ส.ว.ดิ้นสู้ ยื่นปธ.กกต. โละดีเอสไอพ้นอนุฯ โต้เซ็นใบลาออก อลงกต ไม่รู้ พูลแมนอยู่ไหน
GH News May 21, 2025 06:11 PM

ส.ว.ดิ้นสู้ ยื่น ปธ.กกต. โละดีเอสไอพ้นอนุฯ โต้เซ็นใบลาออก อลงกต ไม่รู้ พูลแมนอยู่ไหน

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นายอลงกต วรกี ส.ว. และ พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย ส.ว. ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมถึงนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เพื่อร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ว่า วันนี้มาเพื่อขอความเป็นธรรม ความชอบธรรมให้กับสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากมองว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการ ทั้งละเมิดระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างร้ายแรง สร้างความเสียหายและละเมิดพื้นฐานของผู้ถูกกล่าวหา

โดยประเด็นข้อร้องเรียน คือ

1.การละเมิดระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความลับทางราชการ โดยการออกหนังสือเชิญไม่ใช่หมายเรียกตาม ป.วิอาญาแจ้งข้อกล่าวหารายละเอียดไม่ชัดเจน ไม่เพียงพอที่จะให้การหรือหาพยานหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาได้ ขัดต่อหลักความเป็นธรรมที่ควรได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องรับข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

2.วิธีปิดหนังสือเชิญไม่รักษาความลับของทางราชการ โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบตามที่กำหนดว่าต้องบรรจุซอง 2 ชั้น และป้องกันการเปิดเผยข้อมูลลับ แต่การปิดหมายที่พักอาศัยของ ส.ว. 6 คนในเขตกรุงเทพฯ ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบการรักษาความลับทางราชการสร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติยศของผู้ถูกกล่าวหา แม้ว่าจะจงใจหรือไม่ก็ตามในการแจ้งสื่อมวลชนไปทำข่าว แต่ทางการกระทำดังกล่าวถือเป็นเจตนาพิเศษให้เกิดความเสียหายโดยไม่สุจริต

3.การปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นกลางและเลือกปฏิบัติทำให้เกิดความเข้าใจได้ว่าสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกเรียกและรับทราบข้อกล่าวหาเป็นผู้กระทำความผิด เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวหลายแขนงรับฟังได้ว่ามี ส.ว.กลุ่ม 8+1 หรือ กลุ่ม 21+24 ที่ไม่ปรากฏว่ามีการสืบสวนไต่สวนแต่อย่างใด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นกลางและอาจมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง มุ่งเฉพาะกลุ่มดังกล่าว

ทั้งนี้ กกต.เป็นองค์กรอิสระปราศจากการครอบงำความทางการเมือง แต่มีข้อน่าสังเกตว่าคณะกรรมการชุดที่ 26 มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 3 คนร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของ รมว.ยุติธรรม ที่อาจเข้าใจได้ว่าการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้ รมว.ยุติธรรมหยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับดีเอสไอ ดังนั้นจึงสามารถที่จะยืนยันได้ว่าการสืบสวนการได้มาของดีเอสไอ ตั้งแต่การตั้งเป็นคดีสืบสวนที่ 151/2567 การสืบสวนซึ่งการได้มา ส.ว. ตาม พ.ร.บ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ 2547 ไม่ได้ให้อำนาจไว้ ซึ่งตนได้ยื่นศาลได้ธรรมนูญและ ป.ป.ช. ตรวจสอบในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ กคพ.

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า จึงขอร้องเรียนประธาน กกต.ดังนี้

1.ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนชุดที่ 26 เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

2.ให้มีการเพิกถอนกระบวนการที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนที่นัดมาและการสอบสวนมาจากดีเอสไอ และไม่ให้นำสำนวนที่ได้รับจากดีเอสไอมาร่วมด้วย

3.ให้ผู้ถูกกล่าวหาให้มีโอกาสได้ตรวจสอบและเข้าถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่ใช้ตั้งข้อกล่าวหา เพื่อป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของตนเอง ทั้งนี้ขอให้ กกต.ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ รอบด้าน เพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ในหลักการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เสมอภาค ความเป็นกลาง เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระของคณะกรรมการการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่าจะยอมรับการตรวจสอบของคณะกรรมการสืบสวน ชุดที่ 26 หรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า เรายอมรับการตรวจสอบของ กกต.ที่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเป็นกรรมการชุดที่ 26 ที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรวมอยู่ด้วยยอมรับหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า ตนได้กล่าวแล้วว่า ถ้าการสอบสวนเป็นของ กกต. การตั้งกรรมการชุดที่ 26 ถ้าปราศจากการครอบงำทางการเมือง ตนเคยพูดแล้วว่าการดำเนินการของดีเอสไอตั้งแต่ชั้นสอบสวน มีการเบี่ยงเบนประเด็นการทำงานมายืมมือกรรมการสืบสวน ซึ่งประธานคณะกรรมการสอบสวน ควรเลือกตั้งคนที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาร่วม อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พนักงานอัยการ หรือส่วนที่เกี่ยวข้องที่จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาได้ เพราะการกล่าวหาที่ครอบคลุม เคลือบแคลง เป็นที่สงสัย ทำให้ ส.ว.ทุกคนมาให้ข้อมูลได้ไม่ชัดเจน ซึ่งจากการทำเสนอของสื่อ ทำให้การอสอบสวนกลายเป็นการฟังผู้ร้องฝ่ายเดียว โดยไม่ดูพยานหลักฐานว่าเพียงพอที่จะยืนยันการกล่าวหาได้หรือไม่

