นายกฯ หารือ นายกฯเวียดนาม ถก JCR ร่วมแก้อาชญากรรมข้ามชาติ ยกระดับทุกมิติ
ข่าวสด May 16, 2025 02:20 PM

นายกฯ หารือทวิภาคีนายกฯเวียดนาม ยกระดับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน ถก JCR ไทย-เวียดนาม ร่วมแก้อาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งคอล ยาเสพติด ร่วมมือดูแลความปลอดภัยทางทะเล เปิดมิติใหม่ ทั้งการค้า การท่องเที่ยวและสนับสนุนส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน พร้อมร่วมกันรับ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 พ.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาลเวียดนาม กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ (H.E. Mr. Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม จัดขึ้นอย่างสมเกียรติในโอกาสการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะนายกรัฐมนตรี

จากนั้น ทั้งผู้นำสองฝ่ายได้หารือทวิภาคี โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ร่วมหารือกระชับความสัมพันธ์ เพื่อผลักดันความร่วมมือในทุกมิติระหว่างสองประเทศ

โดยนายกฯและนายกฯเวียดนาม ยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันในการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน และหารือกันอย่างกว้างขวางทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาการแลกเปลี่ยนระดับสูงระหว่างสองประเทศอย่างสม่ำเสมอ และเห็นพ้องกับไทยในการส่งเสริมกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคง

การส่งเสริมเติบโตของการค้าไทย–เวียดนามที่สมดุลมากขึ้น พร้อมสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนไทยในเวียดนาม ซึ่งนายกฯ เวียดนามยินดีส่งเสริมการลงทุนกันและกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมถึงแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับประเด็นภูมิภาค

ต่อมาเวลา 10.00 น. น.ส.แพทองธาร และนายกฯเวียดนาม ร่วมเป็นประธานประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการไทย–เวียดนาม หรือ Joint Cabinet Retreat (JCR) ครั้งที่ 4 โดยมีรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วม

ทั้งนี้ นายกฯ เวียดนาม กล่าวชื่นชมการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของนายกฯว่าอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะปัจจุบันภูมิรัฐศาสตร์โลกมีความท้าทาย จากระเบียบโลกรูปแบบเดิมกำลังจางหายไป ขณะเดียวกันระเบียบโลกใหม่ก็ยังไม่ชัดเจน ไทย-เวียดนาม จึงต้องร่วมมืออย่างรอบด้าน วันนี้ทั้งสองฝ่ายจะได้หารือ เพื่อกระชับความร่วมมือความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วย

ด้านน.ส.แพทองธาร กล่าวเปิดการประชุม โดยยินดีที่ได้เยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรก และได้ร่วมเป็นประธานการประชุม JCR ครั้งที่ 4 นี้ ถือเป็นกลไกความร่วมมือพิเศษเฉพาะระหว่างไทยกับเวียดนาม ซึ่งเป็นการริเริ่มของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และสานต่อโดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก่อนจะถึงครั้งนี้ สะท้อนความตั้งใจต่อเนื่องในการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย–เวียดนาม

นายกฯ ยังชื่นชมเวียดนามที่มีการเติบโตอย่างรุดหน้าจากการพัฒนา ซึ่งรัฐบาลนี้ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และสนใจโมเดลการพัฒนา“คน” ของเวียดนามด้วย ยินดีทั่ทั้งสองฝ่ายมีเป้าหมายผลักดันมูลค่าการค้าทวิภาคีให้ถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเร็วด้วย

ในการประชุม รัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้รายงานผลการหารือและข้อเสนอแนะ ในประเด็นสำคัญ 3 เสาหลัก ได้แก่ ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ และด้านสังคมและประชาชน ดังนี้

ด้านการเมืองและความมั่นคง รมว.ต่างประเทศ เสนอให้จัดทำ “แผนปฏิบัติการภายใต้หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน” (Strategic Plan of Action) ภายในปีนี้ การจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือระดับสูง ระหว่างผู้บัญชาการทหารสูงสุดไทยและเวียดนาม รวมถึงการเร่งรัดความร่วมมือในการต่อต้านยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ online scam และการทำประมงผิดกฎหมาย โดยเวียดนามยินดีสนับสนุนแนวทางเหล่านี้และเห็นชอบผลักดันกลไกเพื่อสร้างความมั่นคงร่วมกันระยะยาว

ด้านเศรษฐกิจ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวขอบคุณเวียดนามที่สนับสนุนการขนส่งผลไม้ไทยข้ามพรมแดน เพื่อส่งออกไปยังจีน ซึ่งไทยขอเสนอให้เร่งรัดการเจรจาเปิดตลาดการค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการค้า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ควบคู่กับการขยายระบบนิเวศเพื่อการใช้ระบบชำระเงินผ่าน QR Code และการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น

ขณะที่เวียดนามเห็นชอบในการเพิ่มห่วงโซ่การผลิตร่วมกัน และยินดีสนับสนุนการส่งออกสินค้าไทยไปจีนโดยผ่านเวียดนาม พร้อมเสนอให้ไทยเพิ่มการลงทุนในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ เช่น การเกษตรและวิทยาศาสตร์การเกษตร โลจิสติกส์ ค้าปลีก รวมทั้งผลักดันระบบการเชื่อมโยงธนาคารและระบบชำระเงินผ่าน QR Code เชื่อว่าจะสนับสนุนการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างกันด้วย

ด้านสังคมและประชาชน รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เสนอการเชื่อมโยงทั้งสองประเทศอย่างไร้รอยต่อ เช่น 6 ประเทศ 1 เป้าหมายการท่องเที่ยว การเดินทางท่องเที่ยวทางรถยนต์หรือ จักรยานยนต์ และ การท่องเที่ยวโดยเรือสำราญ การเชื่อมโยงเที่ยวบินตรงระหว่างเวียดนามกับจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย

รวมถึงการใช้กลไกเมืองคู่มิตรเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระดับท้องถิ่น รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสาขาเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น STEM, AI และเซมิคอนดักเตอร์ โดยเวียดนามกล่าวสนับสนุนการเชื่อมโยงท่องเที่ยว 6 ประเทศ 1 ปลายทางการท่องเที่ยว และจะเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในปลายปีนี้

น.ส.แพทองธาร เน้นย้ำถึงความสำเร็จของ JCR ครั้งนี้ ที่มีการหารืออย่างสร้างสรรค์และครอบคลุม โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานของทั้งสองประเทศนำผลการประชุมไปสานต่ออย่างเร่งด่วน เพื่อเปิดศักราชใหม่ของความเป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้าน” และร่วมกันเสริมสร้างเสถียรภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และความมั่นคงในภูมิภาค

การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันของทั้งสองประเทศที่จะยกระดับความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้งและใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น มุ่งสู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์รอบด้านอย่างแท้จริง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายจะได้สานต่อผลการประชุมต่อไป

โอกาสนี้ นายกฯ ยังเชิญนายกฯ เวียดนามเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปลายปีนี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดแม่โขง–ล้านช้าง ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.