ญี่ปุ่นตั้งเป้าลดภาษีกับทางสหรัฐ นำเข้าข้าวโพดเพิ่มขึ้นแทนข้าว และอาจร่วมมือด้านอุตสาหกรรมต่อเรือกับสหรัฐ
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ชิเงรุ อิชิบะ (Shigeru Ishiba) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นส่งสัญญาณว่าจะเพิ่มการนำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐเป็นตัวเลือกในการเจรจาการค้ากับรัฐบาลสหรัฐ แต่ก็ยังย้ำว่าญี่ปุ่นจะไม่ยอมเสียสละภาคเกษตรกรรมเพื่อแลกกับภาษีอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต่ำลง
ญี่ปุ่นพยายามอย่างมากในการเจรจาเพื่อลดผลกระทบของมาตรการภาษีอุตสาหกรรมยานยนต์ 25% กับทางสหรัฐ ซึ่งมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยในการเจรจาสองครั้งที่ผ่านมา
ในการเจรจารอบแรกเมื่อเดือนเมษายน ฝั่งสหรัฐยกอุตสาหกรรมยานยนต์ และข้าวขึ้นโต๊ะเจรจา โดยกล่าวว่าเป็นภาคที่ญี่ปุ่นมีการกีดกันการค้าไว้สูง
นายกอิชิบะ จากพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งมีฐานเสียงส่วนใหญ่เป็นชาวนา จำเป็นต้องเลือกนำเข้าข้าวโพด แทนการนำเข้าข้าวจากสหรัฐ เพื่อรักษาคะแนนนิยมทางการเมือง
อิชิบะกล่าวในที่รัฐสภาวันที่ 12 พฤษภาคม 2025 ว่าญี่ปุ่นจะไม่ยอมสละภาคเกษตรกรรมในประเทศเพื่อแลกกับการได้สิทธิประโยชน์ของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์
“ญี่ปุ่นสามารถใช้ข้าวโพดเพื่อเป็นเชื้อเพลิงเอทานอลแทนการบริโภคได้ การใช้ชีวมวลจะเป็นประโยชน์แก่ญี่ปุ่น” อิชิบะกล่าวพร้อมย้ำว่าผืนดินญี่ปุ่นไม่เหมาะกับการปลูกข้าวโพดอยู่แล้วด้วย
สหรัฐส่งออกข้าวโพดไปญี่ปุ่นในปี 2024 เป็นมูลค่า 2,800 ล้านดอลลาร์ (ราว 92,200 ล้านบาท) เพื่อตอบโต้ยอดส่งออกไปจีนที่ลดลง 80%
เรียวเซ อาคาซาว่า (Ryosei Akazawa) ผู้แทนการค้าระดับสูงของญี่ปุ่น กล่าวในสมัยประชุมรัฐสภาเดียวกันว่า ไม่ลังเลที่จะเรียกร้องให้สหรัฐเลิกมาตรการภาษีทั้งหมดกับทางญี่ปุ่น
ซึ่งญี่ปุ่นกำลังจะเจรจาการค้าทวิภาคีระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 3 ในเดือนนี้กับทางสหรัฐ ซึ่งอาจได้รับอานิสงค์จากการลดภาษีระหว่างกันและกันของจีนและสหรัฐ
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเตรียมที่จะเสนอควาร่วมมือทางเทคนิกในอุตสาหกรรมการต่อเรือ ขณะที่เป้าหมายสำคัญของญี่ปุ่นยังเป็นการลดอัตราภาษีภาคยานยนต์ 25% ให้หมดสิ้นลง
ทรัมป์ประการเรียกเก็บภาษีกับคู่ค้าทุกประเทศในอัตราขั้นต่ำ 10% เมื่อวันที่ 2 เมษายน ยกเว้น แคนาดา เม็กซิโก และจีน ซึ่งญี่ปุ่นถูกเรียกเก็บภาษีสูงถึง 24% และจะมีผลบังคับใช้เดือนกรกฎาคมนี้