“คัมภีร์เทวดา สิทธิกุล” นักชกดีกรีแชมป์ Road To ONE Thailand ซีซัน 3 จากสุรินทร์ เตรียมพร้อมเต็มพิกัดสำหรับการเปิดตัวไฟต์แรกในฐานะนักกีฬา ONE โดยจะต้องพบกับ “อาเลสสิโอ มาลาเทสตา” จอมแกร่งจากอิตาลี ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในฐานะคู่เอกภาคอินเตอร์ ศึก ONE ลุมพินี 109 ที่จะถ่ายทอดสดไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 23 พ.ค.นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.

สำหรับ “คัมภีร์เทวดา” เริ่มฝึกฝนมวยไทยมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ก่อนจะเดินหน้าแข่งขันในกติกามวยไทย 5 ยก และพัฒนาฝีมือของตัวเองมาตลอดหลายปี จนกระทั่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาตัดสินใจหันมาเอาดีทางด้านมวยไทย 3 ยก และสามารถประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ในรายการ Road To ONE Thailand ซีซัน 3 พร้อมรับสัญญานักกีฬาของ ONE มูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.4 ล้านบาท) มาครองได้สำเร็จ 

“คัมภีร์เทวดา” กับเข็มขัดแชมป์เส้นแรกในชีวิต

ไฟต์นี้คือการเปิดตัวครั้งแรกในฐานะนักกีฬา ONE ของ “คัมภีร์เทวดา” ซึ่งเขาจะต้องเจอกับนักชกกระดูกแข็งอย่าง “อาเลสสิโอ” ที่ผ่านการชกในรายการนี้มาแล้ว 4 ครั้ง และปราบน็อกยอดฝีมือไปแล้ว 2 ราย รับโบนัส 350,000 บาท มาแล้ว 2 ก้อน รวมเป็นเงิน 700,000 บาท (เจ็ดแสนบาท) 

อย่างไรก็ตาม ไฟต์ล่าสุดเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา “อาเลสสิโอ” ต้องพลาดท่าถูก “อับดุลลา ดายาคาเอฟ” กดน็อกตั้งแต่ยกแรก ในศึก ONE ลุมพินี 96 ทำให้การกลับมาครั้งนี้เขาต้องการสยบฝีมือแชมป์ Road To ONE Thailand คนล่าสุดเพื่อแจ้งเกิดให้ได้อีกครั้ง
แน่นอนว่าทาง “คัมภีร์เทวดา” ก็รู้ดีว่าต้องเจอกับงานหนักตั้งแต่ไฟต์เปิดตัว แต่เขาแสดงความมั่นใจในตัวเองว่าสามารถจะสยบความแกร่งของคู่ต่อสู้ได้อย่างแน่นอน

อาเลสสิโอ มาลาเทสตา

“สำหรับ อาเลสสิโอ เป็นนักมวยที่แข็งแกร่งมาก เขาหมัดหนัก เป็นนักชกต่างชาติที่มีประสบการณ์สูงในมวยไทย ไม่แพ้คนไทย ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายระดับหนึ่ง แต่ผมมั่นใจในความสามารถที่มีว่าจะสามารถผ่านเขาไปได้”

“การขึ้นชกในรายการ ONE ครั้งแรก ผมเตรียมตัวมาอย่างเต็มที่ เพราะเคยมีประสบการณ์กับนวมเล็กมาแล้วจากเวที Road To ONE ผมรู้ว่าต้องรับมืออย่างไร และพร้อมสำหรับความท้าทายครั้งนี้”

“ที่ผ่านมาเหล่าบรรดาเพื่อน ๆ แชมป์ Road To ONE ซีซัน 3 เปิดตัวใน ONE ลุมพินี ไม่ชนะเลย (กาเบรียลเล โมราม และ พญาครุฑ เสือจันถกมวยไทย) ผมก็คาดหวังว่าจะเป็นคนแรกที่คว้าชัยชนะในรายการนี้ได้”

“ผมตั้งใจจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงฝีมือ ความสามารถ และความมุ่งมั่นที่มีอยู่เต็มร้อย แน่นอนว่าผมมีเซอร์ไพรส์เตรียมไว้ให้แฟนมวยได้ตื่นเต้นกันแน่นอน ฝากทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้ ‘คัมภีร์เทวดา’ ด้วยนะครับ สัญญาผมจะไม่ทำให้ผิดหวัง”

แฟนกีฬาชาวไทยสามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทาง Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น. ส่วนทางช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น. และสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR