อาจารย์ยอด เน็ตไอดอลดัง โร่มอบตัว แสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังตกเป็นผู้ต้องหาปล้น รับอยู่ในเหตุการณ์จริง โดนจ้างให้ไปเป็นบอดี้การ์ด ตัดพ้อแค่อยากทำงานสุจริต

กรณี สืบสวนภาค 8 รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวสัญชาติออสเตรเลียว่า ถูกเพื่อนร่วมชาติร่วมกันปล้นทรัพย์ เป็นเงินสดและเงินคริปโต รวม 21 ล้านบาท แถมยังถูกข่มขู่ คนก่อเหตุเป็นหัวหน้าแก๊งกลุ่มมาเฟียในออสเตรเลีย เกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย ผู้เสียหายระบุว่า มีคนร้าย 4 คน นำโดยนายบิลลี่ บุกไปที่บ้านพักวิลล่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ สภ.ฉลอง จว.ภูเก็ต บังคับโดยใช้ปืน ให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชี นายบิลลี่ 2 ล้าน และเอาเงินสดไปเพิ่มเติมอีกรวม 10.5 ล้านบาท ขู่ไม่ให้แจ้งความ

จนเมื่อเดือน ม.ค.68 ผู้เสียหายไปพักอยู่ที่เกาะสมุย นายบิลลี่ ส่งคนไทยกลุ่มหนึ่งไปติดตามผู้เสียหายและบังคับให้โอนเหรียญบิตคอย จำนวน 2.8 เหรียญไปให้ นายบิลลี่ อีก รวม 2 ครั้ง คิดเป็นค่าเสียหายประมาณ 21 ล้านบาท

จนกระทั่ง วันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนภาค 8 ร่วมกันจับกุมตัว นายบิลลี่ หรือ นายวาสิลิออส สัญชาติออสเตรเลีย ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต และศาลจังหวัดสมุย โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันปล้นทรัพย์ที่ภายในบ้านหรู ที่มีการเลี้ยงสิงห์โต ขนาดใหญ่ 2 ตัว ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง จว.ภูเก็ต ดำเนินคดี ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ นายมงคล อายุ 41 ปี หรืออาจารย์ยอด เน็ตไอดอลชื่อดัง ที่มีผู้ติดตามบนสังคมโซเชียล เป็นจำนวนมาก เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองพัทยา หลังทราบว่า ตนตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุย ในฐานความผิดร่วมกันปล้นทรัพย์ ที่สภ.เมืองพัทยา พร้อมกับน้องและนักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ รวม 2 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

นายมงคล อายุ 41 ปี หรืออาจารย์ยอด เปิดเผยว่า ตนเองตกใจที่ต้องตกเป็นผู้ต้องหา โดยที่ตนไม่ได้กระทำความผิดแต่อย่างใด ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ตนยอมรับว่าอยู่ในเหตุการณ์จริงที่เกาะสมุย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ว่าจ้างให้ตนไปเป็นบอดี้การ์ดดูแลความปลอดภัย โดยไม่ได้แจ้งรายละเอียดว่าไปเรื่องอะไร

และในวันดังกล่าวก็ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ ขึ้น พร้อมทั้งโชว์หลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ ที่บันทึกภาพขณะอยู่หน้าบ้านและภายในบ้านกับกลุ่มผู้เสียหาย พร้อมกับหมาพันธุ์ดุ ส่วนรายละเอียดในการพูดคุยของกลุ่มชาวต่างชาตินั้น ไม่รู้รายละเอียด แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ตนมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และขอความเป็นธรรมให้กับตนเอง ซึ่งตนนั้นเพียงอยากจะทำงานสุจริตด้วยการรับว่าจ้างไปเป็นเพื่อนกลุ่มชาวต่างชาติ เพื่อดูแลความปลอดภัยและเพื่อนเที่ยวเท่านั้น ส่วนน้องชายคนไทยและชาวต่างประเทศ ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นก็จะเดินทางไปเป็นพยานกับพนักงานสอบสวน สภ.ที่เกิดเหตุต่อไปด้วย