คณะกรรมการสรรหา ผอ.Thai PBS คนใหม่ เคาะ 4 แคนดิเดตผ่านด่านแสดงวิสัยทัศน์ “วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์” ฉันทามติ 9 เสียง เตรียมเข้ารับการสัมภาษณ์ ชิงดำ ผอ.คนใหม่ 29 พฤษภาคมนี้
วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เป็นวันที่คณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย นัดหมายให้ผู้ได้รับคัดเลือกทั้ง 6 คน แสดงวิสัยทัศน์ต่อกรรมการฯ ตามกระบวนการการสรรหา ผอ.คนใหม่ของ Thai PBS และเป็นครั้งแรกของการเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมติดตามการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครทั้ง 6 ท่าน
โดยในวันนี้มีผู้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ จำนวน 5 ท่าน คือ รองศาสตราจารย์ปัทมาวดี โพชนุกูล, นายรัฐศาสตร์ กรสูต, นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์, นายอภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์, นายอรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ ส่วนนายนพพร วงศ์อนันต์ ได้ยื่นหนังสือขอถอนตัวจากกระบวนการสรรหาฯ ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 โดยนายนพพร ระบุเหตุผลการถอนตัวจากการแสดงวิสัยทัศน์ฯ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เกิดเหตุการณ์ทางธุรกิจที่ต้องแก้ไขที่สหราชอาณาจักร และไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้
ล่าสุด คณะกรรมการสรรหาฯ เปิดเผยว่า ผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาฯ เสร็จสิ้นแล้ว
คณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาผู้ที่มีความเหมาะสมเพื่อเสนอชื่อเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ต่อคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. โดยใช้หลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามเอกสารแนบท้ายประกาศคณะกรรมการสรรหาฯ ฉบับที่ 4/2568 ซึ่งได้แก่ ประวัติ ผลงาน ความรู้ ความสามารถซึ่งเหมาะสมในการเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ภาวะผู้นำและความสามารถในการบริหาร วิสัยทัศน์และแนวคิดเชิงกลยุทธ์ และการนำวิสัยทัศน์ไปสู่การปฏิบัติ
ทั้งนี้ ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงรับรองไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการสรรหาฯ ทั้งหมด จึงจะถือว่าเป็นผู้ผ่านการพิจารณา
คณะกรรมการสรรหาฯ จึงประกาศรายชื่อผู้สมัคร จำนวนทั้งสิ้น 4 คน ที่ได้รับคะแนนเสียงรับรองไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการสรรหาฯ ทั้งหมด (เรียงลำดับคะแนนเสียงรับรองจากมากไปน้อย) เพื่อเสนอรายชื่อต่อคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ดังนี้
คำวินิจฉัยและมติที่ประชุมของคณะกรรมการสรรหาฯ ให้ถือเป็นที่สุด
ในการรับฟังการแสดงวิสัยทัศน์ คณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย จะพิจารณาผู้เหมาะสมได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ต่อคณะกรรมการนโยบาย โดยมีหลักเกณฑ์และกระบวนการ ดังนี้
1. พิจารณาให้คะแนนการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครใน 4 ประเด็น รวม 100 คะแนน ประกอบด้วย
ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนรวม 70 คะแนนขึ้นไป จากกรรมการสรรหาฯรายใด ให้ถือว่าผู้สมัครได้รับคะแนนเสียงรับรอง 1 เสียงจากกรรมการสรรหาฯรายนั้น
2.ตามข้อบังคับองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการรับสมัคร และการสรรหาผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2568 และที่แก้ไขเพิ่มเติม คณะกรรมการสรรหาฯจะเสนอชื่อผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงรับรองไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการสรรหาฯทั้งหมด ไปยังคณะกรรมการนโยบาย ทั้งนี้ ไม่น้อยกว่า 3 คน และไม่เกิน 5 คน
ในกรณีที่มีผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงรับรองเกินกว่ากึ่งหนึ่งน้อยกว่า 3 คน คณะกรรมการสรรหาฯจะเสนอชื่อผู้สมัครตามจำนวนเท่าที่ผ่านเกณฑ์
หลังจากการแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาฯ วันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ผู้ได้รับการคัดเลือกทั้ง 4 ท่าน จะต้องเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป ดังนี้
สำหรับคณะกรรมการนโยบาย จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีความรู้หรือความเชี่ยวชาญ ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จาก 3 เรื่อง รวม 9 คน ดังนี้
โดยคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ชุดปัจจุบัน มีดังนี้
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 มาตรา 28 ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) กำหนดนโยบายโดยทั่วไปขององค์การ
(2) คุ้มครองรักษาความเป็นอิสระของคณะกรรมการบริหาร ผู้อำนวยการ และพนักงานให้ปลอดจากการแทรกแซงใด ๆ
(3) ให้ความเห็นชอบแผนการบริหารกิจการและแผนการจัดทำรายการขององค์การให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ตามมาตรา 7
(4) ให้ความเห็นชอบงบประมาณขององค์การ
(5) ควบคุมการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารให้เป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบาย
(6) กำหนดให้มีการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพของรายการ
(7) กำหนดข้อบังคับด้านจริยธรรมของกรรมการบริหาร ผู้อำนวยการ ผู้บริหารขององค์การ พนักงานและลูกจ้างขององค์การ และบทลงโทษ
(8) กำกับดูแลเพื่อให้ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและคำติชม ตลอดจนข้อร้องเรียนของประชาชนต่อองค์การ ได้รับการพิจารณาอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว
(9) กำหนดระเบียบกลางเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การเงิน การงบประมาณและทรัพย์สิน การมอบอำนาจให้คณะกรรมการบริหารดำเนินการต่าง ๆ และการดำเนินกิจการโดยทั่วไป
(10) แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารตามมาตรา 29
(11) แต่งตั้งและถอดถอนผู้อำนวยการตามมาตรา 31
(12) กำหนดค่าตอบแทนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการตามมาตรา 37
(13) กำหนดข้อบังคับด้านจริยธรรมของวิชาชีพเกี่ยวกับการผลิต และการเผยแพร่รายการขององค์การตามมาตรา 42
(14) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชนตามมาตรา 46
(15) จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และเผยแพร่ต่อสาธารณชนตามมาตรา 52
(16) ปฏิบัติการอื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น
ข้อมูลและภาพประกอบจาก Thai PBS, The Active