นักเมือง นักเศรษฐศาสตร์ ดีกรีอดีตรัฐมนตรี ชอบอ่านนิยายกำลังภายใน เล่นเกม ปลูกดอกกุหลาบ โลดแล่นเป็นคนแบงก์ชาติตั้งแต่ได้ทุนเรียนด็อกเตอร์ ทำงานในรั้ววังบางขุนพรหมถึง 14 ปี เปิดตัวเป็นผู้สมัคร ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็นนักเศรษฐศาสตร์ ที่ครบเครื่อง อยู่ในความคาดหมายของนักวิเคราะห์การเงิน-การเมือง ว่าชื่อของเขาจะเป็นแคนดิเดต 1 ใน 5 คน ที่จะลงชิงตำแหน่งประมุขแห่งผู้กำหนดเกมนโยบายการเงินของชาติ
ประกอบกับที่ผ่านมาชื่อ “กอบศักดิ์” มักปรากฏในเวทีใหญ่ด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยเก็บตัว และออกสื่อตามวาระที่เขาเป็นผู้กำหนดประเด็นเท่านั้น
ล่าสุด 15 พฤษภาคม 2568 “กอบศักดิ์” ประกาศว่า “ตอนนี้ผมกำลังรวบรวมเอกสารเพื่อทำใบสมัครเพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่” ตอกย้ำที่ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ เขาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สั้น ๆ แต่เพียงว่า “ให้รอก่อน” และทิ้งท้ายประโยคว่า “เป็นเรื่องของการเมือง”
นายกอบศักดิ์ อายุ 57 ปี (เกิด 23 สิงหาคม 2511) เติบโตมากับคุณแม่-คุณย่า เข้าเรียนที่เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ แล้วต่อด้วยเตรียมอุดมศึกษา ระหว่างนั้นทำให้เขาหลงรักห้องสุด เข้าไปอ่านหนังสือวันละ 2-3 เล่ม เฉพาะอย่างยิ่งหนังสือนวนิยายจีนกำลังภาย อ่านจนหมดห้องสมุด สลับกับงานเขียนอารมณ์ดีที่หล่อหลอมให้เขาเป็นคนช่างหัวเราะ อย่าง ป.อินทรปาลิต พล นิกร กิมหงวน รวมทั้ง ว.ณ เมืองลุง
เข้าเรียนระดับปริญญาตรีด้านคณิตศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ที่ Williams College สหรัฐอเมริกา และจบปริญญาเอกจาก MIT-Massachusetts Institute of Technology ด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค-เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ด้วยทุนแบงก์ชาติ
จากนั้นกลับมาทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทยง 14 ปี มีประสบการณ์ด้านนโยบายเศรษฐกิจมหภาคและระบบการเงิน เคยถูกยืมตัวไปทำงานที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บนตำแหน่งผู้บริหารสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ดูแลด้านงานวิจัย และผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดูแลฝ่ายพัฒนากลยุทธ์
จากนั้นกลับมาทำงานแบงก์ชาติอีกรอบ ต่อจากนั้นตัดสินใจลาออกจากวงการการเงินภาครัฐ เข้าสู่ธนาคารพาณิชย์ ในตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นเวลา 5 ปี
ชีวิต “กอบศักดิ์” เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อถูกทาบทามให้เข้าสู่ “วงการเมือง” จากทีมที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ขึ้นชั้นเป็น “ผู้ช่วยรัฐมนตรี” และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ราวปีกว่า ๆ แน่นอนว่า วงการนี้เข้าแล้วออกไม่ง่าย เมื่อถึงฤดูเลือกตั้งปี 2562 เขาขยับเป็น “โฆษก” ประจำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
หลังพรรค พปชร.ชนะเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี สมัยที่ 2 แต่ “กอบศักดิ์” ไม่ได้ไปต่อ เขาและทีมรัฐมนตรี ที่สื่อมวลชนให้ฉายาว่าเป็น “กลุ่ม 4กุมาร” โบกมือลาออก จากพรรคและพ้นจากตำแหน่งทั้งทีม
