หุ้นไทยร่วงสวนหุ้นโลก การเมืองไม่นิ่ง “เขย่าตลาด” กรณี “ทักษิณ” เกิด Overhang บวกฟันด์โฟลว์ไหลเข้าตลาดการเงินไทยสะดุด จับตา “สหรัฐ-จีน” เจรจา 9-12 พ.ค.นี้ 

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) เปิดภาคเช้าวันนี้ (9 พ.ค. 2568) ปรับตัวลงทดสอบระดับต่ำสุดของวัน (LOW) ที่บริเวณ 1,195.86 จุด หรือ -10.73 จุด ณ เวลา 11.44 น. มีมูลค่าการซื้อขายรวม 1.6 หมื่นล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด รายงานว่า ประเด็นการเมืองไม่นิ่ง กลับมาเขย่าดัชนี SET ให้ผันผวน โดยวานนี้ แพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน หลังให้ข้อมูลรักษา “คุณทักษิณ ชินวัตร” ไม่ตรงกับความจริง ไม่พบภาวะวิกฤตจริง โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 ท่าน

ซึ่งกระบวนการถัดไป ทางแพทยสภาจะส่งมติไปยังสภานายกพิเศษ ซึ่งคือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพ 2525 มาตรา 25 สามารถวีโต้ยับยั้งได้ภายใน 15 วัน หากรัฐมนตรีใช้สิทธิวีโต้ แพทยสภาจะต้องกลับมาลงมติใหม่และถือเอาเสียง 2 ใน 3 อีกรอบ (48 คน)

ส่วนอีกประเด็นทางการเมืองคือ ศาลอาญา ไม่อนุญาตให้ “คุณทักษิณ” เดินทางไปประเทศกาตาร์ ตามคำเชิญเจ้าผู้ครองนคร ชี้เป็นนัดหมายส่วนตัว และไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดการที่แน่ชัด เพียงแต่คาดหมายว่าหากประธานาธิบดีทรัมป์จะมาร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว อีกทั้งช่วงที่ขอเดินทางไปอยู่ใกล้วันนัดพิจารณาคดี ม.112 ที่ศาลฎีกาซึ่งคดีนี้ อาจกระทบต่อกระบวนพิจารณาของศาลได้

ทั้ง 2 ประเด็นของ “คุณทักษิณ” บวกกับความไม่แน่นอนของพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน ทำให้การเมืองไทยในปัจจุบันยังต้องติดตามว่าจะดำเนินไปในทิศทางไหน ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยที่แท้จริง ซึ่งในช่วงเวลาก่อนรู้ผล (ปัจจุบัน) น่าจะกดดันให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนในช่วงนี้ หรือเกิด Overhang จนกว่าจะชัดเจน

ประกอบกับเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ที่ไหลเข้าตลาดการเงินไทยสะดุด โดยวานนี้ต่างชาติสลับมาขายสุทธิทุกตลาด โดยขายสุทธิตราสารหนี้ 8.4 พันล้านบาท ขายสุทธิหุ้น 3 พันล้านบาท และขายสุทธิ SET50 FUTURES จำนวน 14,733 สัญญา

อย่างไรก็ตาม มีแรงส่งจากปัจจัยต่างประเทศ กรณีสหรัฐบรรลุเจรจาการค้าอังกฤษชาติแรก โดยยังเก็บภาษีนำเข้าขั้นต่ำที่ 10% ขณะที่เจรจาจีนช่วงสุดสัปดาห์นี้ (9-12 พ.ค.) คุณทรัมป์ส่งสัญญาณบวก โดยทีมเจรจาการค้าของทรัมป์ เตรียมพบตัวแทนจีนที่สวิตเซอร์แลนด์ โดยหวังว่าจะช่วยลดความตึงเครียดจาก Trade War รอบใหม่ไปได้บ้าง หนุนสินทรัพย์เสี่ยงโลกฟื้นตัว จากผลกระทบ Trade Tariffs ต่อเศรษฐกิจโลกที่กำลังจะต่ำลงกว่าที่ตลาดประเมินกรณีร้ายไปแล้ว

โดยจากนี้ตลาดน่าจะจับตาการเจรจากับชาติอื่น ๆ ที่อาจจะโดนเก็บภาษีมากกว่าอังกฤษ โดยเฉพาะชาติที่สหรัฐขาดดุลการค้า (สหรัฐเกินดุลการค้ากับอังกฤษ) แต่เรื่องหลักที่คาดตลาดจะให้น้ำหนักคือ ระดับภาษีที่ไทยจะโดนสหรัฐเก็บกับอาเซียนด้วยกัน

และยังมีเม็ดเงินจากสถาบัน ที่เริ่มเข้ามาหนุนในเดือนนี้แล้วกว่า 5.1 พันล้านบาท (MTD) และสัปดาห์หน้าเริ่มมีเม็ดเงิน Thai ESGX ทยอยเข้ามาหนุนเพิ่มเติม ช่วยพยุงดัชนี SET

สำหรับกลยุทธ์แนะนำหุ้นที่มี ESG RATING อย่างหุ้นอิงราคาน้ำมัน PTTEP, BCP, TOP หุ้นอิงจีน SCC, SCGP, PTTGC, หุ้นเทคโนโลยี DELTA, KCE, GULF

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ปัจจัยภายในประเทศเป็นภาพจิตวิทยาลบจากเสถียรภาพการเมือง กรณี “คุณทักษิณ” ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดกับรัฐบาล

แต่ปัจจัยต่างประเทศกรณีสหรัฐบรรลุเจรจาการค้าอังกฤษชาติแรก ราคาน้ำมันขึ้นเฉลี่ย 3% จิตวิทยาบวกต่อหุ้นพลังงานต้นน้ำ (10-11% ของมูลค่าตลาด) กำไรตลาดภาคเรียลเซ็กเตอร์งวดไตรมาส 1/2568 โค้งแรก รายงานแล้ว 109 บริษัท ดีกว่าคาด +3.9% วานนี้หุ้นเด่น อาทิ GULF, CPAXT, SHR

ประเมินตลาดวันนี้มีหุ้นหนุนตลาดคือ กลุ่ม Reopening Trade, กลุ่มพลังงานต้นน้ำ และหุ้น Domestic ได้ประโยชน์เม็ดเงินช่วงเปิดภาคเรียน โดยเฉพาะค้าปลีกสินค้าจำเป็น+อุปกรณ์การเรียน +สินค้าไอที และเก็งกำไรหุ้นกำไรไตรมาส 1/2568 ดีกว่าคาดหรือจะออกมาดี วันนี้แนะนำหุ้น CPALL, CPAXT, BANPU (เก็งกำไรคาดการณ์ไม่หลุด SET50)