อัครแสนคีรี สวน ‘เท้ง’ รู้ไหมชาวบ้านเดือดร้อนเรื่องอะไร มองงบ 69 ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ
GH News May 29, 2025 06:03 AM

อัครแสนคีรี สวน ‘เท้ง’ รู้ไหมชาวบ้านเดือดร้อนเรื่องอะไร มองงบ 69 ช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ลั่น รัฐบาลมีหัวใจเพื่อ ปชช.

เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 28 พฤษภาคม นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคกล้าธรรม กล่าวอภิปรายต่อที่ประชุมสภา สมัยวิสามัญ (เป็นพิเศษ) วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาทว่า ตัวเลข 3.78 ล้านล้านบาท สำหรับประชาชน ไม่ใช่แค่ตัวเลข มันคือคำถามว่า งบนี้จะเปลี่ยนชีวิตเขาได้จริงหรือไม่ ตนลงพื้นที่ทุกอาทิตย์ไม่ได้อยู่แค่ใน กทม.เพื่อฟังเสียงพี่น้อง ชาวบ้าน เกษตรกร แม่ค้า พ่อค้า ลูกจ้าง ทุกคนพูดเหมือนกันว่า เราไม่หวังมาก แค่ขออย่าให้ถูกลืม

“ผมขอเห็นแย้งกับผู้นำฝ่ายค้านที่พูดว่า รัฐบาลเอางบประมาณไปทุ่มแต่กับการตัดถนน ขุดคลอง สร้างตึก ท่านพูดได้อย่างไร ท่านทราบหรือไม่ว่า ชาวบ้านในชนบทเขาเดือดร้อนอย่างไรบ้าง เค้าไม่ได้เดือดร้อนเรื่องถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ถนนไม่มีไหล่ทางหรือครับ เขาไม่ได้เดือดร้อนเรื่องปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วม เค้าไม่ได้เดือดร้อนเพราะโรงพยาบาลแออัดหรือ” นายอัครแสนคีรี กล่าว

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ตนมองว่า งบประมาณปีนี้รัฐบาลตั้งใจวางระบบไม่เน้นหว่าน โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมลงพื้นที่จริง งบลงทุนยังคงสัดส่วนสูง แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดหนี้สาธารณะ โดยมีการวางแนวทางเร่งรัดการเบิกจ่ายตั้งแต่ต้นปี ไม่ให้ซ้ำรอยปีที่ผ่านมา ตนขอชื่นชมรัฐบาล และสำนักงบประมาณ ที่ออกแบบงบไม่ใช่แค่เอาตัวรอด แต่มีทิศทาง ทั้ง ๆ ที่กำลังเผชิญกับปัจจัยแวดล้อมทั้งภายใน และภายนอก ไม่ว่าจะเป็นกำแพงภาษี และความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจ

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ปี 2569 นี้กระทรวงเกษตรฯได้งบประมาณ 133,177 ล้านบาท ฟังดูเหมือนเยอะ แต่ถ้าเทียบกับภารกิจ เช่นการบริหารจัดการน้ำ การส่งเสริมเกษตรปศุสัตว์มูลค่าสูง การลดค่าใช้จ่ายปัจจัยการผลิต ก็ยังคงไม่เพียงพอที่จะบริหารจัดการ สิ่งที่น่าชื่นชม ไม่ใช่ตัวเลขงบประมาณ แต่คือการตั้งงบที่ไม่ได้กระจุก เหมือนในอดีตแต่เน้นการวางระบบ เปลี่ยนวิธีคิด และเสริมอำนาจต่อรองให้เกษตรกร ซึ่งเกิดจากการตั้งงบประมาณของกระทรวงเกษตรฯที่ยึดศูนย์กลางคือ พี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง

นายอัครแสนคีรี กล่าวว่า เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้ที่วางรากฐานการทำงานเชิงรุก ให้กับกระทรวงเกษตรอย่างแท้จริงก็คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ซึ่งท่านได้ลงพื้นที่เพื่อให้เห็นปัญหาอย่างถ่องแท้และนำมาสู่การตั้งงบประมาณที่ยึดโยงกับปัญหาของเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการจัดสรรน้ำ จากแหล่งน้ำชลประทานเข้าสู่พื้นที่นอกเขตชลประทาน และการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องเกษตรกร โดยการออกโฉนดเพื่อการเกษตร โฉนดต้นไม้ ต้นยางพารา ทำให้เกษตรกรในชนบทเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ นี่คือการวางรากฐานให้เกษตรกร ไม่ใช่แค่การโรยปุ๋ย

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ตนขอฝากรัฐบาลว่า อย่าลืมแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรกว่า 3.55 ล้านบาท และครูอาจารย์ กว่า 1.4 ล้านล้านบาท เพื่อให้กระดูกสันหลังของชาติ และผู้สร้างอนาคตให้ลูกหลานของประเทศ ไม่ต้องจมอยู่กับหนี้ตลอดชีวิต นอกจากนี้ตนขอฝากนายกรัฐมนตรี ให้นำงบกลางที่ท่านตั้งไว้กว่า 6 แสนล้าน มาพยุงราคาพืชผลสินค้าการเกษตรที่ตกต่ำ ด้วยการลดรายจ่ายค่าปุ๋ย และปัจจัยการผลิต เร่งรัดการจ่ายค่าตัดอ้อยสด 120 บาทต่อตัน ซึ่งพี่น้องรอคอยมานานมากแล้ว

“ผมขอยืนยันว่า งบประมาณปี 2569 ไม่ใช่แค่รายจ่ายของแผ่นดินแต่มันคือ การลงทุนในศักดิ์ศรีของคนไทย รัฐบาลนี้ไม่ได้เพอร์เฟกต์ แต่ผมเห็นว่ารัฐบาลนี้มีหัวใจและงบปีนี้คือบทพิสูจน์ว่า หัวใจนั้น ยังเต้นอยู่เพื่อประชาชน” นายอัครแสนคีรี กล่าว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.