ที่ อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี ช็อคทั้งบ้าน ร้องไห้ระงม แม่และยายร่ำไห้แทบขาดใจ น้ำตาจะเป็นสายเลือด เมื่อรู้ข่าวน้องน้ำตาลไปฝึกงานพบเป็นศพกลางแม่น้ำเจ้าพระยาไร้ปาฏิหาริย์ แม่ร่ำไห้แทบขาดใจเป็นลมฟุบแล้วฟุบอีก ยายอีกคนสะอื้นไห้เล่าทั้งน้ำตา เขาเป็นเด็กดีเพิ่งเข้าไปทำงานในเขตเมืองกรุง เอาชีวิตยายไปแทนหลานได้ยิ่งดี เชื่อหลานสาวถูกลวงฆาตกรรม
วันนี้ (10 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวที่จ.อุดรธานี รายงานว่า จากกรณี น.ส.นภัสสร หรือน้องน้ำตาล อายุ 17 ปี นักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพหนองหาน ไปฝึกงานที่จ.ปทุมธานี แต่จู่ๆ ช่วงเที่ยงคืนวันที่ 1 พ.ค.68 น้องน้ำตาลได้เรียกรถแท็กซี่จากแอปพลิเคชันหนึ่ง รับจากหน้าหอพักฯ ไปส่งย่านพระราม 3 โดยไม่รู้ว่าไปเจอใคร หลังจากลูกสาวหายตัวไป นายบุญเลิศ พ่อของน้องน้ำตาลได้เดินทางจากจ.อุดรธานีขึ้นไปที่จ.ปทุมธานีทันที ด้วยความเป็นห่วงใยลูกสาว ซึ่งการเดินทางมาฝึกงานต่างจังหวัดฯ ถือเป็นครั้งแรกของลูกสาว เพราะปกติลูกสาวจะอยู่ใกล้ชิดพ่อแม่และยายที่บ้านนายม อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี ขนาดไปวิทยาลัยฯ พ่อต้องขับรถไปส่งและรับทั้งเช้าและเย็น ระยะทางไปกลับเกือบ 30 กม. จนถึงวันนี้ก็ 9 วันแล้วยังไม่พบน้องน้ำตาลแต่อย่างใด สุดท้ายน้องน้ำตาลก็ไร้ปาฏิหาริย์ เมื่อพบศพน้องน้ำตาลที่แม่น้ำเจ้าพระยา แถวพระราม 3
โดยก่อนหน้าจะพบศพหลังจากน้องน้ำตาลหายไปถึง 9 วันมีเพื่อนของน้องน้ำตาลได้แจ้งข่าวว่า “น้องเสียแล้วนะคะ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันตามหาน้องคอยตามข่าวมาตลอด ตอนนี้ทางครอบครัวมีข้อสงสัยเต็มไปหมดเกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้อง อยากจะให้ความเป็นธรรมกับน้องมาก แต่แค่ครอบครัวธรรมดา ๆ ครอบครัวหนึ่งคงหาความเป็นธรรมให้น้องยาก ไม่ว่าจะเป็นการที่บอกว่าน้องคุยโทรศัพท์แต่น้องกลับปิดเครื่องตั้งแต่วันแรกที่หายตัวไป ถ้าจะเปิดซิมใหม่น้องก็ไม่ได้เอาบัตรประชาชนไป น้องนั่งรถ 2 ต่อ ไปพัทยา รถคันที่ 2 ยกเลิกงานไม่รู้ว่าน้องเหมารถรึป่าว แล้วพอน้องไปถึงพัทยาก็ไปดูแค่ทะเลแล้วก็กลับเลย กลับมากับรถคันที่ 2 เดินอยู่ตรงพระราม 3 คนเดียวแล้วกล้องก็ไม่มีอะไรต่อ แล้วหลังจากนั้นไม่รู้เป็นยังไง รู้แต่ว่าน้องกระโดดน้ำที่พระราม 3 เจอศพน้องตั้งแต่วันที่ 3 แล้ว
โดยบ่ายวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ 64 หมู่ 10 บ้านนายม ต.ดอนกลอย อ.พิบูลย์รักษ์ อีกครั้ง ปรากฏว่าบรรยากาศที่บ้านเป็นไปด้วยความโศกเศร้า หลังทางบ้านรู้ข่าวน้องน้ำตาลเสียชีวิตแล้ว มีบรรดาเพื่อนบ้านเดินทางมาให้กำลังใจนางเย็นฤดี แม่ของน้องน้ำตาลและนางทองสา ผู้เป็นยาย ส่วนแม่ของน้ำตาลกำลังเก็บเสื้อผ้าของน้องน้ำตาลออกมาเตรียมไว้เพื่อในงานพิธีบำเพ็ญกุศลของลูกสาว ซึ่งท่าทีของแม่มีแต่ความโศกเศร้าเสียใจไม่มีเรี่ยวแรง ระหว่างที่แม่กำลังเก็บเสื้อผ้าของลูกสาวแม่ได้พูดกับเสื้อลูกสาวว่า “เห็นเสื้อผ้าแล้วใจหายก่อนจะจับมาดมและพูดอีกว่ายังเสื้อผ้ายังหอม ๆ อยู่เลย” ก่อนจะร้องไห้เสียใจตลอดเวลา ญาติๆ ร้องคอยปลอบใจและเอายาดมให้ตลอดเวลา