หลังจบภารกิจการเมือง กอบศักดิ์ แจ้งสถานะต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ว่า “ยังโสด” ทว่าเขาเคยกล่าวกับคนใกล้ชิดในยุคอยู่ทำเนียบรัฐบาลว่า “มีลูกบุญธรรม” และครอบครองทรัพย์สินถึง 51 ล้าน บาท ทั้งเงินฝาก เงินลงทุน 12 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นกองทุน ที่ดิน 7 แปลง บ้าน-ห้องชุด 2 แห่ง รถ-เปียโน และพระเครื่อง
ออกจากเมืองไม่นาน “กอบศักดิ์” เทศกาลสงกรานต์ ปี 2565 เขากลับไปประจำการที่ธนาคารกรุงเทพ ในตำแหน่ง กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ จากนั้นในปีเดียวกันเขาถูกเลือกเป็น ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย
ชื่อ “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” เข้าสู่ลู่แข่งขัน การเป็นผู้สมัคร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มาตั้งแต่ก่อนการตั้งกรรมการสรรหา ที่มี นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ เป็นประธาน
ต้นปี 2568 ราวกลางเดือนกุมภาพันธ์ ชื่อของเขาถูกเปิดขึ้นกลางวงงานแถลงข่าวใหญ่ ที่มีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมงานด้วย ในวันนั้น นายพิชัย ชูชื่อกอบศักดิ์ ขึ้นมาว่า “ประเทศไทยยังมีปัญหาสำคัญนั่นคือ ปัญหาหนี้ครัวเรือน ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) รู้ปัญหานี้ดี ดังนั้น เราจึงควรเลือกให้ดร.กอบศักดิ์ มาเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อให้เข้ามาแก้ไขปัญหานี้”
ในวันนั้น “กอบศักดิ์” วางลีลาเชิงมวยแบบถีบ ๆ ถอย ๆ ตอบผู้สื่อข่าวว่า “เอาไว้ใกล้ๆ ก่อน”
ก่อนหน้านี้ 2 ปี “กอบศักดิ์” เคยเป็นแคนดิเดตเลขาธิการ ก.ล.ต. แต่แล้วก็ไม่ได้เข้าสู่ลู่แข่งขัน
ในวันนี้ (15 พ.ค.68) หลังจาก “กอบศักดิ์” ประกาศลงสมัครขิงตำแหน่ง ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ บุคคลที่เคยมีอิทธิพลทางความคิดกับเขา และปลุกปั้นเขาเข้าสู่วงการอำนาจการเมือง อย่าง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมตรี กล่าวถึงเขาว่า “He is a good guy”
กอบศักดิ์ เคยพูดถึงงานอดิเรกที่เป็นรูทีนในชีวิต ว่า “ผมชอบปลูกต้นไม้มาก ความรักความชอบคือต้นไม้ทั้งหมด ซึมชับมาจากคุณย่าที่ชอบปลูกต้นไม้เหมือนกัน ตอนเด็ก ๆ จำได้ว่าคุณย่าชอบพาไปสวน ไปเก็บผัก แล้วปลูกต้นไม้ตามสวนต่าง ๆ จนตอนนี้ที่บ้านผมเนื้อที่ 200 ตารางวาได้ปลูกต้นไม้เต็มไปหมด กลายเป็นบ้านสวน โดยเฉพาะต้นกุหลาบมีประมาณ 300 พันธุ์ 300 ต้น ที่ผมปลูกและเฝ้าเลี้ยงดูจนออกดอก
“ทุกวันนี้ผมดูแลรักษาเองหมด สวนกุหลาบของผมมีหลายร้อยต้น ฟันฝ่ามาได้ 1 ปีพอดี เพลี้ย เพลี้ยไฟ ไรแดง เชื้อรา สารพัดอย่างที่เข้ามาทำลาย กุหลาบของเราเป็นคุณหนูมาก ๆ ต้องดูแล เราทำตามธรรมชาติ เพลี้ยแม้จะแก้ยาก แต่เราก็ไม่ใช้สารเคมี กุหลาบที่ปลูกเป็นกุหลาบที่นิยมนำไปจัดช่อขายกัน”
“ตื่นเช้ามาก็ต้องดูแลบริบาล คอยตัดดอกแล้วเอาไปถวายพระ ในช่วงวันหยุดวันอาทิตย์ตอน 7 โมงเช้าก็เริ่มขุดดินแล้ว ผมชอบกุหลาบ ดอกเค้าสวย”
ไม่ใช่แค่ดอกกุหลาย “กอบศักดิ์” ยังรักต้นไม้-ไม้ดอกอย่างอื่น ตามแนวทางของคุณพ่อ “คุณพ่อชอบไม้ผล มะม่วง ขนุน มะขาม มะยม มะเฟือง รวมถึงลำไย ส่วนตัวผมชอบไม้ดอก นอกจากกุหลาบ ก็มีดอกแก้ว ลัดดาวัลย์ พวงประดิษฐ์ หิรัญญิการ์”
เส้นทางสู่การเป็น “ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่” แม้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ชื่อ “กอบศักดิ์” ถูกประเดิมด้วยการพูดถึงจากคนในรัฐบาล และผู้มีอุปการคุณ หลายกรรม-หลายวาระ ชื่อของเขาไม่เพียงเป็นตัวเต็ง แต่อาจได้ใกล้เข้าป้ายมากที่สุด ก็เป็นไปได้