ประมงดีเดย์ 15 พ.ค. รับซื้อ ‘หมอคางดำ’ กิโลละ 15 บาท – แพปลายันรับซื้อหมดทุกตัว
GH News May 09, 2025 03:24 PM

ประมงยันดีเดย์ 15 พ.ค. เปิดแพปลาพร้อมรับซื้อหมอคางดำ 15 บาท ด้านเจ้าของแพปลาแจง ถูกแพงรับซื้อหมดทุกตัว ขณะที่ชาวประมงเรือเล็กชี้ทางออก ปรับราคา – รับซื้อระยะยาว – คุมหมอคางดำต่อเนื่อง 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 พฤษภาคม นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ถึงความพร้อมของจังหวัดสมุทรสาคร ในการรับซื้อปลาหมอคางดำ ตามโครงการควบคุมและกำจัดประชากรปลาหมอคางดำอย่างต่อเนื่อง โดยกรมประมงได้รับงบประมาณมาราวๆ 75 ล้านบาทเศษ เพื่อดำเนินการรับซื้อปลาหมอคางดำ จากแพปลาผู้รวบรวม ที่ได้รับประกาศรายชื่อให้เป็นผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นการกระจายจุดรับซื้อ และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ต้องการนำปลาหมอคางดำมาจำหน่ายให้กับแพปลาผู้รวบรวม ในพื้นที่ใกล้เคียง

และเป็นการจูงใจให้เกิดการกำจัดปลาหมอคางดำในพื้นที่ 19 จังหวัด ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท (รวมค่าขนส่งและค่าใช้จ่ายทั้งปวง) โดยแพปลาผู้รวบรวมจะนำปลาหมอคางดำดังกล่าว ส่งให้กับหน่วยงานสังกัดกรมพัฒนาที่ดิน หรือ การยางแห่งประเทศไทย เพื่อนำปลาหมอคางดำที่กำจัดออกไปใช้ประโยชน์นั้น

สำหรับในส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร ขณะนี้ทางสำนักงานประมงจังหวัดได้มีการประกาศรายชื่อแพปลาผู้รวบรวมปลาหมอคางดำเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีแพปลาที่ผ่านคุณสมบัติทั้งสิ้น 10 แพ จากนี้ก็จะเป็นขั้นตอนทางธุรการหรือทางด้านเอกสาร ที่ทางแพปลาผู้รวบรวมปลาหมอคางดำ จะต้องมาดำเนินการให้เป็นที่เรียบร้อยกับทางสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร โดยจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เพื่อที่จะเริ่มเปิดรับซื้อปลาหมอคางดำในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะครบตามจำนวนกิโลกรัมที่กำหนดไว้หรือภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้

โดยราคารับซื้อจากเรือประมงหรือจากบ่อ จะตกอยู่ที่กิโลกรัมละ 15 บาท ส่วนแพปลาจะได้ค่าขนส่งเพิ่มอีก 5 บาท รวมทั้งสิ้นเป็นราคากิโลกรัมละ 20 บาท

โดยจังหวัดสมุทรสาคร มีโควตาการรับซื้อล๊อตใหม่นี้อยู่ที่ประมาณ 750,000 กิโลกรัม ซึ่งจะต้องรับซื้อทั้งจากเรือประมงที่เข้าร่วมโครงการ และบ่อเกษตรกรรมที่มีการแจ้งความประสงค์ขอจับปลาหมอคางดำต่อสำนักงานประมงฯ หรือต่อแพปลาที่เป็นผู้รวบรวมปลาหมอคางดำ จากนั้นก็จะเป็นการกำหนดวันที่ในการจับปลามาขายซึ่งก็มีทั้งการชั่งที่แพปลา หรือไปชั่งหน้าบ่อ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของสำนักงานประมงฯ นั่นเอง

นายเผดิม ยืนยันด้วยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าการรับซื้อปลาหมอคางดำที่สมุทรสาครวันแรกล้มเหลว แพไม่รับซื้อ ราคาไม่ได้เป็นไปตามที่กรมประมงประกาศไว้นั้น เกิดความคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงหลายประการอาจทำให้ประชาชนสับสน เข้าใจผิด ซึ่งความเป็นจริงแล้วทางจังหวัดสมุทรสาคร ได้ดำเนินการในแต่ละกิจกรรมอย่างเร่งด่วน รวดเร็วในทุกขั้นตอนเพื่อเร่งเปิดการรับซื่อปลาหมอคางดำให้เร็วที่สุด เป็นไปตามวัตถุประมงต่อไป โดยหากเป็นไปตามแผนฯ เชื่อมั่นได้ว่าจะรับซื้อได้วันแรกในวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 นี้อย่างแน่นอน และทางแพปลาก็ไม่ได้มีการปฏิเสธการรับซื้อแต่อย่างใด เพียงแต่ยังไม่ถึงวันที่จะเริ่มโครงการฯ 15 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งที่ผ่านมาทางแพปลา ก็รับซื้อปลาหมอคางดำที่ชาวประมงจับได้มาตลอดในราคาประมาณ 3.50 – 4.50 บาท เพื่อนำส่งโรงงานปลาไก่ (โรงงานปลาป่นอาหารสัตว์) ในจังหวัดที่รับซื้อราคาประมาณ 5 บาท ถึงแม้ราคาจะไม่สูงแต่ไม่ต้องเสียค่าดองปลา และไม่ต้องเสียค่าขนส่งระยะไกล เป็นการช่วยเหลือกันระหว่างแพปลา กับ ชาวประมงเรือเล็ก

นอกจากนี้กรณีที่รายงานว่าการดำเนินการมีความยุ่งยาก ต้องวางเงินมัดจำ เป็นภาระไม่มีแพอยากเข้าร่วม และอยากถอนตัวกันหมดนั้น ในจังหวัดสมุทรสาครได้ตรวจสอบและทำความเข้าใจกับหน่วยงานกรมประมงแล้วในการดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง “ไม่มีการเรียกเก็บเงินค้ำประกัน ไม่มีค่าปรับหากแพส่งไม่ได้ตามแผน” และได้แจ้งทุกแพทราบแล้ว และพร้อมลงนามสัญญาจ้างทันที่ที่เอกสารและการดำเนินการครบถ้วนตามระเบียบราชการ ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 นี้

ขณะที่ นายวิชาญ เหล็กดี เจ้าของแพปลาวิชาญ บอกด้วยว่า ทุกวันนี้แพปลารับซื้อปลาหมอคางดำเป็นปกติทุกวัน แต่ราคาไม่สูงอย่างที่โครงการฯ จัดงบประมาณมาให้ ซึ่งราคาที่แพปลารับซื้อนั้นถือเป็นการช่วยเหลือกันทั้งชาวประมงเรือเล็กและแพปลา โดยทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่มีการปฏิเสธการรับซื้อแม้แต่กิโลเดียว ซึ่งในภาวะปกติจะนำมาขายกี่กิโลกรัมก็รับซื้อหมดเพื่อนำไปขายต่อให้กับโรงงานปลาไก่ในจังหวัดสมุทรสาคร
ด้านชาวประมงเรือเล็กบอกด้วยว่า สถานการณ์ปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติต้องยอมรับว่ายังมีอยู่เป็นจำนวนมหาศาลทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่

โดยชาวประมงเองนั้น ถ้าเลือกได้ก็ไม่มีใครอยากจับปลาหมอคางดำมาขายเพราะราคาถูก แต่ทุกวันนี้เลือกไม่ได้เนื่องจากปลาหมอคางดำมีจำนวนมาก ส่วนสัตว์น้ำอื่นๆ กลับลดน้อยลง ดังนั้นหากจับปลาหมอคางดำได้เท่าไหร่ก็นำมาขายแพปลา แต่ถ้าจะขายแบบไม่ขาดทุนมีเงินเหลือใช้จ่ายในครอบครัวก็ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 กิโลกรัม ถึงจะคุ้มกับค่าน้ำมัน ค่าซ่อมอุปกรณ์ และเหลือไว้กินไว้ใช้ในครอบครัว ส่วนเรื่องของแพปลานั้น ตนยืนยันได้ว่า ไม่มีแพใดปฏิเสธการรับซื้อปลาหมอคางดำ จะมากจะน้อยแพจะรับซื้อไว้ทั้งหมด ตนยังมองว่า แพต้องเป็นผู้แบกรับภาระไว้เอง เพราะหากมีปริมาณปลาหมอไม่มากก็ไม่คุ้มกับค่าขนส่ง ทั้งนี้ชาวประมงเรือเล็กมองด้วยว่า การควบคุมประชากรปลาหมอคางดำอย่างยั่งยืนนั้น รัฐบาลแค่ปรับลดราคารับซื้อลงมาไม่ต้องราคาสูงอย่างที่จัดโครงการฯ อาจจะราคากิโลกรัมละประมาณ 10 บาท แล้วให้นำส่งต่อโรงงานปลาไก่ภายในจังหวัด มีระยะเวลาการรับซื้อที่ต่อเนื่องยืนยาว แค่นี้ก็จะช่วยทำให้การกำจัดปลาหมอคางดำได้อย่างต่อเนื่องเห็นผลในระยะยาวอย่างแน่นอน

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.