"อุตตม-สนธิรัตน์" ไขก็อกทิ้ง "พลังประชารัฐ" พร้อมเข้าอำลา "บิ๊กป้อม" แล้ว "รมว.นฤมล" ปัดใช้เงิน 55 ล้านดูด สส. ไม่รู้ "สุชาติ ชมกลิ่น" จ่อย้ายมาร่วมงาน รับ "กล้าธรรม" เนื้อหอม แย้มยังมีเพิ่มอีกเป็นสิบ "เอกนัฏ" ไม่รู้ "รมต.เฮ้ง" จ่อซบ "กล้าธรรม" ลั่น "รทสช." อยู่ด้วยอุดมการณ์ มั่นใจ "พีระพันธุ์" เคลียร์ได้ทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา ขณะที่ "สรวงศ์" ลั่นพิจารณางบฯ69 วาระ 1 ทุกพรรคควรเห็นไปในแนวเดียวกัน "ภท." การันตีแล้วไม่คว่ำกฎหมาย
เมื่อวันที่ 13 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพลังงาน ได้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าเหตุผลสำคัญคือสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน และความกังวลถึงแนวทางการทำงานของพรรคต่อจากนี้ โดยทั้งนายอุตตม และสนธิรัตน์ ได้เข้าไปลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. แล้ว พร้อมกับอวยพรขอให้ทั้ง 2 คนโชคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ถือเป็นหัวหน้าและเลขาฯ พรรค พปชร. คู่แรกในการนำพรรคลงเลือกตั้ง เมื่อปี 62 และได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทั้งนี้ ตำแหน่งสุดท้ายของนายอุตตม ในพรรค พปชร. คือ รองหัวหน้าพรรค และประธานกรรมการนโยบาย ส่วนนายสนธิรัตน์ เป็นรองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการพรรค
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 พ.ค.67 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ประกาศยุติการทำกิจกรรมกับพรรคประชาชน และจะย้ายมาอยู่กับพรรคกล้าธรรม ว่า เป็นเรื่องภายในพรรคของพรรคประชาชน ส่วนตัวยังมีโอกาสได้พบหรือพูดคุยกับ น.ส.กฤษฎิ์ ทราบเพียงจาก สส.ภายในพรรคกล้าธรรมที่เคยทำงานร่วมกันในสภา โดยเป็นเพียงการหารือกันในเรื่องงานระหว่าง สส.
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความชัดเจนว่า จะมาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมแล้วใช่หรือไม่ นางนฤมล ยืนยันว่า ยังไม่ได้พูดคุย เห็นเพียงแต่ในข่าว และเห็นว่าจะมีหลายพรรคตามมาอีก ก่อนที่นางนฤมลจะหัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า ขอเชิญชวน แต่ไม่รู้ว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร ส่วนจะมี สส.ในพรรคประชาชนตามมาอีกหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่พอมีข่าวออกมาก็เห็นว่า น.ส.กฤษฎิ์จะแถลงวันนี้ถึงความชัดเจนว่าเขาจะตัดสินใจอย่างไร ส่วนจุดยืนของพรรคกล้าธรรมคือ อุดมการณ์ต้องตรงกัน อย่างเวลาลงพื้นที่ไม่ได้โฟกัสว่าเป็นพื้นที่ของ สส.คนไหน หรือต้องเป็นพื้นที่ของพรรคร่วมรัฐบาลเท่านั้น ถ้า สส.ประสานมาไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือหรือรัฐบาล เราก็ไป จุดยืนของเรามีแค่นี้ ตรงไหนที่ทำให้เกิดประโยชน์ได้ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เราก็จะทำ
เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคกล้าธรรมเนื้อหอม โดยนางนฤมลได้ยกแขนตัวเองขึ้นมาดม พร้อมกับหัวเราะและกล่าวว่า เดี๋ยวต้องดม"
เมื่อถามอีกว่า หากจำนวน สส.เพิ่มขึ้นเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคกล้าธรรมจะต้องเพิ่มขึ้นหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกันเลย อย่างที่ทุกคนเข้าใจเมื่อจัดตั้งรัฐบาล สัดส่วนเขาตกลงกันไปแล้ว ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรระหว่างทางคงต้องคุยกันใหม่หมดเลย อย่างที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เคยได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่านั่นไม่ใช่เป้าประสงค์ในการเจรจาต่อรอง แต่เราต้องการสร้างบ้านให้เข้มแข็ง หากคนที่มีอุดมการณ์ตรงกันอยากมาทำงานด้วยกันเราก็เปิดกว้างเสมอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ยังมีคนติดต่อมาอยู่เรื่อยๆ ใช่หรือไม่ นางนฤมลยอมรับว่ามี ซึ่งต้องค่อยๆ คุยกันไป โดยมีมาทั้งแบบกลุ่มและมาเป็นเพียงตัวบุคคล น่าจะเกิน 10 คน
เมื่อถามถึงกรณีข้อครหาว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อน นางนฤมล กล่าวว่า เราไม่ได้ไปชวนหรือไปดูดอะไรมาทั้งสิ้น เป็นเรื่องของการทำงาน แต่เราต้องฟังว่าเขาจะแถลงอย่างไร เมื่อเขามาคุยกับเรา มาคุยกับ สส.ในพรรคเราว่าเขามีความรู้สึกอย่างไรแล้วค่อยมาคุยกันในระดับผู้บริหารพรรค แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกัน
