จับกลางกรุง หนุ่มตระเวน งัดห้องลักทรัพย์ ทำทีรักแมวให้อาหาร หาเงินเปย์สาวคาราโอเกะ
ข่าวสด May 21, 2025 06:03 PM

จับกลางกรุง หนุ่มตระเวน งัดห้องลักทรัพย์ ทำทีรักแมวให้อาหาร พบเส้นทางเงินโอนเปย์สาวคาราโอเกะ เงินสดกว่า 4.7 หมื่น ทอง ของมีค่าอีกเพียบ ค่ากว่า 3 แสนบาท

เมื่อวันที่ 20 พ.ค.68 พ.ต.ท.ยอดรัก กิตติลัภนะรัตน์ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายสมบัติ หรือ “ต่อ” อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์

พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า แกรน์ฟีลาโน่ สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เงินสดกว่า 47,000 บาท และอุปกรณ์ช่างอีกหลายรายการ จับกุมได้บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ เคหะชุมชนบ่อนไก่ ซอยปลูกจิต 1 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายงัดประตูห้องพักในซอยร่วมพัฒนา 9 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ก่อนขโมยทรัพย์สินรวมถึงเงินในกระปุกออมสินไปกว่า 2,500 บาท จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า แกรน์ฟีลาโน่ สีฟ้า ขี่เข้ามาก่อเหตุ ก่อนหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ารถดังกล่าวสวมทะเบียน จึงติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด กระทั่งทราบว่าคนร้ายไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เปลี่ยนที่หลบซ่อนอยู่เรื่อยๆ คล้ายคนเร่ร่อน จนกระทั่งพบเบาะแสว่าคนร้ายนำรถที่ใช้ก่อเหตุไปจอดไว้ในเคหะบ่อนไก่ เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งช่วงเช้าเวลา 07.00 น. พบผู้ต้องหาเดินมาที่รถ เตรียมออกตระเวนก่อเหตุอีกครั้ง จึงแสดงตัวเข้าจับกุม

จากการตรวจค้นในกระเป๋าพบอุปกรณ์งัดแงะและเงินสดจำนวนหนึ่ง โดยเงินสดกว่า 47,000 บาท พบว่าผู้ต้องหาโอนให้หญิงสาวคาราโอเกะ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามเงินคืนมาได้บางส่วน ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ เช่น ทองรูปพรรณและของมีค่าอีกหลายรายการ ที่ผู้ต้องหานำไปขายหรือจำนำ คาดว่ามีมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามคืน

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เพิ่งพ้นโทษจากคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.บางบอน เมื่อปีที่แล้ว และเคยทำงานเป็น รปภ.ก่อนตกงาน จึงหวนกลับมาก่อเหตุ โดยใช้วิธีขี่รถจักรยานยนต์ ตระเวนหอพัก ทำทีนำอาหารมาให้แมวจรจัด เพื่อไม่ให้คนสงสัย

จากนั้นจึงอาศัยจังหวะลงมืองัดห้องขโมยทรัพย์สิน ก่อนเปลี่ยนป้ายทะเบียนและหลบหนีไปพักตามจุดต่างๆ ใต้สะพานหรือเคหะชุมชน เพื่อให้ยากต่อการติดตาม ส่วนเงินที่ได้จะนำไปใช้จ่ายส่วนตัวและเที่ยวผู้หญิง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การว่าก่อเหตุเพียง 2 ครั้ง เนื่องจากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับเหตุลักทรัพย์ในหลายพื้นที่ ทั้งในเขตนครบาลและปริมณฑล เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา มติชน ภาพบางส่วนจาก สปอร์ตไลท์บางปู

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.