วิสาร นำกมธ.วิสามัญฯ ท่าเรือ ลงพื้นที่รับฟังปัญหา ท่าเรือระนอง หนุนโครงการแลนด์บริดจ์

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่…) พ.ศ. … และคณะ ได้เดินทางถึงศาลากลางจังหวัดระนอง โดยมีนายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมให้การต้อนรับ เพื่อร่วมประชุมและหารือประเด็นข้อกฎหมายกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

นายวิสาร กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อผลักดันการแก้ไข พ.ร.บ.การท่าเรือฯ พ.ศ. 2494 ที่ล้าสมัยและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา โดยเฉพาะปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินทับซ้อน และประเด็นการบริหารจัดการที่ดินตามกฎหมายท่าเรือปัจจุบัน ร่างกฎหมายใหม่นี้มุ่งหวังให้การบริหารจัดการท่าเรือมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งเสริมการลงทุน และยกระดับการขนส่งระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับอาเซียน ทั้งนี้ การปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสนับสนุนโครงการแลนด์บริดจ์(Land Bridge) ของรัฐบาล โดยจะช่วยพัฒนาท่าเรือระนองให้เป็นประตูการค้าฝั่งอันดามันที่มีศักยภาพรองรับการขยายตัวของปริมาณสินค้าและดึงดูดการลงทุน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในที่ประชุมได้มีการชี้แจงถึงโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่มุ่งเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างฝั่งอ่าวไทย ณ แหลมริ่ว จังหวัดชุมพร กับฝั่งอันดามัน ณ แหลมอ่าวอ่าง จังหวัดระนอง ด้วยระยะทางประมาณ 89.35 กิโลเมตร โครงการนี้ประกอบด้วยทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองขนาด 6 ช่องจราจร, ทางรถไฟรางคู่ทั้งขนาดมาตรฐาน (Standard Gauge) สำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และขนาดรางหนึ่งเมตร (Meter Gauge) เพื่อเชื่อมต่อกับระบบรางหลักของประเทศ รวมถึงถนนบริการ และการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทั้งสองฝั่ง ซึ่งแต่ละแห่งมีเป้าหมายรองรับปริมาณสินค้าสูงสุดถึง 20 ล้าน TEUs โดยจะมีการพัฒนาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ คลังสินค้า และอุตสาหกรรมต่อยอดผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยืนยันว่าจะไม่มีการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมัน ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 โครงการมีความคืบหน้าในการออกแบบส่วนต่างๆ

โดยการออกแบบทางรถไฟรางมาตรฐานแล้วเสร็จ 100% ส่วนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองมีความคืบหน้า 37% ขณะที่การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA/EHIA) อยู่ระหว่างการพิจารณา และการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนยังคงดำเนินอยู่ ควบคู่ไปกับการจัดทำร่างพระราชบัญญัติระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (พ.ร.บ. SEC) ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำเนินการจัดทำร่างฯ แล้ว สำหรับแผนงานในอนาคต คาดว่าจะมีการจัดทำเอกสารประกวดราคา (RFP) ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2569, คัดเลือกผู้ลงทุนภายในไตรมาสที่ 3 ปี 2569, และเริ่มการก่อสร้างระยะที่ 1/1 ในช่วงปี 2569-2570 โดยตั้งเป้าเปิดให้บริการภายในปี 2573 และจะทยอยเปิดให้บริการในระยะถัดไปจนถึงปี 2579 โครงการนี้เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานสำคัญ เช่น สนข., กรมทางหลวง, การรถไฟแห่งประเทศไทย, และกระทรวงคมนาคม เป็นต้น