เมื่อถามถึงกรณีมี สส. พรรคประชาชนออกมาแฉว่า มีการจ่ายเงิน 55 ล้านบาท และให้เงินเดือนอีก 2.5 แสนบาท รวมถึงรถประจำตำแหน่ง นางนฤมล กล่าวว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไร ไม่ใช่แน่นอน
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าว นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ จะย้ายมาสังกัดพรรคกล้าธรรม นางนฤมล กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายสุชาติ อย่างที่ตนเคยบอกหากแนวทางการทำงานตรงกัน ตอนนี้ยังไม่ได้มีการหารือเท่านั้น เราไม่ได้ปิดกั้น และเปิดกว้างสำหรับคนที่อยากมาร่วมงานกับเรา ทำงานแนวเดียวกับเราในการช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของเราหรือไม่ เป็นฝ่ายค้านเป็นรัฐบาลก็พร้อมที่จะทำงาน
เมื่อถามถึงกระแสข่าว ร.อ. ธรรมนัส มีปัญหาไม่ลงรอยกับนายสุชาติ นางนฤมล กล่าวว่า น่าจะเป็นความเข้าใจผิดที่ผ่านมา
วันเดียวกัน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว สส.หลายคนของพรรค รทสช. จะย้ายออกไปอยู่กับพรรคอื่น ว่า เท่าที่ตนได้พูดคุยกับ สส.ของพรรคที่ขณะนี้อยู่ระหว่างปิดสมัยประชุมสภา หลายคนได้ไปร่วมภารกิจกับการเลือกตั้งท้องถิ่น ถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดี และหลายคนอาศัยช่วงเวลาปิดสมัยประชุมลงพื้นที่ทำงานให้กับประชาชน เท่าที่ได้สัมผัสทุกคนมีความตั้งใจทำงานการเมืองกับพรรค รทสช.ต่อไป และโดยผู้บริหารเองยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค ไม่ให้ความสำคัญกับความขัดแย้งทางการเมืองมากไปกว่าการเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน จะเห็นได้จากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรคและตนที่รับผิดชอบ 2 กระทรวง ไม่ว่าจะมีแรงเสียดทาน แรงท้าทายเรื่องอะไรเราก็เดินหน้าทำงานต่อไป และหวังว่าประชาชนจะเห็นความตั้งใจตรงนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช.เตรียมจะย้ายไปอยู่กับพรรคกล้าธรรม ได้มีการพูดคุยกับนายสุชาติหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเลยจริงๆ ตนคิดว่าอย่าต้องมากังวลกับผู้บริหารของพรรคเลย ตนเรียนกับทุกคนเลยว่า เมื่อไหร่พรรคการเมืองทุกพรรคยึดมั่นในอุดมการณ์ ทำงานให้ผลงานเป็นที่ปรากฏ ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว มีคนไปก็มีคนมา ตนจะบอกว่าพรรค รทสช.อยู่ได้ด้วยอุดมการณ์ ไม่ได้อยู่ได้ด้วยการนำผลประโยชน์ กองกำลัง หรือการจับกลุ่มก้อนมาตั้งกองกำลัง ซึ่งไม่ใช่ พรรคต้องอยู่ได้ด้วยอุดมการณ์และผลงานที่ปรากกฎต่อสาธารณชน
เมื่อถามว่า ได้มีการตั้งรับกรณีที่หัวหน้าพรรค รทสช.ถูกร้องตรวจสอบหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า เท่าที่ตนได้คุยกับนายพีระพันธุ์ก็ได้เตรียมพร้อมในการไปชี้แจงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกเรื่องที่ถูกตั้งคำถามอยู่ในเวลานี้ และตนมั่นใจว่านายพีระพันธุ์สามารถชี้แจงเคลียร์ได้ทุกเรื่อง หลายเรื่องตนไม่ต้องไปถามนายพีระพันธุ์ ซึ่งเป็นความเห็นในฐานะที่เราเองเป็นผู้ดำรงตำแหน่งเช่นเดียวกัน ไม่มีสิ่งที่น่าเป็นห่วง ทุกคนในพรรค รทสช.ก็สนับสนุนนายพีระพันธุ์เต็มที่ ทั้งการชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ รวมถึงการทำงานด้วย ทุกคนให้กำลังใจ
เมื่อถามอีกว่า ได้มีการวิเคราะห์กรณีที่มีการร้องเรียนนายพีระพันธุ์ในช่วงที่ผ่านมามีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือไม่ นายเอกนัฎ กล่าวว่า จะเอาเวลาที่ไปไหนไปวิเคราะห์ ปกติคุยกับหัวหน้าพรรคก็รายงานแต่งานที่ทำ ภารกิจเยอะครับ ไม่มีเวลาได้พักได้ฉุกคิดเรื่องอย่างอื่น
วันเดียวกัน นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า ทางพรรคภูมิใจไทยออกมาชี้แจงชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เนื่องจากเป็นการพิจารณาร่วมกัน โดยในวาระที่ 1 ทุกพรรคการเมืองควรจะเห็นไปในแนวทางเดียวกัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้าไปสู่ขั้นตอนของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ส่วนการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ได้มีการพูดคุยกันมาตลอด และเท่าที่ตนติดตามข่าว พรรคภูมิใจไทยมีการชี้แจงแล้วว่าจะไม่มีการคว่ำงบอย่างแน่นอน