ช้าง จูเนียร์ คัพ 2025 จับติ้วรอบชิงแชมป์ประเทศไทย-ลีซอ ร่วมส่งต่อแรงบันดาลใจ
“น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง” เตรียมระเบิดศึกฟุตบอลเยาวชนรุ่นอายุ 13 ปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รายการ “Chang Junior Cup 2025” (ช้าง จูเนียร์ คัพ 2025) ที่สุดของรายการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน ต่อยอดสู่นักฟุตบอลอาชีพ เดิมพันด้วยรางวัลอันล้ำค่าที่เงินหาซื้อไม่ได้กับประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมอบให้กับแชมป์ พร้อมเพิ่มรางวัลพิเศษในปีนี้ “Chang Sportsmanship Awards” สำหรับนักเตะผู้มีน้ำใจนักกีฬายอดเยี่ยม ซึ่งจะได้เดินทางไปเปิดประสบการณ์ฟุตบอลระดับโลกที่ประเทศอังกฤษ ในเดือนสิงหาคมนี้
Chang Junior Cup 2025 ได้จัดพิธีจับสลากแบ่งสายการแข่งขัน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่ออดิทอเรียม อาคารไทยเบฟ ควอเตอร์ โดยมี นางเจษฎากร โคชส์ ผู้อำนวยการสำนักการตลาดน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง พร้อมด้วย นายโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกีฬา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), นายโชติรัฏฐ์ ศิริอัฐ ผู้แทนผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง เข้าร่วมพิธี อีกทั้งยังมีตำนานช้างศึก “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ลูกหนัง และสร้างแรงบันดาลใจบนเส้นทางสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ให้กับน้องๆ ทั้ง 16 ทีมที่ผ่านการแข่งขันสู่รอบชิงแชมป์ประเทศไทยในปีนี้
นางเจษฎากร โคชส์ กล่าวว่า น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง ยกระดับวงการฟุตบอลสู่เวทีโลก พร้อมมุ่งมั่นพัฒนา สร้างรากฐาน และความยั่งยืนให้กับฟุตบอลไทยทั้งระบบ เริ่มตั้งแต่ระดับเยาวชน ด้วยการจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน รุ่นอายุ 13 ปี ในรายการ “Chang Junior Cup 2025” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 เพื่อเปิดโอกาสและสร้างเวทีการแข่งขันให้น้องๆเยาวชนทั่วประเทศได้ประลองฝีเท้า ซึ่งเป็นบันไดสำคัญในการพัฒนาสู่การแข่งขันในระดับมหาวิทยาลัย ภายใต้โครงการ Chang U-Champion Cup ที่ต่อยอดสู่นักเตะอาชีพรวมถึงทีมชาติไทยในอนาคต และไฮไลต์ในปีนี้ “ช้าง” ได้เพิ่มรางวัลพิเศษ “Chang Sportsmanship Awards” จำนวน 2 รางวัล ซึ่งจะได้ไปเปิดประสบการณ์ฟุตบอลระดับโลกที่อังกฤษกับทีมแชมป์ และ Most Talented Player ในปีนี้”
ขณะที่ นายโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน กล่าวว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมามีน้องๆ จากโครงการ Chang Junior Cup ก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพแถวหน้าของประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ต้า” ทรงชัย ทองฉ่ำ แชมป์ปี 2013 สโมสรชลบุรี เอฟซี, “หนึ่ง” ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ที่เคยลงแข่งขันให้กับเมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2014 ปัจจุบันสังกัดสโมสรชลบุรี เอฟซี, “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้ายอดเยี่ยม ปี 2015 จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, “พีม” สิทธา บุญหล้า ชุดแชมป์ปี 2017 จากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี สังกัดการท่าเรือ เอฟซีในปัจจุบัน รวมทั้งดาวรุ่งดวงใหม่ “ซีโฟร์” คคนะ คำยก MVP ชุดแชมป์ปี 2017 จากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี สังกัดสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ดในปัจจุบัน และน้องๆ อีกมากมายที่โลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอล ทั้งในสโมสรอาชีพ ทัพช้างศึกทีมชาติไทย และในลีกต่างประเทศ ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงการที่ ช้าง พัฒนาฟุตบอลสู่เวทีโลกอย่างแท้จริง รวมถึง “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย หนึ่งในนักฟุตบอลเยาวชนที่เติบโตสู่เส้นทางอาชีพและทีมชาติไทย ซึ่งในวันนี้ก็ได้มาถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้ไปค้าแข้งในต่างประเทศซึ่งเป็นประโยชน์ให้กับน้องๆเป็นอย่างมาก
ด้าน “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย กล่าวว่า เป็นระยะเวลากว่า 20 ปีที่ตนโลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอลไทย เริ่มตั้งแต่การเป็นนักเตะเยาวชน จนได้เข้าร่วมโครงการ ช้างไทยไปเอฟเวอร์ตัน รุ่นแรก ไปฝึกกับสโมสรเอฟเวอร์ตัน ที่ช้างสนับสนุนในตอนนั้น ถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่ามาก เพราะทำให้เราได้เรียนรู้ฟุตบอลอาชีพที่มีมาตรฐานระดับโลก ช่วยให้เราพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ช้างอยู่เคียงข้างวงการฟุตบอลในทุกโมเมนต์ พัฒนาวงการฟุตบอลไทยมาโดยตลอด สร้างนักฟุตบอลตั้งแต่เยาวชน ผ่านโครงการ Chang Junior Cup ที่จัดให้น้องๆ รุ่นอายุ 13 ปีโดยเฉพาะ ซึ่งถือเป็นบันไดก้าวแรกก่อนการแข่งขันในระดับมหาวิทยาลัย อย่าง Chang U-Champion Cup และในระดับอาชีพ เราได้เห็นน้องๆ นักเตะรุ่นใหม่หลายคนที่ผ่านโครงการนี้ได้เติบโตขึ้น หวังว่าทุกคนจะมุ่งมั่น ตั้งใจฝึกซ้อม พัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพและเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในอนาคต
สำหรับ Chang Junior Cup 2025 ในปีนี้ได้แข่งขันเพื่อหาตัวแทนทีมจากทั่วประเทศ ผ่านรอบคัดเลือกใน 6 ภูมิภาค มีทีมสมัครเข้าร่วมการแข่งขันร่วม 300 ทีม ซึ่งในตอนนี้เราได้สุดยอดทีมเยาวชนตัวแทนทุกภาคทั่วประเทศจำนวน 7 ทีม ประกอบด้วย พัทยา ยูไนเต็ด แชมป์ภาคตะวันออก / โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ฯ แชมป์ภาคใต้ / Buriram United Academy U12 แชมป์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ / สิงโตแดง จูเนียร์ (โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์) แชมป์ภาคเหนือ / โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 1 (บ้านเก่าวิทยา) แชมป์ภาคกลาง / สโมสรราชนาวี เอฟซี แชมป์ และโรงเรียนวัดสุทธิวราราม รองแชมป์ โซนกรุงเทพฯและปริมณฑล
โดยทั้ง 7 ทีม จะเข้าแข่งขันกับทีมเยาวชนจากสโมสรแถวหน้าของประเทศไทย จำนวน 9 ทีม คือ โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี แชมป์เก่า ดีกรีแชมป์ 6 สมัย, ชลบุรี เอฟซี ดีกรีแชมป์ 2 สมัย, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อคาเดมี รองแชมป์ปี 2019, ราชบุรี เอฟซี รองแชมป์ปี 2017, โปลิศ เทโร เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี, นครปฐม ยูไนเต็ด U13, อีซูซุ สุพรรณ อคาเดมี และทหารบก เอฟซี แข่งขันแบบแบ่งกลุ่ม 4 กลุ่ม เพื่อหาทีมที่มีคะแนนที่ดีที่สุดอันดับ 1 และ 2 ของกลุ่มเข้าแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในระบบน็อกเอ้าต์ จนถึงรอบชิงชนะเลิศ
ผลการจับสลากแบ่งกลุ่มการแข่งขัน Chang Junior Cup 2025 มีดังนี้
-กลุ่ม A ได้แก่ โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี, โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ฯ, สิงโตแดง จูเนียร์ (โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์) และราชบุรี เอฟซี
-กลุ่ม B ได้แก่ นครปฐม ยูไนเต็ด U13, ชลบุรี เอฟซี, อีซูซุ สุพรรณ อคาเดมี และสโมสรราชนาวี เอฟซี
-กลุ่ม C ได้แก่ โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 1 (บ้านเก่าวิทยา), โปลิศ เทโร เอฟซี, Buriram United Academy U12 และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อคาเดมี
-กลุ่ม D ได้แก่ ทหารบก เอฟซี, พีที ประจวบ เอฟซี, พัทยา ยูไนเต็ด และโรงเรียนวัดสุทธิวราราม
“Chang Junior Cup 2025” ได้รับความร่วมมือจาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้, บริษัท บูทรูม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดกีฬาแบรนด์อาริเกียร์ และบริษัท มอลเทน (ไทยแลนด์) จำกัด ที่มาร่วมพัฒนาและยกระดับวงการฟุตบอลไทยสู่สากล
สำหรับ “Chang Junior Cup 2025” รอบชิงแชมป์ประเทศไทย จะเริ่มแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม ที่สนามไทยเบฟ ฟุตบอล อคาเดมี กรุงเทพฯ ในวันที่ 3-5 มิถุนายน 2568 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แข่งขันวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ส่วนรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันในวันที่ 14-15 มิถุนายน 2568 ที่สนามอินทรีจันทรสถิตย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ โดยทีมแชมป์จะได้ไปเปิดประสบการณ์ที่ประเทศอังกฤษแบบเอ็กซ์คลูซีฟ เข้าชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษแบบติดขอบสนาม พร้อมลงแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรกับอคาเดมีของเกาะอังกฤษ
ส่วนรองชนะเลิศจะได้รับทุนการศึกษา 50,000 บาท, อันดับที่ 3 จะได้รับทุนการศึกษา 30,000 บาท และอันดับที่ 4 จะได้รับทุนการศึกษา 20,000 บาท รวมทั้งรางวัลพิเศษสำหรับนักเตะฝีเท้าดีที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของวงการฟุตบอลไทย ได้แก่ ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม, กองหลังยอดเยี่ยม, กองกลางยอดเยี่ยม, กองหน้ายอดเยี่ยม, รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม หรือ Most Valuable Player (MVP) อีกทั้งรางวัลนักเตะผู้มีพรสวรรค์ หรือ “Most Talented Player” จำนวน 1 รางวัล พร้อมรางวัลพิเศษ “Chang Sportsmanship Awards” จำนวน 2 รางวัล รวมทั้งสิ้น 3 รางวัล ที่จะได้ไปเปิดประสบการณ์ฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษกับทีมแชมป์ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้