เมื่อถามว่า ถ้ายังมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมเป็นกรรมการอยู่ จะให้ความร่วมมือในการชี้แจงข้อกล่าวหรือไม่ หรือจะดำเนินการอย่างไรต่อ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า เรายืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับ กกต. แต่เรามีเหตุเคลือบแคลงสงสัยว่าการได้มาซึ่งพยานหลักฐาน แล้วมากล่าวหาให้เราไม่สามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้อย่างชัดเจน แต่จะเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอออกหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของประธาน กกต. ซึ่งตนก็ได้เสนอ

เมื่อถามย้ำว่า ประธาน กกต.และเลขาฯกกต.ไม่ได้สัมภาษณ์ปฏิเสธการทำงานของคณะกรรมการสอบสวน ที่ 26 พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า ตนให้เป็นข้อสังเกตให้สังคมได้รับทราบ แต่ตนไม่ได้ต่อสู้หรืออะไร กระบวนการถ้าชอบด้วยกฎหมาย มีอำนาจก็ทำไปตามหน้าที่ แต่ถ้าไม่มีอำนาจตามกฎหมาย หรือกฎหมายไม่ให้อำนาจ การกระทำดังกล่าวก็ต้องรับผิดชอบ การชี้ถูกชี้ผิดเป็นเรื่องที่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การไต่สวน การพิจารณาอยู่ที่ กกต. แต่การออกมาชี้นำสื่อให้สังคมมองว่า การได้มาของ ส.ว. เป็นที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ทั้งที่ กกต.รับรองพวกเราให้ปฏิบัติหน้าที่มาระยะหนึ่งแล้ว ที่ผ่านมา ทุกการเลือกตั้งไม่เคยมีเหตุ แต่เมื่อมีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งจากทางการเมือง ตามที่มีการเสนอข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังซักถามผู้แถลงข่าวนั้น ปรากฏว่า นายบุญส่ง ชเลธร นักวิชาการ ซึ่งยืนอยู่ในกลุ่มสื่อมวลชน ได้สอบถามว่า การฮั้ว ส.ว.เกิดจากการชี้นำของสื่อ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า “ถือว่าสื่อเป็นกระจกเงาสะท้อนสังคม แต่ไม่ใช่เลนส์ เมื่อก่อนเคยคิดว่า โลกนี้กว้างใหญ่มหาศาล แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่แล้ว” นายบุญส่งกล่าวอีกว่า “ท่านมาจาก ส.ว. ย่อมรู้ว่ามีการฮั้วหรือไม่ ท่านควรยอมรับความจริง ผู้มีอำนาจเที่ยวปัด อ้างนู่นอ้างนี่ โกหกจนเคยตัว โกหกกันจนลิ้นดำ” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า “ท่านก็ต้องไปกล่าวโทษผู้มีอำนาจ และผมไม่ได้ลิ้นดำ”

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามแจ้งขอให้ผู้สื่อข่าวทำหน้าที่ก่อน พร้อมถามต่อว่า ตอนนี้มีการยื่นให้ถอดถอน ส.ว.ทั้ง 138 คน แล้ว พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า ที่บ้านเมืองไม่ปกติเพราะการเมือง เมื่อเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องใด ทุกคนทราบดี จริงๆ ทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพที่จะต่อสู้ ไปตามวิถีทางประชาธิปไตย

เมื่อถามว่ามีการมองว่า ส.ว.มีการฝักใฝ่พรรคการเมือง วันนี้จึงมีการมายื่นยุบพรรค พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า ตนไม่เคยปรากฏ หน้าผากตนเขียนไว้หรือไม่ว่าชื่อพรรคไหน ดังนั้น ตนได้เป็น ส.ว. จากการทำงานในราชการมา ด้วยความรู้ความสามารถ และเมื่อเข้ามาในสภามีอำนาจแค่ไหนก็ทำตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นกลางนั้นเป็นการคิดเอาเอง มันอยู่ที่ผู้ปฏิบัติ ถ้าผู้ปฏิบัติมีใจบริสุทธิ์ ความเป็นกลางมันย่อมเกิดขึ้น แต่ถ้าจิตใจไม่บริสุทธิ์ถูกครอบงำจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ก็ทำให้การกระทำไม่บริสุทธิ์

