วันที่ 14 พ.ค.68 นายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล ว่าที่นายกเทศมนตรีเมืองบางกะดี ได้เดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (ไซเบอร์) เมืองทองธานี พร้อมนำหลักฐาน ไปมอบให้กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ผู้ที่นำภาพไปลงใน TikTok ให้รับโทษตามกฎหมาย
นายธวัชชัย กล่าวว่า วันนี้ตนได้นำหลักฐานเอกสาร มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ดำเนินคดี กับพวกนักเลงคีย์บอร์ดและบุคคลที่นำภาพตนไปลงใน TikTok โดยมีใจความว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 ตนได้พบเห็นผู้ใช้บัญชี TikTok รายหนึ่ง ได้กระทำโดยการนำชื่อรูปถ่ายของตนไปโพสต์ลงในช่อง TikTok โดยมีข้อความ “นายก อู๋ นายกเทศบาลบางกะดี ใช้เงินเทศบาลพาเมียเที่ยวเมืองนอกแบบฉ่ำๆๆ สบายๆๆ ใช้เงินงบใช้เงินเทศบาลแบบมือเติบๆกันเลย รอบนี้คงไม่มีคนเลือกแน่นอน!!” ซึ่งข้อความดังกล่าวของผู้กระทำความผิดนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งการกระทำความผิดดังกล่าวนั้นส่งผลให้ตนได้รับความเสียหายในชื่อเสียงเป็นอย่างมาก วันนี้ตนจึงได้รวบรวมหลักฐานเอกสารต่าง ๆ มามอบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่นำภาพตนไปลงใน TikTok และในโซเชียลต่างๆ โดยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายธวัชชัย ยังกล่าวอีกว่า ตนขอชี้แจงว่าการที่ตนไปต่างประเทศนั้น คือเมื่อต้นปีที่แล้ว ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จัดการอบรมให้กับผู้บริหารท้องถิ่น ในหลักสูตรพัฒนาเมือง ตนจึงได้สมัครเข้าไปฝึกอบรมและในหลักสูตรนี้จะต้องไปศึกษาดูงานที่ประเทศเยอรมนี ก็สนใจจึงได้สมัครเข้ารับการอบรม ที่นี้ก็เลยอยากพาภรรยาไปด้วย เพราะภรรยาไม่เคยไปประเทศเยอรมนี โดยได้สอบถามทางผู้จัดการหลักสูตรว่า นอกเหนือจากผู้บริหารแล้ว ให้ผู้ติดตามคนอื่นไปได้หรือไม่ เมื่อเขาแจ้งมาว่าไม่ได้ จะได้เฉพาะผู้บริหารเท่านั้น โดยผู้บริหารไม่ว่าจะเป็นนายก รองนายก หรือเลขา สามารถไปอบรมได้ ดังนั้นจึงแต่งตั้งภรรยาเป็นเลขานุการ ส่วนตัวของนายก เพราะถือว่าไม่ได้เป็นการผิดกฎระเบียบ จึงได้พาภรรยาไปด้วย แต่ในการไปครั้งนี้ตนแต่งตั้งภรรยาก็จริงแต่ไม่ได้ใช้เงินของทางเทศบาลเลย ใช้เงินส่วนตัว สำหรับการพาภรรยาไปเอง นี่คือที่มาที่ไป ดังนั้นตนจึงนำหลักฐานที่ตนไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ กรณีที่มีเพจหรือ TikTok มากล่าวหาตน โดยนำภาพลง TikTok ต่างๆ มาโจมตีตนซึ่งเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น ที่ทำให้ตนเสียหาย จึงได้ไปแจ้งความ ว่าการกระทำของคนที่นำไปลงนั้นถือว่าเป็นการโจมตีตน
"ผมขอยืนยันว่าผมอยู่ในสายผู้บริหารท้องถิ่นมา 26 ปีเต็ม ผมไม่เคยทุจริต ผมไม่เคยโกงแผ่นดินกิน ผมไม่เคยถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ผมไม่เคยถูก ส.ต.ง.ชี้มูลความผิด ผมได้รับ รางวัลเกียรติยศมาโดยตลอด ผมไม่เคยใช้รถหลวง ไม่เคยใช้น้ำมันหลวง เพราะฉะนั้นการที่เขาทำแบบนี้ เขาไม่รู้ว่าจะหาข้อมูลความผิดอะไรผม เขาจึงเอาตัวนี้มาโจมตีผมในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งมันเป็นเท็จครับผมจึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ดำเนินตามกฎหมายต่อไป ส่วนใครจะอยู่เบื้องหลังนั้นผมคิดว่ามี แต่เรายังหาตัวตนไม่ได้เพราะเขาไม่กล้า โดยใช้คลิปหรือ tiktok รายนี้นี้ทุกคนย่อมรู้และรู้ว่ามันมาจากไหน เขาไม่แน่จริงถ้าแน่จริงเขาลงชื่อมาเลย การมากล่าวหากันแบบนี้เขาเรียกว่า”คนไม่แน่จริง” เป็นเพราะผมไม่มีแผลให้เขาตีผมไม่เคยทุจริต และในชีวิตผมไม่เคยทำธุรกิจสีเทา ไม่เคยรับส่วยใคร ไม่เคยรับเงินส่วย ไม่เคยทำธุรกิจสีเทา ไม่ว่าจะเป็นหวย บ่อน โต๊ะพนันบอลใด ๆ ทั้งสิ้น แม้เรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยว ผมกับน้องชายผม (ส.ส.สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล) หรือ สส.ฮะ คนปทุมรู้ดีว่าผม 2 คนสีขาวครับ" นายธวัชชัย กล่าว