พ่อแม่สุดทน วอนจนท.ช่วยเหลือ ลูกชายทาสยาคลั่ง ขอเงินไม่ได้ อาละวาดทำลายข้าวของ ขู่ทำร้าย ตื้บหลานม.6 ม้ามบวมจนเสียชีวิต ล่าสุดตัดสายเบรกรถ หวังฆ่าพ่อแม่

เมื่อวันที่ 13 พ.ค.68 พ.ต.ท.กิตติทัศน์ วงษ์ถาวร สารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ พร้อมตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบ บ้านหลังหนึ่ง ในบ้านดอนพัฒนา ตำบลดงอีจาน อำเภอโนนสุวรรณ หลังได้รับแจ้งจาก 2 ตายายว่า นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ลูกชายแท้ๆ หลอนยาเสพติดคลุ้มคลั่ง อาละวาดทำลายข้าวของ ข่มขู่เอาเงิน หากไม่มีให้ ก็จะทำร้าย

ทั้งยังมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับคนในครอบครัว เคยกระทืบหลานสาวเมื่อปี 2566 ตอนเรียน ชั้นม.6 จนม้ามบวม ไตช้ำ ถูกหามส่ง รพ. จนส่งผลข้างเคียงทำให้หลานเสียชีวิตไปเมื่อปลายเดือน เม.ย.2568 ชอบพกมีดติดตัว แอบผลิตอาวุธปืนในบ้าน พ่อแม่เตือนก็ขู่จะทำร้าย และวันที่ 11 พ.ค.

ที่ผ่านมา ถึงขั้นตัดสายเบรกรถจักรยานยนต์ที่พ่อแม่ใช้ประจำ คาดหวังให้พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต พ่อกับแม่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานใจ และหวาดระแวง ไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกลูกชายทำร้ายหรือเอาชีวิต

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบเพียงร่อยรองความเสียหายภายในบ้าน มีดดาบยาว และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับทำปืนไทยประดิษฐ์อยู่ข้างบ้าน ซึ่งตายาย เจ้าของบ้านยืนยันว่า เป็นฝีมือของลูกชาย แต่ไม่เจอตัวอยู่ที่บ้าน จึงไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะติดเรื่องข้อกฎหมาย

เนื่องจากไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า แต่ก็รับปากกับตายายว่า จะส่งเจ้าหน้าที่แวะเวียนมาตรวจสอบเรื่อยๆ พร้อมจะประสานผู้นำหมู่บ้านช่วยดูแลอีกทางหนึ่งด้วย และหากมีเหตุการณ์อะไรก็แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที

สอบถามนางสมบัติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี แม่นายเอ เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า นายเอเป็นลูกคนที่ 3 ไม่ได้ทำงานอะไร มีพฤติกรรมติดยาเสพติด ชอบทำลายข้าวของและใช้ความรุนแรงกับคนในครอบครัว เมื่อปี 2566 อาละวาดพังข้าวของในบ้านถีบประตูห้องนอนหลานสาว ซึ่งเป็นลูกของลูกสาวคนโตที่ทำงานต่างจังหวัด ขณะที่หลานอ่านหนังสือในห้อง ใช้เท้ากระทืบหลานสาวจนม้ามบวม ไตช้ำ ถูกนำตัว ส่ง รพ.

แต่หลังออกรพ.หลานก็บ่นให้ฟังว่ามีอาการเจ็บหน้าอก จนเมื่อวันที่ 27 เม.ย.68 หลานสาวก็ทรุดและเสียชีวิต ทั้งที่ไม่มีโรคประจำตัวอะไร ก็เชื่อว่าเกิดจากผลข้างเคียงที่ถูกนายเอทำร้าย ซึ่งตอนที่หลานเสียชีวิตนายเอ ก็เป็นคนมาเล่าให้ตนเองฟังว่า หลานใส่ชุดขาวมาเข้าฝัน แล้วนายเอ ก็บอกกับหลานว่าขอโทษ แล้วหลานที่เจอในฝันก็หายไป ก็คิดว่าลูกชายจะสำนึกหรือรู้สึกผิดบ้าง

แต่หลังจากนั้นก็ยังมีพฤติกรรมเสพยา ขู่เอาเงินประจำ หากหาให้ไม่ได้ก็จะทำร้าย ทำให้พ่อกับแม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานใจ และหวาดระแวง ก็อยากให้หน่วยงานภาคหาแนวทางช่วยเหลือด้วย เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าวันไหนพ่อกับแม่จะถูกทำร้าย หรืออาจจะเป็นศพรายต่อไปก็ได้

นายฉลอม อายุ 69 ปี พ่อนายเอ กล่าวว่า ลูกชายติดยาเสพติด ชอบเอาของในบ้านไปขาย พอไม่มีอะไรจะขาย ก็ข่มเหงเอาเงินจากพ่อแม่ ไม่มีให้ก็ขู่ทำร้าย ตอนที่ทำร้ายหลานสาวตนก็เข้าไปช่วยก็ถูกทำร้ายด้วย ด้วยอายุมากแล้ว ก็สู้แรงลูกชายไม่ไหว จึงต้องยกมือไหว้ขอชีวิตลูก ถึงยอมหยุด

ส่วนที่หลานสาวเสียชีวิต ก็คิดว่าเป็นผลข้างเคียงจากที่ถูกนายเอทำร้าย สงสารหลานสาวมาก หากยังมีชีวิตคงกำลังเรียน ปวส.มีอนาคตที่ดี และเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา นายเอก็อาละวาดทำลายข้าวของอีก

“ล่าสุดรถจยย.พ่วงข้างที่ตนขับพายายไปวัด เกิดเบรกไม่อยู่ เกือบจะเกิดอุบัติเหตุ โชคดีที่ขับไม่เร็ว พอตรวจดูก็พบว่าสายเบรกถูกตัด ก็คิดว่าน่าจะเป็นฝีมือลูกชาย ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะแจ้ง ตร.ก็บอกไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง ไม่รู้วันไหนจะถูกลูกฆ่าตาย” นายฉลอม กล่าว

ด้านเพื่อนบ้าน เล่าว่า เห็นพฤติกรรมที่นายเอ ใช้ความรุนแรงกับพ่อแม่ประจำ แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะกลัวจะถูกทำร้ายเหมือนกัน ก็อยากให้หน่วยงานรัฐหาแนวทางช่วยเหลือตายายด้วย หากปล่อยไว้ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น