นางเย็นฤดี แม่น้องน้ำตาล บอกว่า หลังจากน้องหายตัวติดต่อไม่ได้ตอนนี้รู้ข่าวแล้วว่าน้องเสียชีวิต แม่ในฐานะแม่ก็เสียใจที่ลูกเสียชีวิตแบบกะทันหันแบบนี้ แม่ร้องไห้จนไม่น้ำตาแล้ว น้ำตาแม่จะเป็นสายเลือด ก่อนวันที่น้องจะหายตัวไป น้องก็ยังโทรศัพท์มาหาแม่พูดคุยเล่นสนุกสนานกันอยู่ และเล่าให้แม่ฟังอีกว่าพี่สาวจะช่วยเหลือเรื่องเรียน อนาคตลูกสาววาดฝันไว้ว่าหากเรียนจบก็จะทำงานหาเงินมาให้แม่ใช้ อยากให้แม่มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายไม่ต้องทำงานหนัก ส่วนศพของน้องลูกสาวนั้นพ่อเขากำลังเดินทางไปรับที่กรุงเทพฯ และคาดว่าจะมาถึงวันพรุ่งนี้ เมื่อศพมาถึงจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลไว้เพียง 1 วัน 1 คืนเท่านั้นและก็ฌาปนกิจเลย “การเสียชีวิตของลูกสาวส่วนตัวแม่ก็ยังไม่เชื่อว่าน้องจะกระโดดน้ำเสียชีวิตเอง แต่เกรงว่าอาจจะมีคนร้ายมาล่อลวงน้องทำไม่ดีไม่ร้าย เรื่องนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามสืบสวนสอบสวนให้ได้หายสงสัยให้แม่ด้วยที
นางทองสา ยายของน้องน้ำตาล บอกว่า รู้ข่าวว่าหลานสาวเสียชีวิต หลังจากพ่อของน้ำตาลโทรมาบอกเมื่อบ่ายวานี้ ยายร้องไห้จนเข่าอ่อน ทุกคนในบ้านวิ่งร้องไห้กอดกัน ไม่คิดว่าหลานจะฆ่าตัวตาย หลานยายเป็นคนดี ไม่เกเร ไม่เคยไปไหนคนเดียว ยายรักหลานคนนี้มาก ยายไม่เชื่อว่าหลานจะกระโดดน้ำตายเอง เชื่อว่าจะมีคนพาน้องไปแล้วหรืออจะพยายามทำมิดีมิร้ายน้องน้ำตาล น้องพยายามวิ่งหนีจนต้องกระโดดน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาหนีก็ได้ ตอนนี้น้องจากพวกเราไปแล้ว หากน้องน้ำตาลรับรู้ยายได้ ขอให้ไปเปิดหูเปิดตาเจ้าหน้าที่ฯดูกล้องให้เห็นใครพาน้องน้ำตาล อย่าให้ยายคิดห่วง ขอให้น้องน้ำตาลขึ้นสวรรค์ หากตายแทนได้อยากตายแทนหลาน ผู้เป็นยายพูดไปก็ร้องไห้แทบใจจะขาด จนลูกๆ ต้องคอยปลอบใจตลอดเวลา
นางบุญเกตุ อายุ 46 ปีป้าของน้องน้ำตาล บอกว่า ทุกคนเป็นห่วงหลานสาวหลังจากไปฝึกงานที่ปทุมธานีได้เพียง 1 เดือนก็มาเสียชีวิต ตอนแรกทุกคนมีความหวังเจอน้องที่พัทยา พอรู้ข่าวไร้ปาฏิหารยิ์ทุกคนช็อคทั้งบ้าน วิ่งร้องไห้กอดกัน โดยเฉพาะน้องสาวที่เป็นแม่ของน้องน้ำตาลร้องไห้จนเป็นลมแล้วเป็นลมอีก แม่เขาไม่เชื่อว่าน้องจะกระโดดน้ำตาลเอง และญาติๆ ก็ไม่เชื่อว่าน้องน้ำตาลกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาตรงสะพานพระราม 3 เพื่อฆ่าตัวตาย อย่างอยู่ที่บ้านจะไปแม้กระทั่งร้านค้าในหมู่บ้านยังขอมีเพื่อนพาไป เป็นไปไม่ได้ที่น้องจะกล้าไปคนเดียว อาจจะมีคนลวงน้องออกไป พอออกไปแล้วมีคนพยายามตามน้องคิดมิดีมิร้าย แล้วน้องก็วิ่งหนี หรืออาจจะมีคนลวงน้องออกจากหอพักเพื่อไปหา คงต้องให้เจ้าหน้าที่ฯ พิสูจน์เรื่องนี้
ขณะเดียวกัน น.ส.อนินทิตา รุจิประภา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ได้เดินทางมาเยี่ยมครอบครัวของผู้เสียชีวิตเพื่อให้กำลังใจและสอบถามข้อมูลหาแนวทางช่วยเหลือเยี่ยวตามระเบียบทางราชการ โดย นายนรเศรษฐ์ กุดแถลง นักสังคมสงเคราะห์ พมจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับทางแม่ของน้องผู้เสียชีวิต เบื้องต้นทางครอบครัวของเขาต้องการให้ช่วยเหลือใน 3 ข้อ คือ ด้านกระบวนการยุติธรรม เพราะตอนนี้ครอบครัวยังสงสัยกับเหตุการณ์เสียชีวิตของลูกสาวอยากได้ความกระจ่าง 2 คือสภาพจิตใจทางครอบครัวก็อยากได้รับการเยียวยาโดยเบื้องต้นทางพมจ. ก็ลงพื้นที่มาให้กำลังใจแล้ว จากนี้ซึ่งก็จะมีการประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ลงมาเยี่ยมครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายคือเรื่องด้านชีวิตความเป็นอยู่หรือฐานะครอบครัว เราประชุมหาเพื่อทางช่วยเหลือด้านการเงินที่จะเยียวยาให้ครอบครัวนี้อีกครั้งหนึ่ง