ดื่มเหล้าเถื่อน เพราะมันถูก แต่มันเสี่ยงต่อชีวิต!
(14 พ.ค.68) สื่อต่างประเทศ tribuneindia ได้ออกมาโพสต์แจ้งข่าวเกี่ยวกับ ชาวอินเดียที่เสียชีวิตแล้ว 14 ราย จากการ “ดื่มเหล้าเถื่อน” และยังมีอีก 6 รายที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในอาการวิกฤต โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ หมู่บ้านใกล้เมืองอัมริตสา ในรัฐปัญจาบทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งสื่อต่างประเทศได้ออกมาอธิบายเพิ่มว่า ทำไมเหล้าเถื่อนถึงยังเป็นที่ต้องการในปัญจาบ?
การเสียชีวิตจากการดื่มเหล้าเถื่อนอย่างผิดกฎหมายในหลายพื้นที่ของปัญจาบและการบริโภคที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนจน บ่งชี้ถึงข้อบกพร่องของรัฐบาลในการรับรองเหล้าราคาถูกให้กับประชาชนในรัฐ ด้วยราคาเหล้าที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้คนจนไม่มีทางเลือกอื่น
ด้านเจ้าหน้าที่สรรพสามิตได้กล่าวว่า เนื่องจากรัฐมีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ แต่พื้นที่บางแห่งกลับลืมคำสัญญาที่มีต่อคนจนในรัฐที่ติดเหล้าและมีรายได้น้อยที่สุด ซึ่งคนจนเหล่านี้ก็มีทางเลือกแค่เหล้าเถื่อนหรือเหล้าทำเองเป็นวิธีที่ง่ายและราคาถูกที่สุด ซึ่งข้อมูลที่รวบรวมโดย The Tribune เผยให้เห็นว่าเบียร์หนึ่งขวดใน รัฐปัญจาบ มีราคาไม่ต่ำกว่า 200 รูปีต่อขวด ในขณะที่เหล้าปัญจาบขนาดกลางมีราคาเริ่มต้นที่ 275 ถึง 290 รูปีต่อขวด ในขณะที่วิสกี้เกรดต่ำสุดเริ่มต้นที่ 410 รูปีต่อขวด
ทั้งนี้ ผู้รับเหมาผลิตสุรา เผยว่า ในปี 2543 ผู้รับค่าจ้างรายวันจะมีรายได้เฉลี่ย 300-350 รูปี เขาสามารถใช้เงินจำนวนมากถึง 30 รูปี เมื่อรัฐบาลชุดต่อมาเล็งที่จะเพิ่มรายได้และความโลภทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้น ผู้รับเหมาผลิตสุราจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขึ้นราคา ปัจจุบันเมื่อผู้รับค่าจ้างรายวันมีรายได้ 550-600 รูปี เหล้าหนึ่งขวดจะมีราคาประมาณ 300 รูปี การกำหนดราคาแบบนี้เปิดโอกาสให้ทดลองใช้เหล้าที่ผลิตในประเทศราคาถูก ซึ่งมักเรียกว่าเหล้าแสงจันทร์หรือเหล้าเถื่อน
อดีตเจ้าหน้าที่ IPS กล่าว ผู้ค้าสุราเถื่อนตอบสนองความต้องการแอลกอฮอล์ราคาถูกอย่างต่อเนื่องในหมู่ผู้เสพและผู้ติดสุราเป็นประจำ และอุตสาหกรรมผิดกฎหมายเติบโตได้ก็เพราะเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในระดับท้องถิ่นอนุญาตให้ทำแบบนั้น มีการเรียกสินบนรายสัปดาห์เพื่อแลกกับการปล่อยให้มีการผลิตสุราเถื่อน และการบุกจับจะเริ่มขึ้นก็ต่อเมื่อมีการสั่งการจากคนตำแหน่งสูงเท่านั้น การปราบปรามสามารถทำได้เสมอหากต้องการแต่ธุรกิจนี้ทำกำไรได้มากและมีอัตราการหมุนเวียนสูงมากนั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลเเละภาพจาก เว็บไซต์ tribuneindia , ซินหัว