เป็นอีกเรื่องราวที่คนรักธรรมชาติสนใจ สำหรับกรณี เรือ MV.AYAR LINN สัญชาติเมียนมาเกยตื้นที่อ่าวหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา ส่งผลให้ชนแนวปะการังเสียหาย 75 เมตร และกระทบระบบนิเวศน์ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันที่ 4 มิ.ย.68 ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า
ในกรณีของเรือต่างชาติเกิดปัญหา วิ่งเข้าเกยตื้นที่แนวปะการังเกาะสุรินทร์ ทำให้ปะการังเสียหายยาว 75 เมตร ที่น่าห่วงคือปะการังสีน้ำเงินครับ
ปะการังสีน้ำเงิน (Heliopora coerulea) ด้านนอกดูเหมือนปะการังปรกติ แต่โครงสร้างหินปูนข้างในเป็นสีฟ้า/น้ำเงิน ดูจากภาพจะเห็นชัดเจน
ปะการังชนิดนี้ไม่ใช่ปะการังปรกติ เพราะเป็นญาติกับปะการังอ่อนและกัลปังหา (octocaral) มากกว่าปะการัง (hexacoral) จะเรียกว่าเป็นปะการังอ่อนกลุ่มเดียวที่สร้างโครงสร่างแข็งเป็นหินปูนก็ว่าได้
ปะการังสีน้ำเงินเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่ยังคงมีชีวิต ลักษณะคล้ายเดิมตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ (70-60 ล้านปีก่อน) แทบไม่เปลี่ยนไปเลย
ปะการังชนิดนี้พบเฉพาะเขตอินโดแปซิฟิก และพบบางที่เท่านั้น ในเมืองไทยที่พอมีเป็นดงคือเกาะสิมิลัน เกาะตาชัย และเกาะสุรินทร์
แถมยังไม่ได้มีเยอะทุกอ่าว ที่เกาะสุรินทร์เจอกันจริงจังคืออ่าวจากและเกาะสต็อร์ค
หากจะบอกว่าในทะเลไทยยุคนี้ มี “ดงปะการังสีน้ำเงิน” เหลืออยู่ไม่เกิน 10 แห่ง พูดได้เต็มปากครับ
แม้ในระดับโลก ปะการังสีน้ำเงินก็หายาก ถึงขั้นที่ IUCN ตั้งสถานภาพให้ว่าถูกคุกคาม (ปะการังทั่วไปไม่มีสถานภาพ) ยังอยู่ใน CITES Appendix
สำหรับเมืองไทย เหตุการณ์ที่ปะการังสีน้ำเงินเสียหายรุนแรงคือกรณีการท่องเที่ยวเกาะตาชัย เป็นหนึ่งในสาเหตุที่กรรมการที่ปรึกษาอุทยานตัดสินใจเสนอปิดเกาะเมื่อ 9 ปีก่อน
สำหรับกรณีเกาะสุรินทร์ กรมอุทยานประเมินขั้นต้นว่าพื้นที่เสียหาย 150 ตร.ม. ปะการังสีน้ำเงินเสียหายมากสุดถึง 80%
กรมทะเลมีตัวเลขค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูแนวปะการังปรกติทั่วไป แต่อยากบอกว่า “ทั่วไป” ในที่นี้ไม่รวมปะการังสีน้ำเงิน เพราะเราไม่เคยปลูกหรือฟื้นฟูปะการังชนิดนี้ ด้วยเหตุผลว่ามันยากมากๆ และโตช้ามากๆ
ขนาดปะการังปรกติที่โตช้าแล้า ปะการังสีน้ำเงินโตช้ายิ่งกว่า กรณีศึกษาใกล้เคียงสุดคงเป็นเกาะตาชัย 9 ปีผ่านไป เห็นความเปลี่ยนแปลงหน่อยเดียว
ทราบดีว่าเป็นเหตุฉุกเฉิน แต่อยากเน้นย้ำเรื่องนี้สักนิดว่าที่เสียหายคือปะการังสีน้ำเงิน สุดยอดปะการังหายาก/ปะการังโบราณ/ขึ้นบัญชีระดับโลก/แทบหาไม่ได้ในไทย
ดีใจที่ท่านรมต./กรมอุทยานให้ความสำคัญและรีบประเมินความเสียหาย แต่อยากให้ข้อมูลเพิ่มในส่วนนี้เพื่อการประเมินมูลค่าและการฟื้นฟูจะได้วางแผนให้รอบคอบ
เห็นภาพแล้วปวดใจ การฟื้นฟูเป็นเรื่องใหญ่มากครับ
ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat