‘สุรเดช’ นำทีม พปชร. รับฟังปัญหาเกษตรกรโคนมแม่ออน พบปะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 8 จว.เหนือตอนบน ไม่หวั่น ส.ส.ย้ายพรรค ยัน ‘บิ๊กป้อม’ ยังฟิตเปรี๊ยะ สมัยหน้าตั้งเป้าได้ 120 ที่นั่ง
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ศาลาประชาคม หมู่ 9 ต.ออนกลาง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อม นายภัครธรณ์ เทียนไชย รองเลขาธิการพรรค ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง พปชร. และคณะได้ลงพื้นที่พบปะและรับฟังปัญหากลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ที่กำลังเผชิญกับปัญหาราคาน้ำนมดิบตกต่ำและอุปสรรคเข้าถึงกองทุนฟื้นฟูเกษตรกรกร มีตัวแทนกลุ่มประชาชนที่เดือดร้อนและได้รับผลกระทบเข้าร่วมกว่า 100 คน
นายสุรเดชกล่าวว่า เป็นตัวแทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้า พปชร. มารับฟังปัญหาประชาชนที่ร้องเรียนผ่านว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค แม้ไม่ได้เป็น ส.ส.เชียงใหม่ ก็ตาม ซึ่งเป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นของพรรคในการเข้าถึงและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนประชาชนระดับรากหญ้า พร้อมเปิดเวทีรับฟังปัญหาสำคัญจากกลุ่มเกษตรกรหลายประเด็น อาทิ ปัญหาน้ำนมดิบราคาตกต่ำ ที่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมพื้นที่ อ.แม่ออน ได้รับผลกระทบเพราะตอนนี้ราคาน้ำนมดิบลดลงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จ.เชียงใหม่ ซึ่งตัวแทนเกษตรกรได้หยิบยกประเด็นเกี่ยวกับซื้อหนี้ และขอรับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนการผลักดัน และส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มดังกล่าว ซึ่งการทำงานพรรคได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนไม่ว่าอยู่ตรงไหนก็ตาม
ที่ร้านสิบสองปันนา ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายสุรเดช พร้อมนายภัครธรณ์ ได้พบปะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, ลำพูน, น่าน, แม่ฮ่องสอน, พะเยา และแพร่ มี นายสันติ ตันสุหัช อดีต ส.ส.เชียงใหม่ 3 สมัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อธรรม ปัจจุบันสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายวิทยา ทรงคำ อดีต ส.ส. 5 สมัยและอดีตเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่, นายพรชัย อรรถปรียางกูร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 พรรคไทยรักไทยและเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พปชร., นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ 2 สมัย อดีตกรรมการบริหารพรรคความหวังใหม่, นายถาวร เกียรติไชยากร อดีต ส.ว.เชียงใหม่, นายพจนารถ ศรียารัณย์ อดีต ส.อบจ.เชียงใหม่, นางศรีพรรณ เขียวทอง อดีตนายกเทศมนตรี ต ดอนแก้ว อ.สารภี, นายยุทธนา สุวรรณ อดีต ส.อบจ. อ.สารภี และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พปชร.ภาคเหนือตอนบน เข้าร่วมกว่า 30 คน
นายสุรเดชกล่าวว่า ในฐานะรองหัวหน้า พปชร.ที่ดูแลพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ซึ่งตนเป็นอดีต ส.ว.พะเยา เพื่อเตรียมเลือกตั้ง ส.ส.อีก 2 ปีข้างหน้า ได้ขอ พล.อ.ประวิตรว่าถ้าได้ตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 34 เขตแล้ว ขอไปช่วยคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอื่นด้วย โดยใช้เครือข่ายเมื่อครั้งเป็นอดีต ส.ว. ปัจจุบันพรรคมี ส.ส.อยู่ 19 คน และเป็นฝ่ายค้าน แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ยังยึดเรื่องแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนเป็นหลัก
“การลงพื้นที่เพื่อหาตัวว่าที่ผู้สมัครดังกล่าวเพื่อเตรียมรับเลือกตั้ง เมื่อสรรหาได้แล้วไม่อยากให้ยุบสภา หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้น พร้อมเลือกตั้งทันที เพราะเค้าลางมันมีมาอยู่เรื่อยๆ บางทีมีเค้าแต่ฝน แต่ไม่ตกก็มี ส่วนเรื่อง ส.ส.ย้ายพรรคและถูกดูดไป พล.อ.ประวิตรไม่ได้ติดใจและเป็นห่วงอะไร ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะขึ้นอยู่กับกระแสและนโยบาย ถ้ามีการเลือกตั้งเมื่อใดประชาชนเท่านั้นเป็นผู้ตัดสิน อำนาจอยู่ในมือประชาชน พล.อ.ประวิตร บอกว่าเลือกตั้งครั้งหน้าอยากได้ 60 ที่นั่ง แต่ผมอยากเพิ่ม 1 เท่าตัว หรือ 120 ที่นั่ง เพื่อให้พรรคเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้าด้วย” นายสุรเดชกล่าว
นายสุรเดชกล่าวอีกว่า พปชร. มีนโยบายชัดเจนแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ปกป้องสถาบัน ไม่แก้ ม.112 และไม่เอาบ่อนกาสิโนแน่นอน ซึ่ง พล.อ.ประวิตรไม่เคยเป็นเผด็จการ ไม่เคยปฏิวัติ แต่เป็นทหาร ซึ่งมีอดีตทหารหลายคนที่เกษียณแล้วออกมาตั้งพรรคการเมือง พล.อ.ประวิตรมีอายุ 80 ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรง แม้ตกบันไดถึง 4 ชั้น ยังเดินได้ปร๋อ ถ้าท่านไม่รักไม่ห่วงประชาชน คงไม่ทำพรรคการเมือง
“วันนี้การเมืองวุ่นวาย แต่พรรคเรานิ่ง เราเคยวุ่นวายมาก่อน ตอนนี้เราเปลี่ยนโลโก้ใหม่ มีคนที่มีคุณวุฒิเข้ามามากมาย และพร้อมเลือกตั้งตลอดเวลา ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์สำคัญในหาเสียงเลือกตั้งคือมีความจริงใจ จริงจัง ช่วยเหลือปากท้องประชาชน เพราะเป็นพรรคอนุรักษนิยม ทันสมัย ลดช่องว่างระหว่างชนชั้น และความเหลื่อมล้ำทางสังคมด้วย” นายสุรเดชกล่าว