือ จ.อำนาจเจริญ และจ.กาฬสินธุ์ เรียบร้อย

“สิ่งที่อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญคือการสืบสวนโรคเพื่อหาต้นทางการระบาดให้ได้โดยเร็ว เพราะข้อมูลจากการสืบสวนโรคเบื้องต้นพบว่าวัวตัวที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อแอนแทรกซ์ในคน ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเลี้ยงในพื้นที่ แต่ไม่ทราบว่านำวัวมาจากไหนก่อนหน้านั้น ต้องสืบทราบให้ได้ว่าเป็นวัวข้ามแดนมาหรือไม่” – นายนิติพล กล่าว

นายนิติพล กล่าวต่อว่า ตนอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสอบสวนโรคเพื่อหาสาเหตุโดยเร็ว เพราะไม่อยากให้ซ้ำรอยกรณี ASF หรืออหิวาต์แอฟริการะบาดในหมูที่ปล่อยให้มีการลักลอบขนย้ายเนื้อหมูข้ามพื้นที่จนเกิดการระบาดครั้งใหญ่ สร้างความเสียหายให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูอย่างร้ายแรงซึ่งหลายรายยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น รัฐบาลต้องไม่มองการพบเชื้อ แอนแทรกซ์ เป็นเรื่องเล็กเพราะอาจเป็นร่องรอยก่อนเกิดการระบาดวงกว้างได้