เมื่อถามถึงกรณีมีข่าว ส.ว.หลายคนเดินทางไปที่โรงแรมพูลแมน พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า บางคนมีเงินก็ไปกินข้าว ส่วนนายอลงกต ได้ถามกลับสื่อมวลชนว่า What is Pullman?, Like a pool ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า “โรงแรมพูลแมน” นายอลงกตกล่าวว่า Where is hotel Pullman? ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับไปว่า “ซอยรางน้ำ” นายอลงกตจึงตอบว่า “Where is Soi Rangnam” ผู้สื่อข่าวจึงถามกลับอีกว่าแสดงว่าไม่เคยไปใช่หรือไม่ นายอลงกตตอบว่า “I know only Rattanakosin Hotel”

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อถึงกรณี กุสุมาลวตี ศิริโกมุท เปิดเผยว่า มีการให้ ส.ว.เซ็นใบลาออกเป็นประกันไว้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า ไม่รู้ พวกท่านรู้ดีว่ากำพืดของคนเคยเป็น ส.ส.เป็นอย่างไร นักข่าวรู้ดี แต่ตนเป็น ส.ว.ครั้งแรก ถือว่ามาโดยสุจริต มีอาชีพสุจริต ช่วยเหลือประชาชนมาเยอะ ใครจะกล่าวหาอย่างไรก็ว่าไป แต่ถ้ามีเอ่ยชื่อตนค่อยว่ากัน

ด้าน พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ตอนนี้สังคมตราหน้าว่าพวกเราฮั้ว ก่อนจะย้อนถามว่าฮั้วคืออะไร พร้อมขอให้อย่าพูดคำนี้เพราะพวกเรามีศักดิ์และมีศรี ส่วนตัวตนรับราชการมาจนเกษียณได้รับคำกล่าวหานี้ก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน เพราะกว่าที่จะผ่านการคัดเลือกในแต่ละรอบ กฎหมายระบุว่าสามารถแนะนำตัวได้เพื่อให้รู้จักกัน แล้วการรู้จักกันเยอะๆ เพื่อให้มีการเลือกกันเป็นความผิดด้วยหรือไม่ ขณะเดียวกัน ยังตั้งคำถามถึงการส่งหมายเชิญให้มารับทราบข้อกล่าวหากันอย่างอึกทึกครึกโครม เหมือนอย่าง ส.ว. มีความผิดแล้ว จนสังคมตั้งคำถามว่า ส.ว.มีความผิดอะไร

ด้าน นายอลงกตกล่าวเป็นภาษาไทยถึงการส่งหมายเชิญว่า ไม่ใช่หมาย แต่เป็นหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งตามระเบียบงานสารบัญและการชั้นความลับทางราชการ หนังสือฉบับนี้ต้องการมีประทับตราคำว่าลับทั้งด้านบนและด้านล่างของเอกสาร และต้องมีใบปิดด้านหน้า หากมีการส่งไปรษณีย์ ต้องมีการปิดซองทึบ แต่ถ้าส่งไปรษณีย์ไม่ได้ถึงจะต้องปิดหมายที่หน้าบ้านพัก และต้องปิดซองทึบด้วย แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำกลับไปติดเป็นซองใสถือว่าผิดกระบวนการการรักษาชั้นความลับและการปฏิบัติงานสารบัญ นอกจากนี้ ข้อความในเอกสารยังแสดงให้เห็นข้อความที่ทำให้ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ซึ่งถือว่ามีความผิดตาม ม.157 ซึ่งตนจะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่สั่งการ และเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการที่นำหมายไปติด

ทั้งนี้ หลังนายอลงกตให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเสร็จสิ้นแล้ว ได้ถามผู้สื่อข่าวว่ามีอะไรจะถามหรือไม่ แต่ผู้สื่อข่าวถามกลับว่าวันนี้พูดภาษาไทยได้แล้ว นายอลงกตได้เดินกลับมาที่ไมค์พร้อมพูดว่า No Comment. Thank you very much. จากนั้นนายอลงกตได้เดินออกไปจากวงสัมภาษณ์ ก่อนหันกลับมาพูดกับผู้สื่อข่าวเป็นภาษาอังกฤษว่า It’s very important and very deep details. It’s personal. ซึ่งแปลว่า มันเป็นเรื่องสำคัญมาก มีรายละเอียดเชิงลึก และเป็นเรื่องส่วนบุคคล

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.