กรมอุทยานฯ แจงคูกันช้างพังถล่ม สั่งชะลอก่อสร้าง สำรวจความเสียหาย ยันยังไม่มีการตรวจรับ-เบิกจ่าย
จากกรณี สื่อสังคมโซเชียลเผยแพร่ภาพถ่ายของแนวแบริเออร์ดาดคอนกรีตที่เพิ่งก่อสร้างขึ้นมาใหม่ ตามโครงการก่อสร้างแนวคูกันช้างแบบใหม่ ทรุดตัวพังทลายลงหลายจุด หลังจากที่ได้เริ่มมีการลงมือก่อสร้างตามโครงการนี้ขึ้น ด้วยเงินงบประมาณปี พ.ศ.2567 ในโครงการระยะแรกตลอดความยาวทับแนวคูเดิม 10 กม.มูลค่า กม.ละ 4.2 ล้านบาทรวมเป็นเงินกว่า 40 ล้านบาท จากจุดเริ่มต้นโครงการในพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ไปยังเขตพื้นที่ อ.สนามชัยเขต จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์นั้น
อ่านข่าว – ยังไม่ทันได้ใช้! เปิดภาพแนวคูกันช้าง มูลค่าหลายล้าน พังถล่ม ชาวบ้านวิจารณ์สนั่น
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจ “กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” โพสต์ข้อความระบุว่า สบอ.2 ศรีราชา แจงคูกันช้างเขาอ่างฤาไนพัง เหตุดินสไลด์เป็นจุดเดิมที่ยังไม่ได้แก้ไข หลังสั่งผู้รับเหมาแก้ไขแล้ว ยันยังไม่มีการตรวจรับ-เบิกจ่าย
7 พฤษภาคม 2568 - นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา (สบอ.2) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุ “แนวกันช้างของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแห่งชาติเขาอ่างฤาไน พังอีกหลังก่อสร้างไปได้สักพัก ยังไม่สามารถทำให้เสร็จเรียบร้อยได้ เครือข่ายฯตั้งข้อสังเกตว่ามาจากการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานหรือทำผิดขั้นตอนหรือมาจากการออกแบบกันแน่ เพราะสอบถามไปที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเริ่มโยนกันไปมาแล้ว ประชาชนตรวจสอบแล้ว ฝากหน่วยงานตรวจสอบด่วน”
เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนได้ตรวจพบความเสียหายของคูกันช้างคอนกรีตซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างในช่วง 1 กิโลเมตรแรก บริเวณตำบลสนามชัยเขต อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 โดยพบว่าแผ่นปูนซึ่งใช้เป็นดาดคอนกรีตและเสาเกิดการชำรุดพังเนื่องจากเกิดดินสไลด์ จึงได้สั่งให้ผู้รับจ้างทำการรื้อและให้ทำใหม่ให้เป็นไปตามสเปกที่แบบกำหนด โดยภาพความเสียหายของคูกันช้างที่ปรากฏในสื่อออนไลน์นั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้บริษัทผู้รับเหมาดำเนินการรื้อออกแล้ว แต่ผู้รับเหมายังไม่ได้ดำเนินการ
ขณะนี้ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (สบอ.2) ได้สั่งให้ชะลอและหยุดการก่อสร้างชั่วคราวเพื่อตรวจสอบความเสียหาย และได้ขอหารือไปยังผู้ออกแบบ (สำนักทรัพยากรน้ำภาค 6) ซึ่งได้แจ้งกลับมาว่า การใช้แผ่นคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อการทดแทนการดาดคอนกรีตในพื้นที่ที่มีความลาดชันไม่สามารถรับแรงดันดินด้านข้างได้ สามารถแก้ไขได้ตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กรมอุทยานฯ จะส่งวิศวกรจากสำนักฟื้นฟูฯ จำนวน 4 นาย ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการก่อสร้างและความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าการก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบที่กำหนด หรือแบบที่ออกมานั้นไม่ได้มาตรฐาน
ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวยังไม่มีการตรวจรับงานและยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายเงิน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ในการปรับปรุงแบบก่อสร้างหรือการยกเลิกโครงการ ซึ่งหากมีการยกเลิกโครงการจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการปรับแผนงบประมาณต่อไป ทั้งนี้ ทาง สบอ.2 จะเร่งดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุด เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปด้วยความถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ
